วันนี้ (10 ธันวาคม) ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีประเด็นปัญหาบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักรไทย-กัมพูชาเกี่ยวกับการอ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย พ.ศ. 2544 (MOU 44) ว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงได้ชี้แจงไปหลายประเด็นแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมาหารือ เพราะไม่ใช่กฎหมายที่จะนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่า สนธิ ลิ้มทองกุล ขู่ว่าถ้ามีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมและ สส. โหวตเห็นชอบ จะถือว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการขายชาติด้วย ลิณธิภรณ์กล่าวว่า ก็ถือว่าเป็นความเห็นของสนธิ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้เป็นกฎหมายเข้าสู่สภา ซึ่งอาจเป็นข้อกังวล แต่สำหรับตัว สส. ในการพิจารณาร่างกฎหมาย สภาถือเป็นพื้นที่เปิดในการแสดงความคิดเห็น หากมีเรื่องนี้เข้ามาก็จะต้องมีการถกเถียงและ สส. ก็เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ถือว่าเป็นเรื่องในอนาคต ควรมีข้อมูลให้รอบคอบจากทุกฝ่ายก่อน
เมื่อถามกังวลหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นจุดแตกหัก และเป็นปัญหาทางการเมืองกับรัฐบาล ลิณธิภรณ์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเดินหน้าโดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เราไม่ได้กังวล เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ทำงานตอบสนองพี่น้องประชาชน ดังนั้นปัญหาเรื่องหนี้สิน ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่เร่งด่วนมากกว่า
ส่วนที่มีการเชื่อมโยงต้นตอว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากสมัย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลิณธิภรณ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตกลงร่วมกัน 2 ฝ่าย การจะเชื่อมโยงไปในอดีตขอให้รอความชัดเจนจากฝ่ายนิติบัญญัติน่าจะดีกว่า