×

6 ผู้ประกอบโทรคมนาคมยื่นหนังสือต่อนายกฯ ให้ทบทวนโครงการท่อร้อยสายใต้ดิน หวั่นผูกขาดรายเดียว

27.06.2019
  • LOADING...

หลังจากมีรายงานข่าวว่าทางกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นราชการส่วนท้องถิ่นได้อนุญาตให้ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในความควบคุมของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตาม ‘โครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร’ ระยะทาง 2,450 กิโลเมตร 

 

และปรากฏต่อมาว่ากรุงเทพธนาคมได้ทำการคัดเลือกโดยให้มีการยื่นข้อเสนอ ซึ่งมีผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเอกชนเพียงรายเดียวที่ยื่นข้อเสนอ และทำให้กรุงเทพธนาคมอนุญาตให้เอกชนรายนั้นแสวงหาประโยชน์จากท่อร้อยสายของรัฐไปโดยปริยาย แสดงให้เห็นถึงการให้สิทธิ์ผูกขาดเอกชนรายใดรายหนึ่งเพียงรายเดียว

 

ล่าสุด (27 มิ.ย.) 6 ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกรายมีโอกาสเข้าถึงบริการท่อร้อยสายสื่อสารของหน่วยงานของรัฐโดยตรง โดยผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทั้ง 6 ราย ประกอบด้วย

 

  1. บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด 
  2. บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด 
  3. บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) 
  4. บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) 
  5. บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด
  6. บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) 

 

วีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าการยื่นหนังสือครั้งนี้เป็นการยื่นเพื่อเรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง ควรจะต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบ เพราะการกระทำครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาการเดินสายบนเสาโดยโอเปอเรเตอร์เป็นปัญหาจริง ไม่ว่าจะทำให้เกิดทัศนียภาพที่ไม่สวยงาม รวมถึงก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน และมองว่าการย้ายสายไปอยู่ใต้ดินไม่ใช่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการเปลี่ยนปัญหาไปอยู่อีกจุดหนึ่งมากกว่า

 

“การเดินท่อร้อยสายใต้ดินคือการทำให้สายที่อยู่บนเสาย้ายไปรกอยู่ในใต้ดิน ดังนั้นการเดินท่อร้อยสายใต้ดินไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการเปลี่ยนปัญหาไปอยู่อีกที่หนึ่งมากกว่า ผลก็คือจะมีการเปิดท่ออยู่เป็นประจำ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอยู่เสมอ วิธีการแก้ไขปัญหาจริงๆ คือการจัดการมากกว่า ซึ่งการจัดการคือการทำให้มีการพาดสาย ไม่ใช่เพิ่มสายขึ้นมาจนเป็นดินพอกหางหมู” 

 

ทั้งนี้วีรวัฒน์เผยต่อว่าตอนนี้มีการคุยกับโอเปอเรเตอร์เพื่อร่วมกันตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมาเพื่อเดินสายรายเดียวไปตามบ้านเช่นเดียวกับสายไฟฟ้าที่มีเส้นเดียว ดังนั้นสายสื่อสารก็ควรมีเส้นเดียวเช่นกัน ซึ่งเวลามีลูกค้ารายใหม่มาก็จะไปจัมป์ตรงกลางสาย หากทำได้ ปัญหาสายรกก็จะไม่เกิดขึ้นอีก 

 

นอกจากนี้ 6 ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมยังได้ให้ความเห็นว่า กรุงเทพมหานคร โดยกรุงเทพธนาคม ในฐานะหน่วยงานของรัฐ ควรให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกรายเข้าถึงท่อร้อยสายของรัฐจากหน่วยงานของรัฐได้โดยตรงตามหลักเกณฑ์ของ กสทช. ด้วยเหตุผลดังนี้

 

1. หน่วยงานของรัฐควรให้ผู้รับใบอนุญาตทุกรายเข้าถึงสาธารณูปโภคนี้จากหน่วยงานของรัฐได้โดยตรง และมิควรมอบสิทธิผูกขาดให้แก่เอกชนรายใดรายหนึ่งไปแสวงหาประโยชน์จากสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้

2. ผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคมเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกฎหมาย

3. การดำเนินการดังกล่าวทำลายการแข่งขันที่เป็นธรรมและไม่มีหลักประกันใดให้แก่ผู้บริโภค ผู้ผูกขาดจะอยู่ในฐานะที่สามารถหากำไรส่วนเกินในระยะยาว เปรียบเสมือนค่าสัมปทานที่เรียกเก็บและสามารถนำกลับมาแข่งขันกับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่น อันเป็นการบิดเบือน การแข่งขัน ซึ่งผู้บริโภคก็จะเป็นผู้ได้รับความเสียหายในท้ายที่สุด

4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าการดำเนินโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานครดังกล่าวจะเข้าข่ายที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

5. กลุ่มผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมต่างให้ความสนับสนุนในการจัดระเบียบสายสื่อสารให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและมองเห็นผลประโยชน์แก่ประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมมองว่า บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ก็มีความเชี่ยวชาญที่อาจช่วยให้บริการท่อร้อยสายดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและสิ้นเปลืองน้อยกว่า รวมถึงวิธีแก้ปัญหาสายสื่อสารพาดบนเสาไฟฟ้าที่อาจไม่จำเป็นต้องปลดลงทุกเส้นทางเสมอ เช่น หากดำเนินการจัดระเบียบให้เรียบร้อยก็จะมีภาระการลงทุนใหม่เพียง 490 ล้านบาท และต้นทุนค่าเช่าประมาณ 5.4 ล้านบาท เป็นต้น

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising