‘อีสท์ วอเตอร์’ หรือ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเชื่อมั่นของการดำเนินงาน ในฐานะผู้นำในการสร้างความมั่งคั่งของการบริหารจัดการน้ำครบวงจรของประเทศ จัดกิจกรรม ‘ESG Social Walk ก้าวสู่ปีที่ 33 มั่นใจกับอีสท์ วอเตอร์’ เชิญลูกค้า คู่ค้า ชุมชน หน่วยงานราชการ สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติทุกภาคส่วน เข้าร่วมกิจกรรมเดินรอบริมสระเก็บน้ำดิบทับมา อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง พร้อมประกาศภารกิจเพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน 

‘สระเก็บน้ำดิบทับมา’ ต้นแบบการบริหารโครงการธุรกิจที่เติบโตไปพร้อมสังคม 

กิจกรรมเดินรอบริมสระเก็บน้ำดิบทับมาในระยะทาง 3.30 กิโลเมตร ยังมีฐานการเรียนรู้รอบสระที่สื่อถึงความยั่งยืนของชุมชนให้ร่วมสนุกตลอดเส้นทาง ทำให้ได้รู้ว่า ‘สระเก็บน้ำดิบทับมา’ เป็นโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำสำรองที่อีสท์ วอเตอร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ตั้งใจพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมืองจังหวัดระยองช่วงฤดูฝน และเป็นแหล่งน้ำสำรองเพื่อรองรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในช่วงฤดูแล้ง ด้วยการสูบผันน้ำจากแม่น้ำระยองและคลองทับมา เข้าในสระเก็บน้ำดิบที่มีขนาดความจุประมาณ 12 ล้านลูกบาศก์เมตรบนเนื้อที่ 370 ไร่  

อัตราการสูบผันน้ำจากแม่น้ำระยองและคลองทับมาเฉลี่ย 250,000-400,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ปัจจุบันสามารถเพิ่มน้ำต้นทุนให้แก่พื้นที่จังหวัดระยองได้ประมาณ 47 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

นอกจากจะเพิ่มน้ำต้นทุน รองรับการขยายตัวทั้งภาคอุปโภค บริโภค และอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง สระเก็บน้ำดิบทับมายังทำหน้าที่เป็นแก้มลิงเพื่อรับน้ำท่วมหลากในฤดูฝน จึงช่วยลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในตัวเมืองระยอง ในฤดูแล้งยังใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ตัวเมืองระยอง  

ที่สำคัญยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายของชุมชน เพราะมีทั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายและลู่วิ่งรอบสระ และด้วยทัศนียภาพที่สวยงามจึงกลายเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ของจังหวัดระยอง รวมไปถึงเส้นทางสาธารณะใหม่เพื่อใช้ในการสัญจรรอบโครงการ  

‘สระเก็บน้ำดิบทับมา’ จึงเป็นโครงการต้นแบบที่สื่อถึงความยั่งยืนของชุมชนได้ครบทุกมิติตามพันธกิจของอีสท์ วอเตอร์ ที่เห็นถึงความสำคัญและการมีส่วนร่วมกับชุมชนเป็นหลัก ทั้งการเชื่อมโยงการบริหารจัดการน้ำเพื่อเสริมเสถียรภาพความมั่นคงด้านน้ำให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่ EEC ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม อุปโภคบริโภค รวมถึงการท่องเที่ยว สำคัญที่สุดคือสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนกับอีสท์ วอเตอร์ 

ก้าวสู่ปีที่ 33 เดินหน้าภารกิจเพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘อีสท์ วอเตอร์’ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เพราะน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทย 

ประสบการณ์ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมยังดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพ สร้างสมดุล ให้กับธรรมชาติ แหล่งน้ำ และสิ่งแวดล้อม  

ในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 33 ดร.เพ็ชร ชินบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประกาศภารกิจเพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งความสำคัญกับทุกภาคส่วนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ กำหนดนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืนส่งเสริมให้ชุมชน ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อบริษัท มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน ผ่านการดำเนินงานที่ใส่ใจทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)  

อีสท์ วอเตอร์ เข้าใจและให้ความสำคัญต่อแนวคิดความยั่งยืน เพื่อให้ทุกสังคมและชุมชนสามารถพัฒนาและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในปัจจุบัน พร้อมวางรากฐานสู่อนาคต โดยจะมีช่องทางการมีส่วนร่วมกับชุมชนที่หลากหลาย เพื่อสร้างความเข้าใจและเข้าถึง นำไปสู่ความร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่อีสท์ วอเตอร์ ยึดมั่นตลอดมา