×

This is Amorim: รวมเพลงฮิตกับเหตุผลที่อยากให้ทุกคนอดทนกับ รูเบน อโมริม ก่อน

23.12.2024
  • LOADING...
รูเบน อโมริม

เสียงโห่ดังขึ้นแล้วในช่วงสุดท้ายของเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ต่อบอร์นมัธแบบหมดรูปด้วยสกอร์ 0-3 เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน

 

ความรู้สึกที่ระเบิดออกมานั้นอาจเป็นเพราะนี่ก็เข้า 9 นัดแล้วที่ รูเบน อโมริม เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าโรงละครแห่งความฝันคนใหม่ แต่ทำไมนักเตะภายในทีมไม่ว่าจะเกมรับหรือเกมรุกยังคงเล่นกันเหมือนไม่เคยซ้อมด้วยกันอยู่เลย

 

จริงอยู่ที่มีเหตุผลมากมายที่ชวนหงุดหงิดและผิดหวัง แต่ก็อยากให้สาวกเรดอาร์มีทุกคนอดทนกับกุนซือคนนี้

 

ด้วยการฟังเพลงเหล่านี้ใน Playlist ‘This is Amorim’ ไปพลางๆ ก่อน

 

ลมเปลี่ยนทิศ

“ใบไม้หล่น เมื่อลมพัดผ่าน เป็นสัญญาณ แห่งความผันเปลี่ยน”

 

อย่างแรกที่สำคัญที่สุด การมาถึงของ รูเบน อโมริม ไม่ต่างอะไรจาก ‘ลมเปลี่ยนทิศ’ สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

เพราะถึงภายในระดับโครงสร้างการบริหารของสโมสรจะมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ได้ INEOS ที่นำโดย เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ เข้ามาซื้อหุ้นส่วนหนึ่งของแมนฯ ยูไนเต็ดจากครอบครัวเกลเซอร์ด้วยความหวังและความตั้งใจ (ดี) ที่อยากจะกอบกู้สโมสร

 

แต่คนสำคัญที่สุดที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้คือคนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมทีมฟุตบอลซึ่งเป็นหัวใจของสโมสร และนั่นก็คือหน้าที่รับผิดชอบของอโมริมโดยตรง

 

ปัญหาคือสายลมอย่างอโมริมค่อนข้างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีระดับความแรงของลมสูง

 

เพราะทีมเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นใหม่จากที่เคยใช้กองหลัง 4 คนตลอด มาเป็นกองหลัง 3 คน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

 

 

ทางผ่าน

“อยากให้เธอได้เจอหนทางเดินใหม่”

 

การเปลี่ยนแปลงหลังการมาของอโมริมนั้น พูดให้เห็นภาพง่ายๆ คือเหมือนเคยเรียนสายศิลป์-ภาษา แต่ตอนนี้โดนย้ายห้องมาเรียนสายวิทย์-คณิตแทน โดยไม่มีช่วงเวลาให้ปรับตัวการเรียนพื้นฐานด้วย

 

ดังนั้นถ้าจะเห็นทีมเล่นแบบงงๆ บ้างก็ไม่ต้องแปลกใจไป การเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างแบบนี้ไม่ใช่จะเปลี่ยนกันได้ใน 3 วัน 7 วัน

 

ของแบบนี้กินเวลานาน บางทีอาจจะหลายเดือนหรือถึงปี และนั่นเป็นเหตุผลที่กุนซือคนหนุ่มวัย 39 ปีออกตัวเตือนเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยว่าแมนฯ ยูไนเต็ดจะต้องเผชิญกับ ‘พายุ’ อีกหลายลูก

 

มันอาจจะมีทั้งวันที่ดีและวันที่เลวร้าย

 

จะผ่านมันไปได้ก็ต้อง Walk Through the Storm ไปด้วยกัน (เอ๊ะ…เพลงคุ้นๆ)

 

คนไม่เอาถ่าน

“เธอเหนื่อยไหม ที่ยังทนกับคนไม่เอาถ่าน เธอเบื่อไหม ที่ยังยอมให้คนไม่ได้ความ”

 

ในวันที่ผลงานของทีมเลวร้าย สิ่งที่ดีที่สุดที่มองเห็นคืออย่างน้อยมันก็ช่วยกรองให้เห็นว่าใครบ้างที่พอจะไปต่อกับทีมได้ไหว และใครบ้างที่ควรจะตัดทิ้งออกจากทีม

 

นักเตะอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ต่อให้เก่งกาจระดับนักเตะพรสวรรค์และเป็นลูกหม้อคนสำคัญของสโมสร แต่ไม่มีหัวใจที่จะรับใช้ทีมและ ‘ล้ำเส้น’ ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของตัวเอง ก็เป็นเหตุให้อโมริม ‘ตัดหางปล่อยวัด’ ไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยการดรอปพ้นทีม 3 นัดติดต่อกัน

 

นอกเหนือจากนั้นยังไม่มีนักเตะคนไหนมีปัญหาเรื่อง ‘ทัศนคติ’ อีก แต่ในเรื่องของฝีเท้ามีคำถามสำหรับหลายคน

 

คริสเตียน อีริกเซน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ไทเรลล์ มาลาเซีย, เมสัน เมาท์, คาเซมิโร, แฮร์รี แม็กไกวร์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์​, อเลฮานโดร การ์นาโช หรือแม้แต่ ราสมุส ฮอยลุนด์, โจชัว เซิร์กซี และ อังเดร โอนานา

 

แต่พูดๆ มานี่แทบจะหมดทีมแล้วนะ…

 

 

 

ข้าน้อยสมควรตาย

“ฉันไม่ได้อยากเลว ไม่อยากทำอย่างนี้ มันผิดจริงๆ ก็พอรู้ตัวดี”

 

ย้อนกลับไปในเกมกับบอร์นมัธ จุดเปลี่ยนสำคัญคือลูกที่เสียประตูให้กับทีมเยือนในช่วงครึ่งแรก ซึ่งมาจากการเสียฟรีคิกริมเส้นที่ทำให้แฟนปีศาจแดงหลายคนใจตุ๊มๆ ต่อมๆ แล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อเซิร์กซีปล่อยให้ ดีน เฮาเซน ขึ้นขวิดบอลคนเดียวเข้าประตูสบายๆ

 

โหม่งเสร็จยังทำท่า ‘Chill Guy’ ฉลองให้เห็นว่าสบายจริงๆ ลูกนี้

 

นี่เป็นการเสียประตูจากลูกเซ็ตเพลย์ลูกที่ 7 ใน 6 นัดหลังสุดแล้วของแมนฯ​ ยูไนเต็ดในยุคของอโมริม และทำให้กุนซือวัย 39 ปีต้องออกตัวปกป้อง คาร์ลอส เฟอร์นันเดส ทีมงานของเขาเองที่มอบหมายงานในเรื่องการซักซ้อมลูกเซ็ตพีซให้แทนที่จะใช้โค้ชเซ็ตพีซมืออาชีพของทีมที่มีอยู่เดิมอย่าง อันเดรียส จอร์จสัน ที่ก็ยังคงอยู่ในทีมงานเหมือนกัน

 

อโมริมบอกในทำนองว่า ‘ข้าน้อยสมควรตาย’ ยอมรับความผิดแทนลูกน้อง

 

สิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คืออย่างน้อยเขาก็มองเห็นความผิดพลาดและยอมรับมันด้วยความเต็มใจ ซึ่งหมายถึงการจะปรับปรุงแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น

 

แม้ไม่รู้จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน

 

ฝุ่น

“คำว่ารักมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว”

 

ปัญหาสำหรับอโมริมที่มาเร็วเกินคาดคือ ‘ขีดความอดทน’ ของแฟนแมนฯ ยูไนเต็ดที่บางกรอบเหมือนไส้แก้ว และนั่นทำให้เวลาผ่านมาไม่ถึง 2 เดือน ช่วงน้ำผึ้งพระจันทร์ระหว่างเขากับแฟนๆ เริ่มจะมองเห็นว่ามันจบลงไปแล้ว

 

จากที่เคยเข้าใจและยอมรับได้ถึงผลการแข่งขันที่ไม่เป็นใจบ้าง และเสียงชื่นชมเมื่อเก็บผลงานที่ดีได้เช่นการบุกชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ถึงถิ่นด้วยการโกงความตาย เกมกับบอร์นมัธเป็นนัดแรกที่อโมริมเจอเสียงวิจารณ์แบบยิงเต็มข้อ

 

ในความเห็นใจต่ออโมริมที่เข้ามารับเผือกที่ร้อนยิ่งกว่าร้อน พร้อมเผชิญความท้าทายมากมาย แต่อีกด้านเขาเองก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของแฟนๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ตามไปเชียร์ในสนามทุกนัด (ซึ่งยังเดือดดาลกับความเขี้ยวของสโมสรที่ขึ้นราคาค่าตั๋วจนเตรียมรวมตัวกับแฟนลิเวอร์พูลประท้วงด้วยกันเลยในเกมแดงเดือด)

 

แฟนๆ เหล่านี้เคยชินกับความสำเร็จที่ยาวนานเกือบ 3 ทศวรรษภายใต้ยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ความอดทนและความรักของพวกเขามันเหลือน้อยลงทุกที

 

อโมริมจำเป็นจะต้องเติมใจให้กันให้ได้โดยเร็ว ซึ่งไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการหาทางทำให้ทีมเล่นได้น่าเชียร์ เพราะแฟนๆ นั้นไม่ได้ไม่ฉลาด พวกเขารู้ว่าทีมต้องการเวลา แต่พวกเขาจะให้เวลาก็ต่อเมื่อนักเตะและโค้ชพิสูจน์แล้วว่าคู่ควรจะได้สิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกอย่างเวลาไป

 

 

 

เล่นของสูง

“รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง”

 

อันดับในวันที่อโมริมเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่คนใหม่ของแมนฯ​ ยูไนเต็ด ต่อจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย ผู้รับอาสาดูแลให้ชั่วคราวหลังการปลด เอริก เทน ฮาก คืออันดับที่ 13

 

ตอนนี้แมนฯ ยูไนเต็ดก็อยู่อันดับที่ 13 เท่าเดิม โดยที่ผลงานในลีก 6 นัดแรกของอโมริมแย่ยิ่งกว่า 6 นัดสุดท้ายของเทน ฮากด้วย

 

อย่างไรก็ดี นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาและลูกทีมจะไม่มีสิทธิ์หวังอะไรแล้วในฤดูกาลนี้ เพราะความคิดแบบนั้นมันอันตรายที่สุด ในทางตรงกันข้าม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีเวลาและโอกาสจะกลับมาได้เสมอ

 

ระยะห่างระหว่างอันดับที่ 13 กับอันดับ 4 น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ นั้นแค่ 9 แต้มเท่านั้น และห่างจากอันดับที่ 5 อย่างบอร์นมัธ (ที่ยอดเยี่ยมเอามากๆ) แค่ 6 แต้มเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าหากแมนฯ ยูไนเต็ด เข้าเบรกโชว์ผลงานชนะต่อเนื่องเป็นชุดได้สัก 4-5 นัดติดต่อกัน สถานการณ์พร้อมจะเปลี่ยนทันที

 

แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเมื่อมองถึงฟอร์ม สภาพทีม ปัญหาภายในทีม และคุณภาพของทีมเวลานี้

 

แต่เขาก็จ้างอโมริมมาเพื่อทำงานยากๆ แบบนี้ไม่ใช่หรือ?

 

อย่างน้อย

“มีใครบางคนให้คำนิยาม ว่ารักคือความทุกข์”

 

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สิ่งที่แฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด มั่นใจได้คืออโมริมเป็นคนที่ ‘แคร์’ ทุกอย่างในทีม ใส่ใจในรายละเอียด และทุกสิ่งที่ทำไปไม่ได้ทำเพราะใจสั่งมาอย่างเดียว

 

มันมีเหตุและผลในตัวของมันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจตัดแรชฟอร์ดออกจากทีม ไปจนถึงการหมุนเวียนเปลี่ยนทีมที่บางครั้งงงยิ่งกว่าการหมุนโชว์ 3 รอบของแอนโทนีเสียอีก

 

แต่การลองทีมของอโมริมก็เพื่ออนาคต Long Term ของแมนฯ​ ยูไนเต็ดเอง ได้เห็นว่าใครเล่นได้หรือไม่ได้ ใครดีหรือไม่ดี ใครเอาด้วยและไม่เอาด้วยกับแนวทางของเขา

 

อย่างน้อยที่สุดจะเป็นอย่างไรก็ได้ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจแล้ว

 

ที่เหลือก็รอแค่ให้เวลาได้ทำหน้าที่ของมัน ถ้าความตั้งใจนั้นดีมากพอ ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้อย่างแน่นอน

 

 

Bonus Track!

ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก

“ไอ้ฉันนั้นมีแค่มือ แต่เขานั้นมีอำนาจ”

 

งานในการฟื้นฟูแมนฯ ยูไนเต็ด น้ำหนักเกินครึ่งอยู่ในมือของอโมริม แต่อีกจำนวนไม่น้อยอยู่ที่ฝ่ายบริหารอย่าง โอมาร์ เบอร์ราดา ซีอีโอ, เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด มือขวาของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ และมหาเศรษฐีผู้ทำแต่ละอย่างชวนป๋วยปี่แปกอในความรู้สึกของแฟนๆ (เช่น การขอยกเลิกสัญญาทูตสโมสรของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน)

 

เห็นได้ชัดว่าอโมริมต้องการ ‘การสนับสนุน’ อย่างเต็มที่และจริงจังในช่วงตลาดการซื้อขายหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นรอบฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง หรือรอบฤดูร้อนที่ควรจะมีการ ‘ยกเครื่อง’​ (Overhaul) ทีมครั้งใหญ่

 

ถ้าถึงตรงนั้นแล้วเบื้องบนเอาด้วย เต็มที่ด้วย งานก็มีโอกาสจะสำเร็จได้ง่ายและเร็วขึ้น

 

แต่ถ้าเบื้องบนไม่เอาด้วยหรือไม่เอาไหน ไม่มีวิสัยทัศน์ ปฏิบัติไม่เก่ง

 

สิบอโมริมก็ช่วยบ่ไหวเหมือนกัน

 
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X