หลังจากเช้าวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน รถไฟฟ้าบีทีเอสเกิดปัญหาขัดข้องจนใช้เวลาแก้ไขถึง 4 ชั่วโมง สร้างความเดือดร้อนกับประชาชนอย่างมาก ล่าสุด รมว.คมนาคมเตรียมเรียกผู้บริหารบีทีเอส ชี้แจง ด้านผู้บริหารยอมรับเกิดจากการเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณใหม่ แต่จะเร่งแก้ไขโดยเร็ว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จะเชิญผู้บริหารบีทีเอสเข้าพบเพื่อสอบถามปัญหาที่แท้จริง พร้อมหาแนวทางแก้ไขเร็วๆ นี้ หากเป็นปัญหาที่ระบบอาณัติสัญญาณ ก็ต้องกำชับให้การซ่อมบำรุง หรือการปรับระบบนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ
ด้านนายอาณัติ อาภาภิรม กรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดทำสถิติการขัดข้องของรถไฟฟ้าบีทีเอสแต่ละเดือน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับจำนวนครั้ง แต่ให้ความสำคัญกับการดูแลให้ผู้โดยสาร เดินทางได้ตรงเวลา และล่าช้าไม่เกิน 5 นาที ซึ่งขณะนี้ระบบเดินรถของบีทีเอส ยังดำเนินการได้มาตรฐานร้อยละ 99.5
ส่วนสาเหตุของการขัดข้องวันนี้ เบื้องต้นมาจากปัญหาระบบอาณัติสัญญาณถูกคลื่นวิทยุสื่อสารรบกวน การแก้ไขมี 2 ทางเลือกคือใช้ระบบแมนวล (manual) แทน กับการหยุดเดินรถทั้งระบบ ซึ่งบีทีเอสเลือกการปรับระบบจากเดินรถอัตโนมัติมาเป็นเดินรถแบบแมนนวล จึงทำให้เกิดผลกระทบดังกล่าว
เบื้องต้นยอมรับว่า เส้นทางของรถไฟฟ้าบีทีเอสที่วิ่งผ่านใจกลางเมืองมีตึกสูงจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาคลื่นวิทยุรบกวนอาณัติสัญญาณบ่อยครั้ง แต่ไม่อยากโทษใคร และพยายามแก้ไขปัญหาตามอุปสรรคที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ทางบีทีเอสอยู่ระหว่างการปรับระบบอาณัติสัญญาณให้มีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทปราการ) ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้
บีทีเอส ยังระบุว่า เบื้องต้นการขัดข้องของรถไฟฟ้าแต่ละครั้งมีสาเหตุแตกต่างกัน เช่น มีผู้ทำสิ่งของตกลงบนราง หรือมีการกดปุ่มหยุดรถฉุกเฉิน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามจาก การสำรวจสถิติปัญหารถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ เป็นการขัดข้องครั้งที่ 8 ในรอบเดือนมิถุนายน หากนับตั้งแต่ปี 2561 พบปัญหาขัดข้องไม่ต่ำกว่า 27 ครั้ง