องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รายงานถึงปัญหามลภาวะในอากาศว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของมนุษย์สูงถึง 7 ล้านคน จากการสำรวจ 4,300 เมือง ใน 108 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาในแถบเอเชีย ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทย
ตัวการสำคัญของปัญหามลภาวะในอากาศมีหลายปัจจัย แต่ที่พบกันได้ในเมืองใหญ่ก็หนีไม่พ้นการปล่อยควันจากท่อไอเสียของรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไปจนถึงการปล่อยควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม สิ่งเหล่านี้เป็นตัวการก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีชื่อว่า PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นละอองขนาดประมาณ 2.5 ไมครอน หรือเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ถึง 25 เท่า ด้วยขนาดที่เล็กมากทำให้ขนจมูกของเรานั้นไม่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ หากเราสูดลมหายใจเอามลพิษเข้าไปก็จะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ตั้งแต่ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินโลหิต ไปจนถึงขั้นอาจเป็นโรคมะเร็งได้
อีกทั้งองค์การอนามัยโลกยังได้กำหนดให้ PM 2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็งตั้งแต่ปี 2556 เพราะเป็นสาเหตุให้ 1 ใน 8 ของประชากรโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ PM 2.5 ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้คนเสี่ยงต่อการเป็นโรคในกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อีกด้วย
หลายประเทศตระหนักถึงการรับมือกับปัญหามลภาวะในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ที่เราต่างทราบกันดีว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบปัญหามลพิษในอากาศขั้นรุนแรง แต่ทางการจีนก็ได้ออกมาตรการควบคุมมลพิษด้วยการสั่งปิดโรงงานปูนซีเมนต์และเหล็ก รวมไปถึงการสั่งลดใช้พลังงานถ่านหิน ทำให้ฝุ่นควันในอากาศลดลงอย่างเห็นได้ชัด
หรือประเทศสิงคโปร์ก็เพิ่งออกกฎหมายเพื่อจัดการกับปัญหามลภาวะในอากาศด้วยการประกาศจัดเก็บภาษีคาร์บอนเพื่อมุ่งลดมลพิษในอากาศ รวมไปถึงก๊าซเรือนกระจก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน โดยจะมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ในปัจจุบันมีประมาณ 67 ประเทศที่ได้บังคับใช้หรือเตรียมประกาศใช้มาตรการดังกล่าว รวมไปถึงจีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น
นอกจากนี้แล้ว ยังมีหลายประเทศที่พัฒนาประเทศด้วยแนวคิด การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ด้วยการลดใช้พลังงานเผาไหม้ตัวการที่ทำให้อากาศเป็นพิษ เช่น เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนได้หันมาใช้พลังงานสะอาด ด้วยการออกแบบเมืองให้เป็นมิตรต่อการเดินหรือปั่นจักรยาน รวมไปถึงการสร้างสวนสาธารณะเพื่อกระตุ้นผู้คนให้ออกมาเดินและใช้พื้นที่ส่วนรวมร่วมกัน
จากปัญหามลภาวะทางอากาศ ทำให้ The Creators HQ ได้พัฒนาโครงการใหม่ขึ้นภายใต้คอนเซปต์ ‘FROM HUMAN TO HUMAN’ โดยการนำตัวเองเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ต้องเผชิญกับมลภาวะทางอากาศทุกวัน ด้วยแนวคิดที่พักอาศัยที่ทำให้คุณได้หลบเลี่ยงจากฝุ่นควันพิษรอบตัว เป็นคอนโดฯ ที่ให้ความสำคัญมากกว่าแค่เรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทางเป็นหลักแต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้นสิ่งที่ The Creators HQ ได้ตั้งใจเพิ่มเข้าไปในโครงการ ‘CONNER Ratchathewi’ คือ QUALITY OF LIFE กับส่วนประกอบสำคัญจากธรรมชาติ 3 ส่วน คือ แสงแดด น้ำ และอากาศ
แสงแดด
ด้วยการเจาะช่องส่วนกลางตึก เพื่อให้แสงสามารถเข้าถึงส่วนของตึกที่เป็น Vertical Forest ได้ ทำให้ต้นไม้ในส่วนนี้สามารถได้รับแสงเพื่อการสังเคราะห์แสงได้อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยการออกแบบให้ตึกในส่วนที่เป็น Vertical Forest ได้รับแสงแดดอย่างเหมาะสมตลอดทั้งวัน
น้ำ
ด้วยระบบน้ำที่คอนโดฯ ในประเทศไทยนำมาใช้เป็นเจ้าแรกอย่าง Hydrosmart นวัตกรรมจากประเทศออสเตรเลียที่ใช้ในระบบเกษตรกรรมทั่วไปในประเทศออสเตรเลีย ด้วยข้อดีหลักคือ การทำให้โมเลกุลของสสารต่างๆ ในน้ำมีขนาดเล็กลง ทำให้เกิดตะกอนและคราบต่างๆ ได้ยากขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ค่าใช้จ่ายในการดูแลส่วนของ Vertical Forest ส่วนกลางอื่นๆ รวมไปถึงระบบน้ำในห้องของคุณ ทั้งห้องน้ำและห้องครัวลดลงไปด้วย
อากาศ
ทั้งแสงแดดและอากาศ เป็นผู้สนับสนุนหลักที่ทำให้พระเอกของโครงการนี้อย่าง Vertical Forest สามารถเติบโต และมอบอากาศที่ดีกับผู้พักอาศัยทุกท่านได้ ด้วย Vertical Forest ที่สูงที่สุดในประเทศไทยขนาด 80 เมตร ด้วยจำนวนต้นไม้ 145,000 ต้น โดยต้นไม้แต่ละประเภทนั้นได้มีการออกแบบให้เหมาะสมในแต่ละระดับความสูง และการรับแสงทำให้แผง Vertical Forest นี้สามารถ Produce ออกซิเจนให้กับผู้พักอาศัยได้มากกว่า 357 คน ซึ่งครอบคลุมจำนวนยูนิตของทั้งโครงการ 294 ยูนิต โดยระบบการดูแลรักษา Vertical Forest นั้นได้มีการวางแผนเพื่อให้มีความสวยงาม และเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนได้ตลอดเวลา 3 ข้อด้วยกันคือ
‘พันธุ์ไม้’ ที่ออกแบบตำแหน่งการปลูกแบบถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ
เพราะต้นไม้แต่ละต้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ดังนั้นวิธีในการดูแลรักษาจึงแตกต่างกันไปด้วย ทางผู้ออกแบบ Vertical Forest จึงได้มีการศึกษา คัดเลือก และออกแบบพันธุ์ไม้แต่ละชนิดให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าต้นไม้เหล่านี้จะเติบโตได้อย่างสวยงามในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมนั่นเอง
‘ระบบดูแล’ ที่อัจฉริยะ สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ในการรดน้ำต้นไม้ทุกต้นในโครงการ เราได้ใช้ระบบ Smart Irrigation System ที่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบบนี้จะทำหน้าที่รับน้ำที่ผ่านการทำความสะอาดจาก Hydrosmart System และนำน้ำสะอาดเข้าสู่ SmartLink Controller เพื่อคำนวณปริมาณน้ำ ที่จะส่งไปยังต้นไม้ในแต่ละชั้นตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณประมาณน้ำที่ต้องใช้รดน้ำในวันถัดไปหากฝนจะตกหรือรายงานความผิดพลาดในกรณีท่อแตก หรือแรงดันน้ำสูงหรือต่ำกว่าปกติ เพื่อให้มีการจัดการได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว
‘ระบบรับประกัน’ กับการดูแลต้นไม้ทุกต้นอย่างดีที่สุด
นอกเหนือจากระบบอัจฉริยะที่เรามั่นใจในประสิทธิภาพแล้ว ทุกพื้นที่ของ Vertical Forest คนก็สามารถเข้าไปดูแลได้อย่างง่ายดาย โดยได้มีการวางแผนการดูแล และซ่อมบำรุงตั้งแต่ในขั้นตอนของการออกแบบ อีกทั้งยังมีบริการดูแลการเปลี่ยนต้นไม้ ตัดแต่งกิ่งในทุกเดือน และยังมีระบบตรวจเช็กระบบการรดน้ำตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
จากเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า Vertical Forest ในโครงการ CONNER Ratchathewi จะได้รับการดูแลอย่างดีตาม Concept ‘FROM HUMAN TO HUMAN’ แน่นอน
Vertical Forest ที่ใหญ่ที่สุดนี้อาจไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงของมลภาวะทางอากาศในทันที แต่สิ่งที่ทาง The Creators HQ มองผ่านโครงการ CONNER Ratchathewi คือการเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของ Developer ที่หันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของคนเมืองที่ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดฯ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ใกล้รถไฟฟ้า ราคาคุ้มค่า หรือส่วนกลางจัดเต็มแต่เพียงเท่านั้น หากแต่โครงการ CONNER Ratchathewi ยังมองไปถึงการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และมีความสุขในทุกๆ วัน
อ้างอิง:
- thestandard.co/pm-2-5-environmental-nano-pollutants
- thestandard.co/global-pm25-air-pollution
- www.telegraph.co.uk/news/2018/05/01/estimates-7-million-die-pollution-year-reveals-latest-global
- www.climateactionprogramme.org/news/singapore_unveils_new_carbon_tax_to_curb_emissions
- sustainabledevelopment.un.org/?menu=1300
- CONNER Ratchathewi โครงการจาก The Creators HQ ได้รับรางวัลในด้านสถาปัตยกรรมถึง 2 รางวัล คือ Award Winner Residential High-Rise Architecture Thailand และ High-Rise Condominium: Five Stars Best Residential High rise Architecture
- CONNER Ratchathewi ตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS เพียง 300 เมตร และอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพียง 0 เมตร
- PRE-SALES 4-5 สิงหาคมนี้ ที่ Sale Gallery ลงทะเบียนรับส่วนลดและสิทธิพิเศษ conner-ratchathewi.com/register/