สื่อญี่ปุ่นชี้ หิมะแรกของ ภูเขาไฟฟูจิ ยังไม่ปรากฏในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่ช้าที่สุดในรอบ 130 ปี หรือนับตั้งแต่ที่มีการเก็บสถิติมา
หนังสือพิมพ์โยมิอุริ ชิมบุน รายงานว่า สถิติช้าที่สุดก่อนหน้านี้อยู่ที่วันที่ 26 ตุลาคม 1955 และอีกครั้งหนึ่งคือวันที่ 26 ตุลาคม 2016 แต่ปีนี้ล่วงเลยผ่านวันที่ 26 ตุลาคมแล้วก็ยังคงไม่มีหิมะตกลงมา ซึ่งโดยปกตินั้นหิมะแรกที่ปกคลุมภูเขาไฟฟูจิถือเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการมาเยือนของฤดูหนาว
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นเมืองโคฟุเปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้หิมะแรกยังไม่ตกลงมานั้นเป็นเพราะอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ ทำให้หิมะบนภูเขาตกลงมาล่าช้ากว่าเดิม
โดยปกติแล้วทุกๆ ปี เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศจะยืนยันการมาถึงของหิมะแรกของฤดูกาลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากภูเขาประมาณ 40 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่า สภาพอากาศที่มีเมฆมากในบริเวณรอบๆ ภูเขาหรือในเมืองอาจทำให้พวกเขายืนยันการก่อตัวของหิมะได้ยากแม้ว่าหิมะตกแล้วก็ตาม
สำหรับปีที่ผ่านมา ภูเขาไฟฟูจิปรากฏหิมะแรกในวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งล่าช้ากว่าระยะเวลาเฉลี่ยที่หิมะแรกมักจะตกในช่วงวันที่ 2 ตุลาคม
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าหิมะแรกมักตกช้าลงเรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการเก็บสถิติคือปี 1894 หิมะมักจะตกในช่วงเดือนกันยายน แต่ในช่วงหลังผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 หิมะจะเริ่มมาตกในช่วงเดือนตุลาคมแทน โดยในปี 1961, 1969 และ 2017 หิมะแรกตกในวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่ล่าช้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง โดย ยูกะ ชิมิสึ พนักงานร้านชาเขียวที่ถนนฮอนโชโดริในเมืองฟูจิโยชิดะ จังหวัดยามานาชิ กล่าวว่า “โดยปกติแล้วเราจะสามารถชื่นชมทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิที่ปกคลุมไปด้วยหิมะท่ามกลางสีสันของฤดูใบไม้ร่วงได้ในช่วงนี้ของปี ฉันเองก็รอจะได้เห็นหิมะแรกที่ปกคลุมภูเขาไฟฟูจิเพื่อชื่นชมกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล”
ภาพ: The Yomiuri Shimbun
อ้างอิง: