7 Things We Love About Pharrell Williams Fashion Moments เส้นทางในวงการแฟชั่น ก่อนบทบาทใหม่ที่ Louis Vuitton
ข่าวใหญ่วงการแฟชั่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คงไม่มีข่าวไหนชวนตั้งคำถามมากไปกว่าการประกาศตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ Louis Vuitton แผนกเสื้อผ้าผู้ชาย หลังจากการสูญเสียอย่างไม่มีวันกลับมาของ Virgil Abloh หลายคนคาดการณ์ต่างๆ นานา ถึงรายชื่อดีไซเนอร์ที่คู่ควรในการสานต่อตำนานของ Virgil Abloh แต่กลับไม่มีใครนึกฝันเลยว่าชื่อของศิลปิน โปรดิวเซอร์ และแฟชั่นไอคอน อย่าง Pharrell Williams จะก้าวขึ้นแท่นรับตำแหน่งนี้ไปแทน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ช่วงเวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เขาจะเผยโฉมงานออกแบบคอลเล็กชันแรกของ Louis Vuitton เสื้อผ้าบุรุษ คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2024 ให้ทั้งโลกได้ยลโฉมกัน แต่ก่อนที่จะไปถึงวันนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่แค่วงการดนตรีเท่านั้นที่เขาเป็นที่ยอมรับ ในฝั่งแฟชั่น Pharrell Williams เองก็ได้สร้างอิทธิพลทั้งต่อคนทั้งโลกมาแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะในแง่ของสไตล์ส่วนตัวไปจนถึงโปรเจกต์พิเศษที่เขาร่วมทำกับแบรนด์มากมาย ดังนั้นฝีมือของเขาในด้านครีเอทีฟไม่ธรรมดาแน่นอน ที่สำคัญเขายังรู้จักคนในแวดวงแฟชั่นอีกมากมาย
เพื่อเป็นการต้อนรับ Chapter ใหม่ของทั้งตัวเขาและ Louis Vuitton วันนี้ THE STANDARD POP จะพาทุกคนย้อนไปดูโมเมนต์แฟชั่นสำคัญที่ชายผู้นี้เคยสร้างเอาไว้
Started with Billionaire Boys Club
ชื่อของ Pharrell Williams จะไม่ถูกจดจำและสร้างอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นอย่างแน่นอนหากเขาไม่ก่อตั้งแบรนด์ Billionaire Boys Club ขึ้นในปี 2003 ร่วมกับผู้จัดการส่วนตัวของเขา Rob Walker และเพื่อนสนิทดีไซเนอร์ Nigo เสื้อผ้าสตรีทแวร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเสื้อผ้าแนวสตรีทของคนญี่ปุ่นผสมผสานกับป๊อปคัลเจอร์ สเกตบอร์ด และฮิปฮอป โดยแบรนด์นี้ได้เดบิวต์ครั้งแรกผ่านมิวสิกวิดีโอ Frontin ของ Pharrell และยังเซ็ตสแตนดาร์ดสไตล์ของเขาให้ฉีกออกจากแรปเปอร์และศิลปินฮิปฮอปคนอื่นๆ ในตอนนั้น
Billionaire Boys Club ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในปี 2004 เริ่มแตกไลน์สนีกเกอร์ในชื่อ ICECREAM รวมถึง Billionaire Girls Club ไลน์เสื้อผ้าของผู้หญิงที่ต่อยอดมาจากไลน์ผู้ชาย ตลอดระเวลากว่า 20 ปี นอกจากโลโก้นักท่องอวกาศอันน่าจดจำแล้วนั้น เขายังเคยร่วมงานกับศิลปินและแบรนด์ดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Jay-Z, COMME des GARÇONS, Pokémon และ New York Yankees มีสโตร์เป็นของตัวเองทั้งในนิวยอร์ก ลอนดอน และโตเกียว
Solid Friendship with Nigo
บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังและเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการก่อตั้งแบรนด์ Billionaire Boys Club ของ Pharrell มาจากชายผู้ชื่อ Nigo ดีไซเนอร์สายสตรีทชาวญี่ปุ่นผู้ก่อตั้งแบรนด์ BAPE และดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนปัจจุบันของ Kenzo เขาเป็นผู้ชักจูงแรงบันดาลใจจากสตรีทสไตล์จากฝั่งญี่ปุ่นมาให้ Pharrell ได้รู้จัก ทั้งคู่เริ่มสนิทกันจากความหลงใหลที่คล้ายๆ กัน อย่างเช่น สตรีทแวร์ สเกตบอร์ด และดนตรีฮิปฮอป ในปี 2006 ทั้งสองทำงานคอลแลบกันเป็นครั้งแรกผ่านงานออกแบบสนีกเกอร์รุ่น Road Sta ให้กับ BAPE จนขึ้นแท่นไอเท็มยอดฮิตตลอดกาลของแบรนด์ และยังเป็นรุ่นเดียวที่ตลาดรีเซลยังวางขายราคาดุเดือดจวบจนปัจจุบัน
นอกจากคอลแลบให้กับแบรนด์ BAPE แล้ว เขายังเป็นหุ้นส่วนในแบรนด์ Billionaire Boys Club อีกด้วย ทั้งสองยังคอยซัพพอร์ตซึ่งกันและกันอยู่เสมอ ซึ่งเชื่อว่าการมาของ Pharrell ที่ Louis Vuitton จะต้องมีคอลแลบพิเศษร่วมกับ Nigo เป็นแน่ในอนาคต
That Vivienne Westwood Hat
อีกหนึ่งโมเมนต์ที่ส่งให้ Pharrell ขึ้นแท่นแฟชั่นไอคอนมาจากงาน Grammys ในปี 2014 เมื่อเขาปรากฏตัวในชุดธรรมดา แต่กลับไม่ธรรมดาเพราะหมวกทรง Derby รูปทรงประหลาด ซึ่งภายหลังกลายเป็นสไตล์และภาพจำของ Pharrell อยู่หลายปี หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วหมวกใบนี้เป็นหมวกของดีไซเนอร์หัวขบถอย่าง Vivienne Westwood และหมวกใบนี้มีชื่อว่า The Chapeau หรือ The Buffalo Hat หมวกใบนี้เคยอยู่ในโชว์จากปี 1982 ของ Vivienne Westwood และมีขายแค่ในช็อปที่ลอนดอนเท่านั้น
Pharrell สวมหมวกใบนี้สู่สายตาชาวโลกครั้งแรกบนพรมแดงงานรางวัลดนตรีใหญ่ที่สุดของโลก หมวกใบนี้โด่งดังมากๆ จนกลายเป็นมีมไปทั่วโลก และยังมีแอ็กเคานต์ Twitter เป็นของตัวเอง ที่สำคัญหมวกทรงนี้ยังสร้างซิกเนเจอร์ลุคให้กับตัวเขา ซึ่งกลายเป็นภาพจำของคนไปทั่วโลก
First Moment with Louis Vuitton
ก่อนจะก้าวเข้ามารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับ Louis Vuitton ตัว Pharrell เคยร่วมงานกับแบรนด์มาก่อน ทั้งในฐานะพรีเซนเตอร์และดีไซเนอร์พิเศษสำหรับคอลเล็กชันแว่นตากันแดด ซึ่งถือเป็นงานแรกของทั้งเขาและ Nigo ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ไฮแฟชั่นเป็นครั้งแรก ภายใต้การดูแลของ Marc Jacobs ในตอนนั้นทั้งคู่ออกแบบแว่นตาโดยนำเอาดีเอ็นเอของสตรีทและงานดีไซน์ของ Marc มาผสมผสาน จนออกมาเป็นแว่นตากันแดดรุ่น Millonaire แว่นตารุ่นนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก และยังถูกนำมาทำใหม่อีกครั้งโดย Virgil Abloh ในคอลเล็กชันเปิดตัว พร้อมให้ชื่อใหม่ว่า 1.1 Millionaire ซึ่งต้องมาดูกันว่าคราวนี้กับโชว์แรกที่ Louis Vuitton ทาง Pharrell จะนำแว่นตารุ่นนี้กลับมาอีกครั้งไหม
The Chanel Years
ความสัมพันธ์ระหว่าง Chanel และ Pharrell เริ่มขึ้นในปี 2011 เมื่อมีข่าวลือว่าตัวเขาและดีไซเนอร์ Karl Lagerfeld กำลังพูดคุยถึงโปรเจกต์พิเศษที่ทั้งสองอยากทำร่วมกัน จนในที่สุด Pharrell ก็ปรากฏตัวในวิดีโอของแบรนด์ Chanel ร่วมกับ Cara Delevingne ในที่โปรเจกต์ที่ชื่อว่า Reincarnation และเขายังเป็นคนแต่งเพลงประกอบ CC The World สำหรับวิดีโอตัวนี้อีกด้วย
ในปี 2015 เขากลายเป็นผู้ชายผิวดำคนแรกที่ขึ้นแคมเปญหลักให้กับแบรนด์ Chanel รวมถึงแคมเปญไลน์กระเป๋า Gabrielle และเขายังมีโอกาสคอลแลบออกคอลเล็กชันรองเท้าลิมิเต็ดเอดิชัน NMD x Chanel ยังไม่หมดแค่นั้น ในปี 2019 เขายังร่วมคอลแลบแคปซูลคอลเล็กชันของตัวเอง โดยมีชื่อว่า Chanel Pharrell ซึ่งเป็นการนำเอาสไตล์ส่วนตัวมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
Creating Humanrace
ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา Pharrell ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ร่วมงานกับแบรนด์สปอร์ตยักษ์ใหญ่อย่าง adidas มาอย่างยาวนาน ทั้งสองเคยออกคอลเล็กชันคอลแลบด้วยกัน เช่น The NMD x Humanrace ไปจนถึง Solid Pack คอลเล็กชันรองเท้ารุ่น Stan Smith ในเฉดสีใหม่
มาในปี 2016 เขาตัดสินใจเปิดแบรนด์ Humanrace ไลน์เสื้อผ้าสตรีทแวร์ Unisex ที่ประกอบด้วยไอเท็มอย่างเบสิกแวร์ไปจนถึงสนีกเกอร์ จนในปี 2020 Humanrace เปิดตัวไลน์สกินแคร์สำหรับทุกเพศด้วยโปรดักต์เบสิกอย่างแป้งทำความสะอาดผิวหน้า สครับ และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ก่อนจะเพิ่มไลน์สำหรับอาบน้ำไปจนถึงไลน์ของใช้ในบ้าน โดยจุดมุ่งหมายของ Humanrace คือการเป็นแบรนด์ Well-Being สำหรับคนทุกกลุ่ม โดยไม่แบ่งแยกเพศสภาพ
New Era: LV Menswear Creative Director
อย่างที่เราเกริ่นไปว่า วันที่ 21 มิถุนายนนี้ ช่วงเวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เราจะได้เห็นผลงานการออกแบบคอลเล็กชัน Menswear จาก Louis Vuitton ของเขาเป็นครั้งแรก หลายคนคาดการณ์ว่า การเข้ามาของ Pharrell มีนัยสำคัญมากกว่าแค่งานดีไซน์ เพราะแน่นอนว่าด้วยผลงานที่ผ่านมาของเขาอาจจะสู้กับดีไซเนอร์สายลักชัวรีที่เคยมีชื่อปรากฏในฐานะตัวเต็งที่จะเข้ามาทำงานที่ Louis Vuitton ไม่ได้ แต่หากมองกลับไปตอนที่ Virgil ได้รับเลือกมาเป็นหัวเรือใหญ่ก่อนจะเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาก็ได้ยกระดับแบรนด์ของ Louis Vuitton เป็นมากกว่าแค่แบรนด์แฟชั่น แต่ให้มีบทบาทในหลากหลายมิติของวัฒนธรรม
ซึ่งท้ายที่สุดสิ่งนี้สามารถสร้างความเชื่อและยอดขายให้กับแบรนด์ได้อย่างมหาศาล ไม่แปลกเลยว่าทำไม Pharrell จะเป็นบุคคลที่สามารถสานต่อสิ่งนี้ได้ โดยแค่เปิดตัว Teaser แคมเปญแรก ก็ได้เพื่อนอย่าง Rihanna ในช่วงท้องแก่ มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ จนกลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน
ไม่ว่าผลลัพธ์ของโชว์แรกจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม เราเชื่ออย่างหนึ่งว่ามันจะกลายเป็นโชว์ที่คนพูดถึงมากที่สุดประจำซีซัน และน่าจะเป็นโชว์ที่คับคั่งด้วยเหล่าคนดังจากทั่วทุกมุมโลก
