หอการค้าไทยชี้ ความสำเร็จไทยเจรจาความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA) ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) ซึ่งประกอบด้วยสวิตเซอร์แลนด์, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ โดยความตกลงนี้ถือเป็น FTA ฉบับแรกระหว่างไทยและยุโรปที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเปิดโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย
คาดลงนามเดือนมกราคมปีหน้า พร้อมดันไทยเดินหน้าเจรจา FTA ไทยและ EU
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยระบุว่า FTA ไทยและ EFTA ได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังการเจรจาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปี โดยครอบคลุม 15 ประเด็นสำคัญ เช่น การค้าสินค้า, การค้าบริการ, การลงทุน, มาตรการสุขอนามัย และทรัพย์สินทางปัญญา ความตกลงนี้จะช่วยลดอุปสรรคทางการค้า เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าหลัก เช่น อัญมณี อาหารทะเล และเครื่องจักร ซึ่งมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะในยุคที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ส่งผลให้หลายบริษัทข้ามชาติพิจารณาย้ายฐานการผลิตมายังภูมิภาคที่มั่นคง FTA ฉบับนี้จึงไม่เพียงเปิดโอกาสทางการค้า แต่ยังช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าการลงนามความตกลงจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2025
ปัจจุบันไทยมี FTA กับประเทศและกลุ่มเศรษฐกิจอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 15 ฉบับ ครอบคลุม 19 ประเทศ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการขยายตลาดการค้าและสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยขอร่วมชื่นชมความสำเร็จในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่า FTA กับ EFTA จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทย พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในระดับโลก
เพิ่มโอกาสส่งออกอัญมณี อาหารทะเล และข้าวไทย
ข้อมูลล่าสุดในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2024 การค้ารวมระหว่างไทยและ EFTA คิดเป็น 2.03% ของการค้ารวมของไทยกับโลก โดยมีมูลค่าการส่งออก 3,787.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 6,505.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเติบโตขึ้น 23.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณี, อาหารทะเล, ข้าว และเครื่องจักร ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย สัตว์น้ำสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ
“หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเชื่อว่าความตกลงครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนอย่างยั่งยืน และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทยในอนาคต และมั่นใจว่าจะมีส่วนช่วยในการผลักดัน FTA ไทยและ EU ให้สำเร็จภายในปี 2025-2026 อย่างแน่นอน”
เปิดมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ EU
ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2024 ขยายตัว 3.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไป EU ขยายตัว 9.28% และไทยนำเข้าจาก EU ลดลง 2.99%
“คาดการณ์ว่าหากไทยสามารถเจรจากับ EU ได้สำเร็จจะทำให้การค้าระหว่างไทยกับ EU ขยายตัวในระยะยาว โดย GDP ของประเทศเพิ่มขึ้น 1.28% มูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 2.83% และการนำเข้าขยายตัว 2.81% เชื่อมั่นว่า FTA ครั้งนี้จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว”
ภาพ: hxdbzxy / Shutterstock