จิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 39 ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 100 ปี ช่วงบ่ายวานนี้ (29 ธันวาคม) ณ บ้านพักในเมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจีย ตามการยืนยันจากศูนย์คาร์เตอร์ (The Carter Center) ซึ่งเป็นศูนย์ที่เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนทั่วโลก
อดีตเกษตรกรผู้ปลูกถั่ว ซึ่งมีอายุยืนยาวที่สุดในบรรดาประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 100 ปีไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 1977-1981 ในนามพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สหรัฐฯ เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและการทูต
หลังออกจากทำเนียบขาวด้วยคะแนนนิยมที่ต่ำ คาร์เตอร์สามารถฟื้นฟูชื่อเสียงของเขาผ่านงานด้านมนุษยธรรม จนได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2002
ขณะที่ ชิป คาร์เตอร์ ลูกชายของเขา กล่าวในแถลงการณ์ว่า “พ่อของผมเป็นวีรบุรุษ ไม่ใช่เพียงสำหรับผม แต่สำหรับทุกคนที่เชื่อมั่นในสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว โลกคือครอบครัวของเรา เพราะสิ่งที่เขาทำเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน เราขอขอบคุณที่ทุกคนให้เกียรติแก่เขาด้วยการยึดมั่นในคุณค่าเหล่านี้”
คาร์เตอร์เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย นายทหารเรือ และเกษตรกร ก่อนที่จะก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี เขามีทายาท 4 คน หลาน 11 คน และเหลน 14 คน โดย โรซาลินน์ ภรรยาของเขาที่อยู่เคียงข้างกันมา 77 ปี เพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยปี 2018 หลังการเสียชีวิตของ จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช คาร์เตอร์ถือเป็นอดีตประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุด
หลังพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 1980 ให้กับ โรนัลด์ เรแกน คาร์เตอร์หันมาอุทิศตนเพื่อการกุศล โดยเลือกที่จะกลับไปใช้ชีวิตในบ้านพักขนาด 2 ห้องนอนที่เขาเคยอาศัยก่อนเข้าสู่การเมือง
เขาไม่สนใจเส้นทางรายได้มหาศาลจากการกล่าวสุนทรพจน์หรือการเขียนหนังสือที่มักเป็นทางเลือกของอดีตผู้นำ และได้กล่าวในปี 2018 ว่า “ผมไม่เคยต้องการเป็นคนรวย” นอกจากนี้ คาร์เตอร์ยังร่วมมือกับ เนลสัน แมนเดลา ก่อตั้งกลุ่ม The Elders ซึ่งรวบรวมผู้นำระดับโลกที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อสันติภาพและสิทธิมนุษยชน โดยเมื่อครั้งรับรางวัลโนเบล คาร์เตอร์กล่าวว่า “ปัญหาที่ร้ายแรงและครอบคลุมที่สุดคือช่องว่างที่ขยายกว้างขึ้นระหว่างคนรวยและคนจนบนโลก”
ด้าน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และ จิล ไบเดน ภริยา กล่าวว่า “โลกได้สูญเสียผู้นำที่ไม่ธรรมดา ผู้ยึดมั่นในหลักการ ความเชื่อ และความถ่อมตัว” พร้อมประกาศว่า จะจัดรัฐพิธีศพในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ส่วน โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 โพสต์ในโซเชียลมีเดียของเขาว่า สหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายที่เข้ามาเมื่อตอนที่คาร์เตอร์ดำรงตำแหน่ง และเขาก็ได้ทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตของชาวอเมริกันทุกคนดีขึ้น พวกเราทุกคนต่างก็เป็นหนี้บุญคุณเขา
บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ ฮิลลารี คลินตัน กล่าวชื่นชมคาร์เตอร์ว่า “เขาทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อโลกที่ดีและยุติธรรมยิ่งขึ้น”
บารัก โอบามา กล่าวไว้อาลัยถึงความมีเกียรติของคาร์เตอร์และระบุว่า “เขาสอนพวกเราทุกคนว่าการใช้ชีวิตอย่างสง่างาม ยุติธรรม และเพื่อผู้อื่น เป็นอย่างไร”
จอร์จ ดับเบิลยู. บุช กล่าวว่า คาร์เตอร์ “ทำให้ตำแหน่งประธานาธิบดีมีเกียรติ” และ “ความพยายามของเขาเพื่อโลกที่ดีขึ้นไม่ได้หยุดลงเมื่อเขาหมดวาระ”
แม้ว่าช่วงดำรงตำแหน่งของคาร์เตอร์จะเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจและความขัดแย้งระหว่างประเทศ เช่น วิกฤตตัวประกันอิหร่าน แต่เขายังได้รับการยกย่องจากความสำเร็จในด้านการทูต เช่น การเจรจา Camp David ระหว่างอียิปต์และอิสราเอลในปี 1978
ภาพ: Ammar Awad / File Photo / Reuters
อ้างอิง: