F1 สนามสุดท้ายของฤดูกาล 2024 รายการอาบูดาบีกรังด์ปรีซ์ ที่ยาสมารีนาเซอร์กิต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แข่งขันกัน 58 รอบสนาม
ในรอบเมนเรซสนามนี้ ไฮไลต์สำคัญคือการชิงแชมป์โลกประเภททีมผู้ผลิต ที่ก่อนออกสตาร์ททีมแม็คลาเรนที่มี 640 คะแนน นำหน้าเฟอร์รารีที่มี 619 คะแนนอยู่ 21 แต้ม
เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ท หลัง แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน แชมป์โลกชาวดัตช์จากเรดบูล เรซซิง ไปสะกิด ออสการ์ ปิอัสทรี นักขับออสเตรเลีย จากแม็คลาเรน ขณะที่พยายามแซงจากอันดับ 3 ขึ้นมาที่ 2 ส่งผลให้ปิอัสทรีหมุนหลุดสนามและหล่นไปรั้งท้ายแถว ส่วนเวอร์สแตพเพนยังประคองตัวอยู่ในอันดับกลางๆ และแข่งขันต่อไปได้
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ประเภททีมผู้ผลิตสนุกขึ้นทันที หลังมีรถเฟอร์รารีอยู่ในโซนได้คะแนน 2 คัน ขณะที่ แลนโด นอร์ริส นักขับอังกฤษ จากแม็คลาเรนรั้งจ่าฝูงอยู่ในช่วงต้นการแข่งขัน
หลังจากนั้นแม้ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงมากมายนัก แต่ก็มีรถที่ต้องออกจากการแข่งขันไปถึง 3 คันในเรซนี้ ได้แก่ เซร์คิโอ เปเรซ นักขับเม็กซิกัน จากเรดบูล เรซซิง, ฟรังโก โคลาปินโต นักขับอาร์เจนไตน์ จากวิลเลียมส์ และ วัลต์เทรี บอตทาส นักขับฟินแลนด์ จากสเทก F1
ขณะที่ในส่วนของผู้นำ เฟอร์รารีทำอย่างเต็มที่ จน คาร์ลอส ไซน์ซ นักขับสเปน ขึ้นมาจบอันดับ 2 และ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับโมนาโก ขึ้นมาจบอันดับ 3 แต่ก็ไล่ แลนโด นอร์ริส ที่นำม้วนเดียวจบไม่ไหว
ทำให้ แลนโด นอร์ริส คว้าชัยในเรซนี้ไปครอง และเป็นการคว้าแชมป์โลกประเภททีมผู้ผลิตให้แม็คลาเรนครั้งแรกในรอบ 26 ปีไปพร้อมกันด้วย โดยอันดับ 2 และ 3 เป็น ไซน์ซและเลอแคลร์
ส่วนที่ 4 และ 5 เป็นของคู่หูนักขับอังกฤษจากเมอร์เซเดส อย่าง ลูอิส แฮมิลตัน และ จอร์จ รัสเซลล์ โดยรายแรกจะแข่งให้ทีมดาวสามแฉกสนามนี้เป็นสนามสุดท้ายด้วย
ขณะที่แชมป์โลกอย่างเวอร์สแตพเพนจบอันดับ 6 ส่วน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ จบอันดับ 11 พลาดคะแนนไปแค่อันดับเดียวเท่านั้น
ภาพ: Anadolu / Getty Images