Dusit Central Park เผยความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการเป็นไปตามแผน โดยเฉพาะโครงการที่พักอาศัย เปิดขายให้ทั้งคนไทยและต่างชาติไปแล้ว 85% พร้อมย้ำว่าแม้ย่านพระราม 4 จะมีมิกซ์ยูสเต็มไปหมด แต่เรามีความยูนีกและได้เปรียบคู่แข่งจากการมีฐานลูกค้าทั่วโลก
ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park กล่าวว่า จุดเด่นของโครงการ Dusit Central Park โปรเจกต์มูลค่า 46,000 ล้านบาท มีทั้งโรงแรม ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และสำนักงาน ตั้งอยู่บนพื้นที่ Super Core CBD สามารถเชื่อมต่อย่านธุรกิจและแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ ปัจจุบันก่อสร้างไปกว่า 70% คาดว่าจะเสร็จทั้งโครงการในปี 2568
สำหรับปีนี้เปิด Dusit Thani Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว 39 ชั้น ซึ่งการออกแบบยังรักษาเอกลักษณ์ความเป็นดุสิตในอดีตผสานกับความทันสมัย และมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันมีทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการ และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีการเปิดร้านอาหารจากเชฟเจ้าของมิชลิน 3 ดาวเข้ามาช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้ผู้เข้าพัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จากโรงแรมสู่ครัว! ดุสิตธานีเตรียม IPO ธุรกิจอาหาร หวังรายได้ 2.5 พันล้านบาทในปี 2570 พร้อมตั้งเป้า 100 โรงแรมใน 3-4 ปี
- CPN ปั้นแบรนด์ใหม่ ‘Central Park’ สำหรับศูนย์การค้าและสำนักงานในมิกซ์ยูสยักษ์ มุมถนนสีลม ‘Dusit Central Park’
- เครือโรงแรมดุสิต จ่อเปิดดุสิตธานีในญี่ปุ่น ตามด้วยดุสิตปริ๊นเซสในจีน วางแผนเปิดโรงแรม 100 แห่งทั่วโลก ภายใน 3 ปี
ถัดมาคือโครงการที่พักอาศัย ปัจจุบันปิดการขายไปแล้ว 85% โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นคนไทย 80% และต่างชาติ 20% ในปีหน้าตั้งใจจะปิดการขายให้ได้ทั้งหมด ส่วนโครงการ Central Park Offices และศูนย์การค้า Central Park บนพื้นที่รวม 440,000 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ภายใต้การพัฒนาของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2568
ละเอียดกล่าวต่อไปว่า แต่ก่อนตึกของโครงการต่างๆ จะแข่งกันเรื่องความสูง เพราะเป็นการท้าทายความสามารถของผู้สร้าง แต่วันนี้บริบทเปลี่ยนไป โดยจะแข่งขันกันที่การสร้างพื้นที่สีเขียวบนตึกเหมือนกับที่ประเทศสิงคโปร์ทำ ซึ่งเราเองก็มีสวนสาธารณะลอยฟ้าสีเขียว Roof Park เปิดให้ผู้คนเข้ามาทำกิจกรรม
เรียกได้ว่าทุกๆ โครงการถูกออกแบบมาให้เดินเชื่อมถึงกันได้หมดแบบ Seamless และเชื่อมต่อภายนอกอาคารกับการสัญจร ทั้งระดับผิวถนน, BTS และ MRT ต้องยอมรับว่าความยากของโปรเจกต์นี้คือการทำทางเชื่อมใต้ดิน เราขุดใต้ดินลึกเทียบได้กับตึก 6 ชั้น ถือว่าปราบเซียนมาก
พร้อมประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปีหน้า ผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่และหากลุ่มนักท่องเที่ยวที่กว้างขึ้น ก่อนหน้านี้หลายคนจะคาดหวังรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า 25% ซึ่งยากมาก นักท่องเที่ยวจีนไม่กลับมา เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่ส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศ
หากสังเกตจะเห็นว่าช่วงก่อนโควิดชาวจีนซื้อคอนโดมากเป็นอันดับต้นๆ แต่วันนี้น้อยลงแล้ว ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่ทรงพลังมากที่สุดคืออินเดีย เรามองว่าควรส่งเสริมและหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ใช้จ่ายในประเทศมากที่สุด ซึ่งไม่ต้องเน้นนับจำนวนแต่เน้นที่คุณภาพ
“สุดท้ายแล้วแม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะไม่ได้สดใสมาก แต่อยากบอกว่าเราสร้างในสิ่งที่เราถนัดและต่อยอดมาจากสิ่งที่เราเชี่ยวชาญเพราะเห็นแล้วว่าตลาดลักชัวรียังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง” ละเอียดย้ำ