Big C มองทิศทางเศรษฐกิจปี 2025 ท้าทายมาก ค้าปลีกเจอแรงกดดันจากกำลังซื้อและตลาดหุ้นไทยยังผันผวน ปีนี้จึงยังไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ยังลงทุนเปิดสาขาใหม่ ก่อนแย้มจะมีโมเดลใหม่ให้เห็นในชื่อ Big C The Color เร็วๆ นี้
อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่ม BJC ฉายภาพว่าเศรษฐกิจในประเทศยังท้าทายมาก ส่วนเศรษฐกิจโลกก็ต้องจับตาดูนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าจะมีผลต่อธุรกิจมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือปี 2025 กำลังซื้อไม่ได้โตขึ้น
หากสังเกตจะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยยังผันผวน รวมถึงบรรยากาศของการจ่ายโบนัส หรือแม้กระทั่งการขึ้นเงินเดือนของบริษัทก็มีส่วนทำให้ผู้คนระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้น แต่ประเมินว่านโยบาย Easy e-Receipt 2.0 และเทศกาลตรุษจีนคงมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
และล่าสุดเปิดตัวแคมเปญแรกของช่วงตรุษจีนซึ่งถือเป็นอีกช่วงที่กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคได้มาก มั่นใจว่าจะช่วยหนุนยอดขาย Big C ให้โตกว่า 1,180 ล้านบาท
หัวเรือใหญ่ Big C กล่าวต่อไปว่า จากปัจจัยความไม่แน่นอนดังกล่าว บริษัทจึงยังไม่มีแผนนำ Big C เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป แต่ยังมีการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งในด้านการขยายสาขาและรีโนเวตสาขาเดิม ควบคู่กับการดึงพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมขยายธุรกิจ และเตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ภายใต้ชื่อ Big C The Color ในปีนี้ ซึ่งอัศวินย้ำว่าหลังจากนี้จะมีการแจ้งข่าวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในปี 2024 เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และจากกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งในปีนี้ จะช่วยให้ยอดขายของบริษัทโตเป็นตัวเลขสองหลักเช่นกัน
