Hellbound เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่น่าสนใจ น่าเสียดายที่ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ในปีเดียวกันคือปี 2021 มี Squid Game ออกมาแย่งซีนความปังลงไปนิดหน่อย ถึงอย่างนั้นด้วยเนื้อหาเสียดสีสังคมว่าด้วยความเชื่อผสมผสานกับความลึกลับและฉากแอ็กชัน ก็มีคนรอติดตามว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร
มาในปีนี้ Hellbound กลับมาอีกครั้งในมือผู้สร้างคนเดิมคือ ยอนซังโฮ ผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์อย่าง Train to Busan และ Parasyte: The Grey พร้อมกับงานถนัดคือการพาคนดูเข้าสู่โลกดิสโทเปีย เพียงแต่ต้องอาศัยการปรับจูนสักเล็กน้อยด้วยความซับซ้อนของเรื่องราวในซีซันที่แล้วและการทิ้งช่วงยาวนานถึง 3 ปี
Hellbound 2 ดำเนินเรื่องราวเข้มข้นกว่าเดิม โดยเปลี่ยนโฟกัสจากการตัดสินให้คนลงนรก เป็นการเฝ้าดูความปั่นป่วนทางสังคมที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ในซีซันแรก โดยเฉพาะการสำรวจว่าพลวัตของอำนาจที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ของกลุ่มสัจธรรมใหม่และกลุ่มหัวศร ในตอนนี้กลายเป็นสองกลุ่มความเชื่อหลักของสังคมไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีองค์กรโซโด ซึ่งอุทิศตนเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์
ความโกลาหลเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วยการกลับมาของ จองจินซู (คิมซองชอล) ศาสดาผู้ถูกนรกลงทัณฑ์เมื่อซีซันที่แล้ว เขาได้พบกับเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งขององค์กรโซโดที่คิดจะส่งตัวจินซูให้กับโซโด แต่ด้วยปมในอดีตทำให้สมาชิกคนนั้นพยายามจะเปิดเผยความจริงเบื้องหลังการฟื้นคืนชีพ จึงหันไปหากลุ่มหัวศรตามคำแนะนำของจองจินซูแทน
พัคจองจา รับบทโดย คิมชินรก
ในขณะเดียวกัน พัคจองจา (คิมชินรก) ที่ฟื้นคืนชีพในตอนท้ายของซีซันแรก ก็ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มสัจธรรมใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีผู้นำคนใหม่คือ คิมจองชิล (อีดงฮี) ร่วมมือกับ อีซูกยอง (มุนโซรี) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล เพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในสังคมจากกลุ่มหัวศร โดยหวังให้พัคจองจาสร้างพันธสัญญาใหม่ให้กับสังคม ส่วน มินฮเยจิน (คิมฮยอนจู) อดีตทนายความ ก็หันมาเป็นสมาชิกของกลุ่มโซโดเต็มตัว และเข้าช่วยเหลือลูกๆ ของพัคจองจาและเด็กทารกผู้รอดจากการลงทัณฑ์ของนรกเมื่อซีซันที่แล้ว พร้อมกับเป็นหนึ่งในหมากการแย่งชิงอำนาจเพื่อควบคุมความวุ่นวายในสังคม
อีซูกยอง รับบทโดย มุนโซรี
Hellbound 2 พาเข้าสู่โลกดิสโทเปียที่ไม่ได้ออกมาในรูปแบบทางกายภาพ แต่คือความปั่นป่วนในสังคมผ่านการแย่งชิงอำนาจของคน 4 กลุ่มที่ใช้ความเชื่อและความกลัวเป็นเครื่องมือ โดยมีผู้เล่นรายใหม่คือรัฐบาลผ่านตัวละครอีซูกยอง เลขาธิการอาวุโสของประธานาธิบดี และกลายเป็นผู้เล่นที่เข้าใจเกมมากที่สุด
เมื่อตระหนักว่าอิทธิพลของลัทธิต่างๆ ฝังรากลึกเกินกว่าจะทำลายได้ ก็เลือกที่จะปั่นให้ 2 ใน 3 ฝ่ายต่อสู้กันเองเพื่อให้ควบคุมง่ายขึ้น โดยเลือกถือหางกลุ่มสัจธรรมใหม่ ซึ่งดูจะอยู่กับร่องกับรอยมากกว่า ช่วยสื่อสารสิ่งที่ผู้กำกับอยากจะสื่อถึงธรรมชาติของระบบที่ควบคุมเรา
“คนเราถ้าความคิดหนึ่งเป็นกระแสหลัก จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งอยากลุกขึ้นมาต่อต้านทันที ซึ่งถ้าควบคุมไม่ดีจะมีกลุ่มก่อการร้ายผุดขึ้นทุกหนทุกแห่ง สิ่งที่ฉันต้องการคือโลกที่มีอุดมการณ์ขัดแย้งกัน ต่อสู้กัน แต่ควบคุมได้เพียงให้เขารู้สึกว่าเป็นอิสระแบบหลอกๆ นั่นคือโลกที่มีระเบียบ”
มินฮเยจิน รับบทโดย คิมฮยอนจู
คิมจองชิล ผู้นำกลุ่มสัจธรรม รับบทโดย อีดงฮี
จากซีรีส์ที่เสียดสีความเชื่อ ความกลัว และศาสนา Hellbound 2 สอดแทรกกลิ่นอายเรื่องการเมืองที่มีความเข้มข้น เน้นการเล่าเรื่องไม่เป็นเส้นตรง โดยเล่าเหตุการณ์ในอดีตสลับกับปัจจุบันในโทนหม่นหมองของสังคมที่เต็มไปด้วยความกลัว รวมถึงความเลวร้ายของลัทธิบูชาบุคคลผ่านตัวละครจองจินซู ที่สุดท้ายก็พิสูจน์ว่าเป็นคนไร้ค่า ว่างเปล่า และเห็นแก่ตัว ไม่ต่างจากคนอื่นๆ
ขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์ ว่าสุดท้ายเราก็อยากเห็นคนชั่วถูกลงโทษกับตาตัวเอง ซึ่งมันค่อยๆ ทำให้มนุษย์กลายเป็นปีศาจและโลกกลายเป็นนรก เหมือนที่ตัวละครตัวหนึ่งกล่าวไว้
“ฉันเข้าใจแล้ว พระเจ้าอยากย้ายนรกมาสู่โลกมนุษย์”
ในซีซันนี้จึงเน้นไปที่การเผยให้เห็นพวกที่ใช้ประโยชน์จากการลงทัณฑ์จากนรก มากกว่าที่จะให้คำตอบที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์เหนือธรรมชาติคืออะไร หรือใครอยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ ณ จุดนี้ซีรีส์จะสูญเสียแนวความคิดหลักไป แต่เลือกหยิบประเด็นใหม่ที่ว่า ‘ความเป็นมนุษย์ได้ตายไปแล้ว และทุกคนคือปีศาจ’ ซึ่งคนดูได้เห็นในซีรีส์เกาหลีใต้หลายๆ เรื่องมาแล้ว ทั้งที่ความคาดหวังคือการคลี่คลายความน่าสงสัยที่ปูไว้เมื่อซีซันที่แล้ว หรือเอาเข้าจริงถ้าอยากจะกระโดดเข้าสู่ประเด็นใหม่ๆ และอยากให้จบแบบกระชับ ก็น่าจะขยายจาก 6 อีพีเป็น 10 อีพีก็น่าจะดีกว่าการสร้างซีซันใหม่ เพราะไม่มั่นใจว่าเราอยากจะดูต่อไปอีกหรือเปล่า
โอจีวอน รับบทโดย มุนกึนยอง
จองจินซู รับบทโดย คิมซองชอล
อย่างไรก็ตาม ทั้งคุณภาพโปรดักชันและการแสดงก็ยังทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็น คิมซองชอล ที่มารับบทจองจินซูแทน ยูอาอิน ก็ทำออกมาได้แนบเนียน ไม่รู้สึกสะดุด ในขณะที่นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง มุนโซรี มาในบทนักการเมืองหน้าเนื้อใจเสือ แม้ท่าทีจะดูเป็นมิตร แต่แนวคิดดูน่ากลัว และทำให้คนดูรู้สึกแขยงๆ รอยยิ้มของเธอได้เหมือนกัน ตัดไปที่ คิมฮยอนจู ดูเหมือนจะเป็นแสงสว่างเดียวของเรื่องในบทฮีโร่หญิงที่เข้าช่วยเหลือเหยื่อจากการลงทัณฑ์ ส่วน คิมชินรก ก็ดูเหมือนจะไม่สำคัญจนเหมือนเป็นส่วนเกิน แต่กลับกลายเป็นศูนย์กลางในตอนท้ายของเรื่องและทำได้ดีเหมือนเคย และที่เซอร์ไพรส์ก็คือการแสดงของ มุนกึนยอง จาก My Little Bride และ A Tale of Two Sisters ซึ่งห่างหายจากการแสดงไป 2 ปี มารับบท โอจีวอน สาวคลั่งศาสนา โดยคนดูแทบจำไม่ได้ จนกระทั่งในตอนที่เล่าชีวิตเบื้องหลังของเธอ เรียกว่างานนี้มีการขโมยซีนไปเต็มๆ จนอยากให้มีบทที่ใหญ่กว่านี้
Hellbound 2 รับชมได้ทาง Netflix