วันนี้ (21 มกราคม) ที่ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และ พรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวแจ้งเตือนสุขภาพ ยกระดับมาตรการลดฝุ่น PM2.5
ปรีญาพรกล่าวว่า จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีแนวโน้มสูงในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และบางพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะตั้งแต่วันพุธที่ 22 มกราคม 2568 อาจพบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือระดับสีแดงในหลายจุด
ภาพรวมปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศวันที่ 20 มกราคม พบมีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ สาเหตุหลักมาจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่ไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นละออง สภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น อัตราการระบายอากาศต่ำ อีกทั้งยังพบจุดความร้อนทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน การคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 วันที่ 22-26 มกราคม 2568 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีค่าสูง และอยู่ในระดับสีแดงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะหากสถานการณ์จุดความร้อนในประเทศสูงขึ้น และยังคงพบจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก (ทิศเหนือลม)
พรพรหมกล่าวว่า จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่มีค่าสูงในสัปดาห์นี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเตรียม 3 มาตรการรับมือช่วงฝุ่นสูง
มาตรการที่ 1 การขอความร่วมมือ Work from Home (WFH) ในวันที่ 20-21 มกราคม 2568 แต่หากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 วันที่ 22-24 มกราคม 2568 ยังมีค่าสูงต่อเนื่อง ก็อาจจะพิจารณาขยาย WFH ต่อ ขณะนี้เครือข่ายของ WFH มีบริษัทเข้าร่วมกว่า 200 แห่ง ประมาณกว่า 100,000 คน สำหรับกรุงเทพมหานครมีการ WFH และเหลื่อมเวลาการทำงาน ซึ่งปีที่แล้วหลังประกาศ WFH สามารถลดปริมาณรถยนต์ลง 8%
มาตรการที่ 2 เขตมลพิษต่ำหรือ Low Emission Zone (LEZ) ซึ่งถ้าค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง 5 เขต และพยากรณ์ว่า 2 วันถัดไปจะมีสีแดง 5 เขต กรุงเทพมหานครจะใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ประกาศห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าในเขตรัชดาภิเษก ยกเว้นรถ EV, NGV, รถไฮบริด หรือรถที่เข้าบัญชีสีเขียว (Green List) ซึ่งมีประมาณ 30,000 คันที่เข้าร่วม และจากการทดลองใช้มาตรการในวันที่ 15-16 มกราคม 2568 มีรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่ LEZ ประมาณวันละ 2,400-2,900 คัน เป็นรถที่อยู่ใน Green List ประมาณ 400 คัน และหากประกาศใช้จริงจะบังคับใช้กฎหมายกับรถที่ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนประกาศ
มาตรการที่ 3 ได้แก่ การประกาศปิดโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยระยะเวลาการปิดจะพิจารณาจากค่า PM2.5 ซึ่งขณะนี้มีการปิดโรงเรียนแล้วจำนวน 4 แห่ง โดยจะมีการเรียนออนไลน์หรือชดเชยการเรียนการสอนแล้วแต่กรณี ในช่วงนี้ต้องความร่วมมือพี่น้องประชาชนเดินทางโดยใช้รถสาธารณะ
