กษิดิศ สำเร็จ กับก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่แม้จะไม่ได้ชัยชนะ

“It’s World Class”

เป็นประโยคที่ผู้บรรยายของ beIN SPORTS กล่าวชม บูม-กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสหนุ่มไทยวัย 23 ปี ในการเล่นลูกดรอปช็อตเพื่อดึง ดานีล เมดเวเดฟ มาหน้าเน็ต ก่อนล็อปย้อนศรเก็บแต้มไปได้สำเร็จ

น่าเสียดายที่แมตช์นี้เขาไม่สามารถคว้าชัยเหนือ ดานีล เมดเวเดฟ ได้ และต้องหยุดเส้นทางในแกรนด์สแลมออสเตรเลียนโอเพนไว้ที่รอบแรกเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นกษิดิศก็มาถึงแกรนด์สแลมได้แล้ว

ต้องอย่าลืมว่าเวทีระดับแกรนด์สแลมไม่ใช่ว่านักเทนนิสที่ไหนอยากจะมาตีก็มาได้ แต่มันต้องต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อคว้าโควตา บ้างก็ต้องพยายามทั้งปีเพื่อทำอันดับโลกให้มาถึงจุดที่จะสามารถควอลิฟายเข้าไปได้

ในประวัติศาสตร์ชาติไทย มีนักเทนนิสที่ได้ไปเล่นในรอบเมนดรอว์แบบนับนิ้วได้ ไล่ตั้งแต่ ภราดร ศรีชาพันธุ์, ดนัย อุดมโชค, คู่แฝด สนฉัตร-สรรค์ชัย รติวัฒน์, แทมมารีน ธนสุกาญจน์, ลักษิกา คำขำ และ วรัชญา วงค์เทียนชัย

นั่นหมายความว่ากษิดิศเป็นนักเทนนิสไทยคนที่ 8 และนักเทนนิสชายเดี่ยวคนที่ 3 เท่านั้นที่ก้าวเข้ามาสู่เวทีใหญ่ที่สุดของวงการเทนนิสโลกเวทีนี้ได้

และโลกก็โหดร้ายกับน้องใหม่รายนี้พอสมควรเลย เมื่อเขาต้องจับสลากมาเจอกับ ดานีล เมดเวเดฟ นักหวดมือ 5 ของโลกและของรายการ ซึ่งเป็นรองแชมป์เก่าในรายการนี้เมื่อปีก่อน

เซ็ตแรกของชีวิตนักเทนนิสในศึกแกรนด์สแลม

“It’s World Class”

เซ็ตแรกของชีวิตนักเทนนิสในศึกแกรนด์สแลม

กษิดิศเริ่มต้นเซ็ตที่ 2 ได้ดีจากการรักษาเกมเสิร์ฟของตัวเองไว้ได้แม้จะอยู่ในสภาวะกดดัน อย่างไรก็ตามเขายังแก้ปัญหาเดิมไม่ได้ นั่นคือการตกเป็นฝ่ายรับในเกมเสิร์ฟของเมดเวเดฟ

กษิดิศมามีลุ้นเบรกเสิร์ฟเมดเวเดฟครั้งแรกในเกมที่ 5 ของเซ็ตที่ 2 แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จากการเจอลูกเสิร์ฟเอสความเร็ว 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของนักหวดรัสเซียปิดเซ็ตไป

กษิดิศยังเล่นในเกมเสิร์ฟตัวเองได้อย่างเหนียวแน่น และออนเสิร์ฟได้ในเกม 7 ของเซ็ตแม้ต้องเล่นกันยาวนานถึง 8 แต้ม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือการเล่นเกมรับที่ค่อยๆ ดีขึ้นของเขา ก่อนมาปล่อยทีเด็ดเบรกเสิร์ฟเมดเวเดฟในเกมที่ 10 เปิดเซ็ตนี้ไปด้วยสกอร์ 6-4 ตีเสมอเป็น 1-1 เซ็ต

เซ็ตที่ 3 กับความมั่นใจที่ใครก็หยุดไม่อยู่

ช่วงต้นของเซ็ตที่ 3 ทั้ง 2 ฝ่ายยังออนเสิร์ฟได้ในเกมแรกของตัวเอง จนกระทั่งในเกมที่ 5 กษิดิศต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเล่นดิวซ์เพื่อรักษาเกมเสิร์ฟ แต่เขาก็ทำได้ดีพอที่จะปิดเกมเสิร์ฟไปได้

กษิดิศพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเป็นคนที่รับมือกับความกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม และยังเป็นความกดดันจากมือระดับโลกอย่างเมดเวเดฟด้วย หลังต้องตามไปก่อน 0-40 ในเกมเสิร์ฟของตัวเอง และต้องรับมือกับ 3 เบรกพอยต์ แต่เขากลับเก็บ 5 แต้มรวดอย่างเยือกเย็น แซงกลับมาเปิดเกมเสิร์ฟได้สำเร็จและขึ้นนำ 4-3 ในตอนนั้นความมั่นใจของเขาต้องเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

กลายเป็นเมดเวเดฟที่แพ้ภัยจากความกดดันไปแทน หลังเสิร์ฟเสียดับเบิลฟอลต์ ทำให้กษิดิศขึ้นแท่นในเกมเสิร์ฟของตัวเอง

เกมต่อมานับเป็นหนังชีวิตของจริงสำหรับกษิดิศ เขาต้องเจอแรงกดดันเล่นงานอย่างหนัก หลังต้องออกไปเสิร์ฟเพื่อปิดเซ็ต แต่กษิดิศยังทำได้ดี อันที่จริงต้องเรียกว่าดีมากๆ สำหรับนักเทนนิสที่ไม่เคยแม้แต่เล่นในเอทีพีทัวร์เลย

เขาได้โอกาสปิดเซ็ต 4 ครั้ง และมีโอกาสโดนเบรก 1 ครั้ง แต่ที่ยอดเยี่ยมคือแม้จะเบรกไม่ได้ในโอกาสแรก แต่เขาก็ไม่เสียเบรกพอยต์เมื่อต้องเผชิญหน้า ทำให้สุดท้ายกษิดิศก็หาจังหวะเหมาะๆ ปิดเซ็ตไปได้ ซึ่งในเกมนี้เองที่เมดเวเดฟหงุดหงิดจนเอาแร็กเก็ตไปหวดกับกล้องที่ติดไว้กลางเน็ต

เซ็ตที่ 4 กับความกดดันของโลกใบใหม่

เซ็ตที่ 4 กษิดิศออกสตาร์มอย่างมั่นใจ แต่เมดเวเดฟก็ยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน ทำให้ช่วงแรกต่างฝ่ายต่างออนเสิร์ฟกันไว้ได้ แม้ว่าทั้งคู่จะต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันกันบ้างก็ตาม

กษิดิศมาเจอกับแรงกดดันอีกครั้ง หลังตีเสียในเกมเสิร์ฟของตัวเองในเกมที่ 4 ทำให้เมดเวเดฟเป็นฝ่ายเบรกเสิร์ฟใส่เขาไปได้ และนำ 3-1 หลังจากนั้นนักหวดรัสเซียมาปิดเกมเสิร์ฟของตัวเองได้สำเร็จ ทำให้กษิดิศไม่มีทางเลือก นอกจากต้องปิดเสิร์ฟให้ได้บ้างเพื่อโอกาสที่จะอยู่ในเกมนี้ต่อไป

แต่หลังยื้อกันถึง 12 แต้ม ก็เป็นเมดเวเดฟที่เบรกเสิร์ฟกษิดิศซ้ำ ทำให้เมดเวเดฟคว้าเซ็ตที่ 4 ไปครอง เสมอกัน 2-2 เซ็ต ต้องไปตัดสินกันในเซ็ตที่ 5

เซ็ตตัดสิน ประสบการณ์ที่แตกต่าง

ในเกมตัดสินเมดเวเดฟกดดันกษิดิศตั้งแต่เซ็ตแรกและเบรกเสิร์ฟไปได้ก่อน ทำให้เขาได้เปรียบตั้งแต่ต้นเซ็ตตัดสิน

การแข่งขันแบบ Best of 5 หรือ 3 ใน 5 เซ็ตช่วยเมดเวเดฟไว้ได้มากในวันนี้ เพราะใน 2 เซ็ตหลังเขาเล่นได้เหนือกว่าชัดเจน ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะว่ากษิดิศไม่เคยเล่นแบบ 3 ใน 5 มาก่อนเลยในชีวิต แต่เมดเวเดฟคุ้นเคยกับมันดีเพราะลงเล่นในแกรนด์สแลมปีละ 4 ครั้งมาตลอด 7 ปีหลังสุด

ในเซ็ตที่ 5 นี้เกมค่อนข้างเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะพละกำลังที่ลดลงไปมากของทั้ง 2 ฝ่าย โดยหลังจากที่กษิดิศเสียเกมเสิร์ฟในเกมแรกของเซ็ตนี้ ก็ยังไม่มีใครโดนเบรกเสิร์ฟกันอีกเลย

ในเซ็ตนี้กษิดิศตีเสียอันฟอร์ซเออร์เรอร์สเยอะมากถึง 12 แต้ม และส่วนใหญ่จะเป็นการตีเลยเส้นหลังออกไป โดยมีการวิเคราะห์ว่าเพราะแรงท็อปสปินของลูกที่เขาตีตกลงจากช่วงต้นเกม ทำให้ลูกหมุนไม่พอที่จะตกลงในเส้นท้ายคอร์ต

ก่อนที่สุดท้ายกษิดิศจะมาเสียอีก 1 เกมเสิร์ฟ เปิดทางให้เมดเวเดฟปิดเซ็ตเอาชนะไปในที่สุด ด้วยสกอร์ 3-2 เซ็ต 6-2, 4-6, 3-6, 6-1 และ 6-2 โดยใช้เวลาแข่งขันกว่า 3 ชั่วโมง

แม้จะแพ้ไปในเกมนี้ แต่ความยอดเยี่ยมของกษิดิศไม่ใช่ถูกมองเห็นเฉพาะแค่แฟนชาวไทยที่ดูอยู่ทางบ้านเท่านั้น เพราะแฟนๆ ในร็อดเลเวอร์อารีนาต่างปรบมือและส่งเสียงให้กำลังใจกษิดิศกันทั่วสนาม

คำชื่นชมจากนักหวดระดับโลกและความฝันที่เป็นจริง

หลังแมตช์เมดเวเดฟกล่าวยกย่องกษิดิศด้วยว่า “ผมเซอร์ไพรส์มากนะ ถ้า กษิดิศ สำเร็จ เล่นแบบนี้ในทุกๆ แมตช์ ชีวิตจะดีเลยทีเดียว ทั้งเงิน สาวๆ คาสิโน หรืออะไรก็ตาม ถ้าเขาเล่นแบบนี้ได้ในทุกแมตช์นะ”

เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อสำหรับคนที่เคยทิ้งเทนนิสไปเล่นกีฬาอื่นถึง 4 ปี ก่อนกลับมาตีเทนนิสอีกครั้ง และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนมาเล่นในแกรนด์สแลมได้สำเร็จ พร้อมกับทำให้นักหวดระดับโลกที่เคยเป็นมือ 1 ของโลกมาแล้วออกปากชมได้

กษิดิศเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และชื่นชอบในกีฬาชนิดนี้ตั้งแต่แรก ทว่าเมื่ออายุได้ 8 ขวบเขาแพ้ในการแข่งขัน และตัดสินใจเลิกเล่นไปนานถึง 4 ปี

กษิดิศกล่าวว่า “ผมไม่ได้เล่นมา 4 ปี พออายุ 12 ปีก็กลับมาเล่นอีกครั้ง ผมเห็นนักกีฬาบางคนฝึกซ้อมกับพ่อ (วิทยา สำเร็จ) และพวกเขามีอายุเท่ากับผม ผมอยากมีเพื่อนเลยกลับมาเล่นอีกครั้ง”

ในขณะที่ห่างหายจากกีฬานี้ กษิดิศเล่นฟุตบอลและบาสเกตบอล เขาเป็นแฟนของ สตีเฟน เคอร์รี และหลงรักการยิง 3 คะแนนของสตาร์จาก โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ทว่าปัจจุบันเขาไม่ค่อยได้ดูบาสเกตบอลมากนัก หลังเริ่มเล่นเทนนิสอย่างจริงจังและเข้าร่วมทีมชาติ

หนึ่งในความฝันของเขากับคุณพ่อ คือการไปยืนในเทนนิสรายการระดับแกรนด์สแลม เพราะแม้คุณพ่อวิทยา สำเร็จ จะเคยเล่นเทนนิสเดวิสคัพมากที่สุดของไทย 37 ครั้ง และติด 1,000 อันดับแรกของโลกทั้งประเภทเดี่ยวและคู่ แต่เขาก็ยังไม่เคยไปแกรนด์สแลม

ในวันนี้ความฝันนั้นลุล่วงไปแล้ว และเป็นการลุล่วงที่รวดเร็วในวัยเพียง 23 ปี สำหรับพ่อ-ลูก แห่งบ้าน ‘สำเร็จ’

Boom! การจุดกระแสวงการเทนนิสไทย และเส้นทางต่อจากนี้

เส้นทางหลังจากนี้ของกษิดิศเต็มไปด้วยความหวังกับความฝันของแฟนๆ เทนนิสชาวไทย ที่ไม่มีนักเทนนิสซึ่งไปไกลถึงระดับโลกให้เชียร์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่หมดยุคของ ภราดร ศรีชาพันธุ์, แทมมารีน ธนสุกาญจน์ และ ดนัย อุดมโชค

การแจ้งเกิดในแมตช์นี้ของกษิดิศ จึงเป็นการเปิดประตูที่ปิดไปอย่างยาวนานของวงการเทนนิสไทย ให้กลับมาคึกคัก มีชีวิตชีวา และมีแสงสว่างส่องมาอีกครั้ง

ในการให้สัมภาษณ์ของ ดานีล เมดเวเดฟ ในช่วงการแถลงข่าวหลังเกม เขากล่าวว่า “ถ้าเขาเล่นแบบที่เขาเล่นวันนี้ มันอาจจะต้องใช้เวลาบ้าง เขาอาจจะแพ้บ้างในบางแมตช์ แต่เขาจะเก็บชัยชนะได้มากมายในปีนี้ หลังจากนั้นก็อาจจะเป็นมือท็อป 100 ของโลก และเรื่องมันก็อาจจะต่างออกไป

“แมตช์ต่อไปที่เขาเล่น ในความคิดของผมคือเขาต้องชนะแน่ๆ ถ้าเขาเล่นได้แบบวันนี้ เขาจะชนะคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ เขาจะเป็นท็อป 100 ของโลก”

แต่แฟนๆ ในไทย ณ ชั่วโมงนี้ เอาใจช่วย บูม-กษิดิศ สำเร็จ ให้ไปไกลกว่าท็อป 100 อย่างแน่นอน

อ้างอิง: