พิธีกรนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงานออสการ์ทุกปี พูดได้ว่างานที่ยาวเกือบสี่ชั่วโมงจะไม่สามารถผ่านพ้นไปได้ หากขาดพิธีกรที่มีฝีมือและความสามารถคอยควบคุมและดำเนินรายการ ซึ่งบางครั้งสิ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำงานในปีนั้นๆ ก็คือตัวพิธีกรเอง ซึ่งก็มีทั้งเรื่องดี เรื่องไม่ดี และสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง วันนี้เรามีรายชื่อพิธีกรงานรางวัลออสการ์ที่โดดเด่นในหลายแง่มุมมาฝากกัน
บ็อบ โฮป (Bob Hope)
บ็อบ โฮป เป็นนักแสดง นักร้อง นักเขียน และนักกีฬาชาวอเมริกัน ที่อยู่ในวงการบันเทิงมาเกือบ 8 ทศวรรษ บ็อบมีผลงานด้านการแสดงมากกว่า 70 เรื่อง และได้รับรางวัลเกียรติยศมากกว่า 2,000 รางวัล ซึ่งในปี 1963 ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ (John F. Kennedy) ได้มอบเหรียญทองอิสรภาพให้กับเขา เนื่องจากการรับใช้ประเทศชาติ
บ็อบ โฮป เป็นบุคคลที่รับหน้าที่เป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลออสการ์มากที่สุดถึง 18 ครั้ง ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เลยสักครั้ง แต่ทางสมาคมก็ได้ให้รางวัลเกียรติยศกับเขา 5 ครั้ง เป็นบุคคลเดียวที่ได้รับรางวัลเกียรติยศจากทางสมาคมมากที่สุด โดยเขาได้รับรางวัลพิเศษ 2 รางวัล รางวัลเกียรติยศด้านความสำเร็จ 2 รางวัล และรางวัลพิเศษด้านมนุษยธรรม ฌีน เฮอร์โชลต์ (The Jean Hersholt Humanitarian Award)
บิลลี คริสตัล (Billy Crystal)
เป็นนักแสดง นักร้อง ผู้กำกับ และพิธีกรรายการโทรทัศน์ชาวอเมริกัน เริ่มเป็นที่รู้จักจากบท โจดี้ ดัลลัส (Jodie Dallas) ในละครซิตคอมของช่อง ABC เรื่อง Soap เขากลายเป็นนักแสดงหนังฮอลลีวูดในช่วงยุค 1980 และ 1990 ปรากฏตัวอยู่ในหนังทำเงินหลายเรื่องเช่น When Harry Met Sally… (1989), City Slickers (1991) และเป็นคนให้เสียง ไมค์ วาซาวสกี้ ในหนังแฟรนไชส์การ์ตูนเรื่อง Monsters, Inc.
บิลลี คริสตัล รับหน้าที่เป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลออสการ์ 9 ครั้ง เป็นอันดับสองต่อจาก บ็อบ โฮป โดยเริ่มในปี 1990 และครั้งล่าสุดในปี 2012 มุกตลกส่วนใหญ่ที่บิลลีใช้ในงานรางวัลออสการ์จะเป็นวิดีโอเปิดตัวที่แทรกตัวเขาเองเข้าไปร่วมกับผู้เข้าชิงรางวัลในปีนั้นๆ
หน้าที่พิธีกรงานออสการ์ของเขามักได้รับคำชื่นชมมากมาย ทำให้เขาได้รับรางวัลเอ็มมี่ไป 3 ตัว ในสาขา Outstanding Writing for a Variety Series or Music Program และ Outstanding Individual Performance in a Variety or Music Program จากการดำเนินรายการออสการ์ครั้งที่ 63 และ 64
วูปี โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg)
เธอคือนักแสดง นักแสดงตลก นักเขียน และพิธีกรรายการโทรทัศน์ชาวอเมริกัน ที่ผ่านมาเธอปรากฏตัวในภาพยนตร์มามากกว่า 100 เรื่อง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนักแสดงฮอลลีวูดไม่กี่คนที่เคยชนะรางวัลจาก 4 เวทีใหญ่สุดของวงการบันเทิง รางวัลเอ็มมี่ รางวัลแกรมมี่ รางวัลออสการ์ และรางวัลโทนี่
วูปี โกลด์เบิร์ก เป็นผู้หญิงแอฟริกัน-อเมริกันคนแรก ที่รับหน้าที่พิธีกรให้กับงานประกาศรางวัลออสการ์ โดยเคยรับหน้าที่พิธีกรงานประกาศรางวัลออสการ์ 4 ครั้ง ส่วนตัวเธอเองก็เคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 ครั้งจากหนังเรื่อง The Color Purple (1985) และเรื่อง Ghost (1990) ซึ่งเธอได้รับรางวัลในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปครอง และเป็นผู้หญิงผิวสีคนที่สองในประวัติศาสตร์งานรางวัลออสการ์ ที่ชนะรางวัลด้านการแสดง หลังจาก แฮตตี แม็กแดเนียล (Hattie McDaniel) ที่ชนะในปี 1939 สาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากหนังอมตะ Gone With the Wind
เอลเลน ดีเจนเนอเรส (Ellen DeGeneres)
เป็นนักแสดงตลก โปรดิวเซอร์ และพิธีกรรายการโทรทัศน์ชาวอเมริกัน ที่แจ้งเกิดจากละครซิตคอมเรื่อง Ellen ในปี 1994-1998 และในปี 2003 เธอมีรายการทอล์กโชว์เป็นของตัวเอง The Ellen DeGeneres Show จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะนักแสดง เธอเคยร่วมแสดงในหนังเรื่อง Mr. Wrong (1996), The Love Letter (1999) และเคยให้เสียงเป็น ดอรี่ ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Finding Nemo (2003) และ Finding Dory (2016)
เอลเลน เคยรับหน้าที่เป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลออสการ์ 2 ครั้ง เธอได้รับรางวัล Primetime Emmy Awards 2 ครั้งในปี 2007 และ 2014 จากการทำหน้าที่พิธีกรในงานออสการ์ ด้วยนิสัยและภาพลักษณ์ที่เป็นมิตร มุกตลกของเธอจะไม่มีคำหยาบคายและไม่เสียดสีผู้อื่น เธอทำให้บรรยากาศในงานดูไม่กดดัน เหมือนกับผู้เข้าร่วมงานทุกคนกำลังอยู่ในรายการทอล์กโชว์ของเธอ งานในปี 2014 เธอเป็นพิธีกรงานออสการ์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถ่ายภาพเซลฟีกลุ่มลงทวิตเตอร์ในขณะที่ดำเนินรายการอยู่ ซึ่งมียอดรีทวีตกว่า 2 ล้านครั้งพองานจบ แถมเธอยังสั่งพิซซ่ามาแจกจ่ายแขกในงานอีกด้วย
จิมมี คิมเมล (Jimmy Kimmel)
เป็นนักแสดง โปรดิวเซอร์ นักเขียน และพิธีกรรายการโทรทัศน์ชาวอเมริกัน เป็นทั้งพิธีกรและโปรดิวเซอร์รายการทอล์กโชว์ภาคค่ำ Jimmy Kimmel Live! ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง ABC ในปี 2003 และเคยเป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัล Primetime Emmy Awards ในปี 2012 และ 2016
จิมมี รับหน้าที่เป็นพิธีกรงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งแรกเมื่อปี 2017 และกลับมารับหน้าที่นี้อีกครั้งในงานปีนี้ (2018) ซึ่งปีที่แล้วงานผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ยกเว้นตอนท้ายที่เกิดความผิดพลาด มีการยื่นซองผิดในการประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งตอนแรกประกาศว่ารางวัลยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง La La Land แต่ผู้ชนะจริงๆ คือ Moonlight ทำให้ จิมมี คิมเมล ต้องออกมาเล่นมุกก่อนจบการถ่ายทอดสดเพื่อแก้สถานการณ์ที่คาดไม่ถึงนี้
เจมส์ แฟรนโก (James Franco) และ แอนน์ แฮทธาเวย์ (Anne Hathaway)
ในปี 2011 เจมส์ รับหน้าที่เป็นพิธีกรงานรางวัลออสการ์คู่กับ แอนน์ แฮทธาเวย์ ทั้งคู่ได้รับเลือกโดยทางสมาคมฯ เพื่อให้ช่วยดึงดูดกลุ่มคนดูที่เด็กลง มีสื่อหลายแห่งวิจารณ์ว่าเจมส์ดูไร้เรี่ยวแรงเมื่ออยู่บนเวที คนดูบางกลุ่มถึงกับบอกว่าเป็นการออกอากาศที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเจมส์ได้ออกมาบอกว่า ที่เขาตกลงรับหน้าที่นี้ เพราะถือว่าเป็นโอกาสที่ดีและเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต นอกจากนี้ ในปีที่เขารับหน้าที่เป็นพิธีกรยังเป็นปีเดียวกับที่เขามีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง 127 Hours (2010) อีกด้วย ส่วนแอนน์เองก็มีชื่อเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์สองครั้ง ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์ Rachel Getting Married ในปี 2008 และสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง Les Misérables ในปี 2012 ที่เธอชนะรางวัลไปได้อย่างสง่างาม
COVER PHOTO: Aaron Poole / ©A.M.P.A.S.