×

กางแผน 7 ข้อ รื้อโครงสร้างครั้งประวัติศาสตร์ของ ขสมก. วางเป้าปี 2572 ต้องเลี้ยงตัวเองได้

10.07.2020
  • LOADING...

ที่ผ่านมา องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. มักเป็นหนึ่งรัฐวิสาหกิจที่ถูกเรียกร้องให้รื้อระบบ โครงสร้าง และปรับปรุงการบริการอยู่เสมอ อย่างล่าสุด กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ทำการสำรวจเรื่อง ‘รถเมล์แบบไหนถูกใจคนกรุง’ เก็บข้อมูลจากประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์ ประชาชนส่วนใหญ่ 46.7% มีความพึงพอใจต่อรถเมล์ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนในระดับน้อย รองลงมา 33% พึงพอใจปานกลาง และ 20.3% พึงพอใจมากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

เมื่อถามถึงภาพลักษณ์ของรถเมล์ที่วิ่งอยู่ในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร พบว่าส่วนใหญ่ 61% ระบุว่ารอรถเมล์นาน รถไม่พอกับความต้องการ รองลงมา 51.7% ระบุว่ารถมีสภาพเก่า ชำรุดทรุดโทรม และ 41.2% ระบุว่ารถปล่อยควันดำ ส่งผลเสียด้านมลพิษ

 

สำหรับความคาดหวังว่าอยากได้รถเมล์แบบใดนั้น พบว่าส่วนใหญ่ 61.6% อยากให้รถเมล์มาตรงเวลา ผู้โดยสารไม่ต้องรอนาน จะได้เดินทางรวดเร็วขึ้น รองลงมา 53.1% ระบุว่าอยากให้รถเมล์ใหม่ทุกคัน ทุกสาย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และ 51.9% ระบุว่าอยากให้ออกรถถี่ขึ้น มีที่นั่งเพียงพอ ไม่ต้องเบียดเสียดแออัดตามรูปแบบการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) 

 

นอกจากนี้ยังมีความต้องการอื่นๆ จากเสียงของผู้ใช้บริการ เช่น 37.6% อยากให้รถโดยสารเป็นรถชานต่ำ เป็นมิตรกับผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และ 26.8% มีความคาดหวังให้ชำระค่าบริการผ่าน E-Ticket แทนการใช้เงินสด เพื่อความสะดวก ลดการสัมผัส และปรับราคาค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย 30 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน 

 

หลังจากมีผลสำรวจออกมา สุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ออกมากล่าวถึงการปรับแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ที่ได้มีการปรับแผนใหม่ล่าสุด โดยระบุว่า ขสมก. ได้เคยจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อปี 2562 โดยได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะรัฐมนตรี แต่เนื่องจากยังมีโจทย์ที่จะต้องปรับแผนให้รอบคอบ รัดกุม สามารถแก้ปัญหาเรื้อรังทั้งสถานะทางการเงิน สภาพรถเก่า และจำนวนรถโดยสาร การปรับโครงสร้างองค์กร ต้นทุนการดำเนินงานที่สูง และการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีด้านไอทีของหน่วยงานให้ทันต่อยุคสมัย โดยล่าสุดได้มีการปรับแผน ได้แก่ 

 

  1. ประชาชนจะได้ใช้รถใหม่ มีบริการที่สะอาด สะดวกสบาย ปลอดภัย ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตัวรถ ทั้งระบบคันเร่ง เบรก เป็นอย่างดี และเป็นรถเย็น ติดแอร์ทั้งหมด ทำให้พนักงานขับรถไม่รู้สึกเครียด 
  2. ราคาค่าบริการเหมาจ่ายทั้งวัน 30 บาท สามารถโดยสารกี่เที่ยวก็ได้ไม่จำกัด ทั้งรถของ ขสมก. และรถร่วม ทั้งนี้คนที่ขึ้นเที่ยวเดียวคิดราคาเพียง 15 บาท
  3. ปัญหาการจราจรลดลง เนื่องจากจะมีจำนวนรถประจำทางลดลงจาก 6,000 คัน เหลือเพียง 2,500 คัน เท่ากับการลดพื้นที่การใช้ถนนลง  
  4. คุณภาพอากาศดีขึ้น โดยเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าเอ็นจีวีและไฮบริดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  5. การปฏิรูปเส้นทางรถเมล์รูปแบบใหม่ที่จะครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีเส้นหลัก เส้นรอง และวงกลม ตามโปรแกรมคำนวณจากระบบคอมพิวเตอร์ของกรมการขนส่งทางบก ทำให้รถไม่ต้องวิ่งทับเส้นทางกันเอง 
  6. ระยะเวลารอรถสั้นลง 5-10 นาที โดยการปรับเส้นทางวิ่งระยะสั้น แต่มีความถี่เพิ่มขึ้น 
  7. ประชาชนโดยรวมทั้งประเทศไม่มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น เนื่องจากหนี้สินเดิมได้มีการจัดการ 

 

แผนดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) แล้ว และเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคมนี้ 

 

“หากทำตามแผนที่วางไว้ มีการคำนวณว่าจะขอรับเงินสนับสนุนจากภาครัฐเป็นระยะเวลา 7 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2571 และในปี 2572 ขสมก. จะสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่เป็นภาระให้ภาครัฐในอนาคต ซึ่งนับเป็นการเตรียมแผนสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” สุระชัยกล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X