จากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เดือนพฤศจิกายนที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (26 พฤศจิกายน) เผยว่า เจ้าหน้าที่ Fed แสดงความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงและตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ทำให้ธนาคารกลางสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ แม้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปก็ตาม
สรุปการประชุมมีหลายส่วนที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ Fed รู้สึกสบายใจกับอัตราเงินเฟ้อ แม้ว่าเมื่อพิจารณาจากมาตรวัดส่วนใหญ่แล้ว อัตราเงินเฟ้อจะยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ Fed ก็ตาม ด้วยเชื่อมั่นว่าภาพรวมการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จึงระบุว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมน่าจะเกิดขึ้น แม้ไม่ได้ระบุว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดและในระดับใด
รายงานการประชุมระบุว่า “ในการหารือเกี่ยวกับแนวโน้มของนโยบายการเงิน ผู้เข้าร่วมประชุมคาดการณ์ว่าหากข้อมูลออกมาใกล้เคียงกับที่คาดไว้ โดยที่อัตราเงินเฟ้อยังคงลดลงอย่างยั่งยืนถึง 2% และเศรษฐกิจยังคงอยู่ใกล้ระดับการจ้างงานสูงสุด ก็มีแนวโน้มเหมาะสมที่จะค่อยๆ ดำเนินนโยบายที่เป็นกลางมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป”
FOMC ลงมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% อยู่ที่ 4.5-4.75% เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตลาดคาดว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม แม้ว่าความเชื่อมั่นจะลดลงท่ามกลางความกังวลว่าแผนการจัดเก็บภาษีของประธานาธิบดี Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ อาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
การประชุม Fed ครั้งล่าสุดสิ้นสุดลงหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันกลายเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง และเตรียมเริ่มดำรงตำแหน่งสมัยที่สองในเดือนมกราคม
รายงานการประชุมไม่ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งแต่อย่างใด ยกเว้นบันทึกของเจ้าหน้าที่ Fed ที่ระบุว่า ความผันผวนของตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นก่อนการประกาศผลการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน และลดลงหลังจากนั้น นอกจากนี้ยังไม่มีการหารือถึงผลกระทบของนโยบายการคลัง แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าแผนของ Trump ซึ่งรวมถึงการลดภาษีและการยกเลิกกฎระเบียบที่เข้มงวด อาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สมาชิกสังเกตเห็นระดับความไม่แน่นอนโดยทั่วไปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไขดังกล่าว และความซับซ้อนมากขึ้นของนโยบายการเงิน นอกจากนี้พวกเขายังแสดงความไม่แน่นอนว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะต้องหยุดที่จุดใด ก่อนที่ Fed จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยเป็นกลาง ซึ่งไม่กระตุ้นหรือชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของ Trump ทำให้ผู้ซื้อขายลดการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ตลาดมองว่าความน่าจะเป็นที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดในเดือนธันวาคมนั้นลดลงต่ำกว่า 60% และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.75% จนถึงสิ้นปี 2025
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้กำหนดนโยบายแสดงความมั่นใจว่าตัวเลขเงินเฟ้อในปัจจุบันได้รับการหนุนหลังจากการเพิ่มขึ้นของราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งคาดว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากอัตราการขึ้นค่าเช่าที่ลดลง
เอกสารดังกล่าวระบุว่า ผู้เข้าร่วมประชุมเกือบทั้งหมดตัดสินว่า แม้ว่าการเคลื่อนไหวรายเดือนจะยังคงผันผวน แต่โดยทั่วไปข้อมูลที่เข้ามายังคงสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่กลับมาอยู่ที่ 2% อย่างยั่งยืน ผู้เข้าร่วมประชุมยังระบุถึงปัจจัยต่างๆ ที่น่าจะกดดันให้เงินเฟ้อลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น อำนาจกำหนดราคาทางธุรกิจที่ลดลง จุดยืนนโยบายการเงินที่ยังคงเข้มงวดของคณะกรรมการ และการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะยาวที่มั่นคง
ผู้กำหนดนโยบายแสดงความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม แม้ว่าการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยนั้นเกิดจากพายุในภาคตะวันออกเฉียงใต้และการหยุดงานประท้วงของแรงงานเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมประชุมสังเกตว่าสภาวะตลาดแรงงานโดยรวมค่อนข้างมั่นคง โดยไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเสื่อมถอยอย่างรวดเร็วของสภาพตลาดแรงงาน โดยที่การเลิกจ้างยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ภาพ: Wong Yu Liang / Getty Images
อ้างอิง:
