×

‘Late Bloomer’ วิกเตอร์ ยอเคอเรส ดอกไม้บานช้าผู้ไม่เคยยอมแพ้ใคร

06.11.2024
  • LOADING...
วิกเตอร์ ยอเคอเรส

HIGHLIGHTS

5 MINS READ
  • คนที่มองเห็นแววของยอเคอเรสและมั่นใจในอนาคตของเด็กคนนี้คือ เดวิด เอ็คลุนด์ แมวมองของทีมบรอมมาโพจคาร์นา ที่พยายามคะยั้นคะยอให้ผู้อำนวยการของอะคาเดมีสโมสรรับเด็กคนนี้เข้าร่วมทีมด้วยอยู่นานหลายปี
  • ที่สำคัญคือ Mindset ที่ดี แม้ว่าจะเป็นคนหัวแข็งอยู่บ้าง บางครั้งเมื่อโค้ชสอนอะไรให้ยอเคอเรสจะไม่เห็นด้วยในทันทีตามประสาวัยรุ่นวัยต่อต้าน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันเมื่อหายงอนกันแล้วเขาจะกลับไปหาโค้ชและถามว่าเขาควรจะปรับอย่างไร
  • ในสไตล์การเล่นของยอเคอเรส เป็นศูนย์หน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่พอสมควร (6 ฟุต 2 นิ้ว) และมีความเร็วที่เหมือนติดบูสเตอร์ไว้ที่เท้า หากได้ลองออกตัวไปก่อนแล้วก็ยากที่กองหลังจะตามได้

ชื่อของ วิกเตอร์ ยอเคอเรส กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในวงการฟุตบอลเวลานี้

 

จะไม่ให้พูดถึงได้อย่างไร ในเมื่อกองหน้าภูเขาไฟระเบิดฟอร์มสุดยอดทำแฮตทริกช่วยให้สปอร์ติง ลิสบอน ไล่ถล่มแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีกขาดลอยถึง 4-1 ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อคืนที่ผ่านมา

 

ผลงานดังกล่าวทำให้ยอเคอเรสทำไปแล้ว 23 ประตูจากการลงสนาม 17 นัด และทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ที่การันตีการย้ายทีมในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

 

แต่รู้ไหมว่าก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้นี่คือกองหน้าที่เคยถูกมองข้ามมาก่อน โดยเฉพาะจากทีมที่ขึ้นชื่อว่า ‘กรอง’ นักเตะได้แม่นยำที่สุดอย่างไบรท์ตันแอนด์โฮฟอัลเบียน และเคยใช้เวลากับทีมโคเวนทรี ซิตี้ ในลีกรองของอังกฤษมาก่อน

 

เราน่าจะได้ทำความรู้จักกับเขาเพิ่มอีกนิดนะว่าไหม? มาเลย!

 

ถึงแม้ว่าชื่อจะสะกดคล้ายคนญี่ปุ่น แต่ วิกเตอร์ ไอนาร์ ยอเคอเรส เป็นชาวสวีเดนแท้ๆ ที่เกิดและเติบโตในเมืองสตอกโฮล์ม

 

เจ้าหนูคนนี้รักในเกมลูกหนังมาตลอด และพอมีแววที่จะเป็นนักเตะฝีเท้าดีเหมือนกัน แต่ปัญหาคือเขาไม่เคยเป็นดาวเด่นที่เฉิดฉายเกินหน้ากว่าเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้แมวมองไม่มั่นใจว่าเด็กคนนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพในอนาคตได้

 

คนที่มองเห็นแววของยอเคอเรสและมั่นใจในอนาคตของเด็กคนนี้คือ เดวิด เอ็คลุนด์ แมวมองของทีมบรอมมาโพจคาร์นา ที่พยายามคะยั้นคะยอให้ผู้อำนวยการของอะคาเดมีสโมสรรับเด็กคนนี้เข้าร่วมทีมด้วยอยู่นานหลายปี

 

สิ่งที่เป็นปัญหาในตอนนั้นคือเขาช้าเกินไปสำหรับการเล่นฟุตบอลในระดับสูง ทำให้ผู้อำนวยการของ ‘บรอมมา’ คิดว่ายอเคอเรสไม่ดีพอ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสตาร์ประจำอะคาเดมีอย่าง เดยัน คูลูเซฟสกี ที่ต่อมาก้าวมาเป็นดาวเด่นทั้งในทีมชาติสวีเดนและทีมท็อตแนม ฮอตสเปอร์ในปัจจุบัน

 

 

แต่เอ็คลุนด์ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดว่าเด็กคนนี้มีคุณสมบัติล้ำค่าที่คนอื่นไม่มี สิ่งนั้นคือความสามารถในการทำประตู

 

“ผมบอกกับผู้อำนวยการว่าเด็กคนนี้จะทำประตูได้ ผมดูเขามาตั้งแต่อายุ 11 ปี เขาเป็นศูนย์หน้าที่ดีเสมอ เขาจบสกอร์ได้ โหม่งประตูเป็น เขามีทุกอย่างที่ควรจะมี”

 

ทักษะที่ยอเคอเรสมีติดตัวนั้นมาจากการฝึกฝนตั้งแต่เด็กโดยพ่อซึ่งเป็นโค้ชสอนฟุตบอลในระดับรากหญ้าในสวีเดน ซึ่งถือเป็นครูคนแรกของชีวิต แต่สิ่งที่ทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่หยุดยั้งคือหัวใจของเขาเอง

 

หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ อยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนที่ไม่เคยเชื่อในตัวเขาได้เห็นว่าเขาก็ทำได้เหมือนกัน

 

โดยบทพิสูจน์แรกก็อยู่ที่ทีมบรอมมานั่นเอง

 

ยอเคอเรสได้โอกาสเข้าสู่ทีมอะคาเดมีของบรอมมาเมื่อตอนอายุ 14 ปี และใช้เวลา 2 ปีในการพัฒนาตัวเองขึ้นมา ไม่เพียงแค่เรื่องของฝีเท้าแต่รวมถึงเรื่องของสภาพร่างกายที่เมื่อเติบโตขึ้นก็แข็งแกร่ง กำยำ และรวดเร็วขึ้น

 

ที่สำคัญคือ Mindset ที่ดี แม้ว่าจะเป็นคนหัวแข็งอยู่บ้าง บางครั้งเมื่อโค้ชสอนอะไรให้ยอเคอเรสจะไม่เห็นด้วยในทันทีตามประสาวัยรุ่นวัยต่อต้าน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันเมื่อหายงอนกันแล้วเขาจะกลับไปหาโค้ชและถามว่าเขาควรจะปรับอย่างไร

 

และ Mindset คือสิ่งที่นำพาชีวิตของเขาอย่างแท้จริง

 

จากจุดเริ่มต้นในฟุตบอลระดับอาชีพเมื่อบรอมมาชุดใหญ่ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บทำให้โค้ชสอบถามไปยังทีมเยาวชนว่ามีคนไหนที่พร้อมจะลงสนามสำหรับเกมระดับอาชีพบ้าง เอ็คลุนด์จึงรีบเสนอชื่อของยอเคอเรสให้ทันที

 

“ผมมีคนหนึ่งชื่อวิกเตอร์ เขาเป็นนักเตะที่เก่ง เขาแกร่งพอจะเล่นกับคนที่โตกว่าและเป็นเด็กที่ขยันมาก”

 

เพียงแต่การเริ่มต้นไม่เคยง่ายสำหรับยอเคอเรสในวัย 16 ปี เขาต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่จะเริ่มเข้าตาโค้ช และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในที่สุด

 

 

ผลงานนั้นเข้าตาแมวมองของไบรท์ตัน – ซึ่งในเวลานั้นยังไม่มีใครรู้ว่านี่แหละคือเครือข่ายแมวมองที่ดีที่สุดสโมสรหนึ่งของยุโรป – ทำให้เขาได้รับการติดต่อเพื่อขอดึงตัวมาเล่นในอังกฤษ พร้อมกับผลงาน 20 ประตูจากการลงสนาม 56 นัดให้กับบรอมมา ซึ่งไม่เลวเลยสำหรับกองหน้าดาวรุ่ง

 

แต่ก็อีกเช่นเคย ยอเคอเรสประสบปัญหาแบบเดิมในระดับที่ยากขึ้นในการจะแทรกตัวเข้าทีมไบรท์ตัน เขาแทบไม่ได้โอกาสในการลงสนาม และโดนปล่อยตัวให้โคเวนทรี ซิตี้ ยืมใช้งานในลีกรองของอังกฤษเป็นเวลาไม่กี่เดือน

 

ในช่วงของการยืมตัวนั้นเขาทำได้โอเค ไม่แย่แต่ก็ไม่ได้ดีมาก และแทบไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็นเขาในสีเสื้อของทีม ‘สกายบลูส์’ อีกในฤดูกาลถัดมา

 

คนเดียวที่คิดว่าเด็กคนนี้มีของอยู่คือ มาร์ก โรบินส์ นายใหญ่ของโคเวนทรีที่ตัดสินใจของบสโมสร 1 ล้านปอนด์เพื่อซื้อยอเคอเรสมาร่วมทีมในปี 2021

 

ความเชื่อของโรบินส์กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของยอเคอเรส เมื่อดอกไม้บานช้าคนนี้เริ่มแบ่งบานในที่สุดในระดับเดอะแชมเปียนชิปของอังกฤษ เป็นคนที่เกือบช่วยพาทีมได้เลื่อนชั้นกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

 

และผลงานนั้นสะดุดตา ฮูโก วิอานา อดีตนักเตะดาวดังทีมชาติโปรตุเกสซึ่งนั่งแท่นผู้อำนวยการสโมสรสปอร์ติง ลิสบอน ในเวลานั้น ที่สั่งสโมสรทุ่มเงิน 20 ล้านยูโร ซึ่งไม่น้อยเลยสำหรับพวกเขาในการขอซื้อยอเคอเรสในฤดูร้อน 2023

 

 

โดยที่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากองหน้ารายนี้ไม่ได้กลายเป็นแค่ดาวเด่นของทีม แต่เป็นซูเปอร์สตาร์ของลีก และกลายเป็นกองหน้าที่ถูกพูดถึงและจับตามองมากที่สุดไปแล้ว แม้ว่าเส้นทางนี้จะใช้เวลายาวนาน โดยที่เขาไม่ได้เป็นดาวรุ่งแล้วเพราะอายุถึง 26 ปีแล้วก็ตาม

 

ในสไตล์การเล่นของยอเคอเรส เป็นศูนย์หน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่พอสมควร (6 ฟุต 2 นิ้ว) และมีความเร็วที่เหมือนติดบูสเตอร์ไว้ที่เท้า

 

หากได้ลองออกตัวไปก่อนแล้วก็ยากที่กองหลังจะตามได้ทัน ทั้งยังมีความแข็งแกร่งกำยำจะเบียดจะแซะให้ล้มเป็นเรื่องที่ยากมาก ซึ่งกองหลังของแมนฯ ซิตี้ ก็เจอเข้ากับตัวไปเรียบร้อยในเกมแชมเปียนส์ลีก

 

เรื่องเทคนิคการจบสกอร์เป็นจุดที่ยอเคอเรสอาจจะทำได้ไม่ดีมากนักเมื่อเทียบกับกองหน้าที่มีพรสวรรค์ในการล่าตาข่ายอย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่มีเทคนิคอยู่ในระดับที่สูงและเป็นธรรมชาติกว่า แต่ก็เป็นผู้เล่นที่มีพื้นฐานของการเป็นกองหน้าในระดับสูง

 

จุดที่ยอเคอเรสไม่แพ้ฮาลันด์แน่นอนคือเรื่องของการพาบอลไปกับตัวที่สามารถกระชากเข้าหากรอบเขตโทษได้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีผลงานการทำประตูนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่สปอร์ติงยอดเยี่ยม เพราะทีมของ รูเบน อโมริม มองศักยภาพตรงนี้ออกและใช้การผ่านบอลที่แม่นยำฉีกแนวรับเพื่อเปิดโอกาสให้ดาวยิงชาวสวีเดนได้โอกาสหลุดไปลุ้นทำประตู หรือใช้ความสูงใหญ่ในการโหม่งทำประตูด้วย

 

แต่เกมโดยรวมของเขาไม่ได้มีแค่เรื่องของการทำประตู ยอเคอเรสยังเป็นผู้เล่นกองหน้าที่ทำได้แทบทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงการผ่านบอลจังหวะสำคัญ (Key Passes) การตัดบอลได้ในแดนสุดท้าย (Possession Won in the Attacking Third)

 

เรียกว่าอะไรที่กองหน้าสมัยใหม่ควรจะมีเขาทำได้หมด และยังพัฒนาการเล่นต่อเนื่องจนทำได้ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบ

 

 

ช่วงที่ผ่านมาชื่อของยอเคอเรสถูกนำไปเชื่อมโยงกับหลายทีม ซึ่งรวมถึงหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกอย่างเชลซี, ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส, อาร์เซนอล และแน่นอนว่าคงจะหนีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าทีมใหม่ของอโมริม เจ้านายที่เจียระไนเขาจนเป็นเพชรในตอนนี้ไม่พ้นว่าจะมีการ ‘ย้ายตามบอส’ หรือไม่

 

แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ยอเคอเรสที่มีค่าปล่อยตัวตามสัญญา 85 ล้านปอนด์ จะกลายเป็นดาวเด่นของโลกลูกหนังที่ทุกคนต้องจับตามอง

 

เพราะถึงจะเป็นดอกไม้บานช้า แต่อย่างน้อยดอกไม้ดอกนี้ก็ได้บานแล้ว

 

และสีสันสวยสดงดงามไม่น้อยกว่าใครเลย

 

อ้างอิง:

 
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X