CES หรือชื่อเดิมคืองาน Consumer Electronics Show เป็นงานแสดงสินค้าล่าสุดเกี่ยวกับแก็ดเจ็ตความบันเทิง เทคโนโลยีด้านสุขภาพ พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นเวลาทั้งสิ้น 4 วัน
จากข้อมูลของผู้จัดอย่าง CTA งานในปีนี้มีผู้จัดแสดงที่ได้รับการยืนยันแล้ว 2,800 รายจากทั่วโลก คาดว่าจะมีการจัดแสดงที่แข็งแกร่งจากผู้จัดในเอเชีย แม้มาตรการผ่อนปรนโควิดของจีนอาจขัดขวางการเข้าร่วมจากประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเฟื่องฟู แต่ความหวือหวานี้จะอยู่ได้นานอีกเท่าไร?
- เปิดเงื่อนไขซื้อ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ รัฐบาลช่วยจ่ายเงินอุดหนุนเท่าไร ลดภาษีกี่เปอร์เซ็นต์
- BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ในมือประธานวงศ์ พรประภา ฝันที่ยิ่งใหญ่ของ ไฮโซพก
และนี่คือ 5 สิ่งที่ควรค่าแก่การจับตามอง
1. การกลับมาหลังการระบาดของโควิด
การระบาดใหญ่ของโควิดส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่องาน CES เช่นเดียวกับงานแสดงสินค้าและสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญอื่นๆ ทั่วโลก CES ได้หันไปจัดบนออนไลน์แบบเต็มรูปแบบในปี 2021 เพื่อรับมือกับโรคระบาด และเปลี่ยนไปเป็นแบบผสมผสานในปี 2022
โดยปีนี้เป็นปีแรกที่งานส่วนใหญ่กลับมาเป็นปกติจากการที่ประเทศส่วนใหญ่ต่างผ่อนปรนมาตรการโควิดของตน ทั้งนี้ CTA ขอให้ผู้เข้าร่วมทำการตรวจโควิดก่อนเดินทางมาถึงและระหว่างการเข้าพัก และบอกว่าจะมีหน้ากากอนามัยให้บริการในสถานที่จัดงานอีกด้วย
CTA ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมไว้ที่ 100,000 คน ซึ่งมากกว่าสองเท่าของปีก่อนที่ 45,000 คน
2. การกลับมาของจีน
การที่ปักกิ่งยกเลิกนโยบายปลอดโควิดอย่างกะทันหันเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้งานนี้กลายเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ผู้เข้าชมจากจีนสามารถเดินทางไปสหรัฐฯ ได้
จากรายชื่ออย่างเป็นทางการของ CTA มีบริษัทจีน 485 แห่งได้เข้าร่วมงานในปีนี้ แบรนด์ต่างๆ เช่น TCL, Hisense, Konka และ Formovie อยู่ในรายชื่อผู้แสดงสินค้า แม้ว่าหลายๆ แบรนด์จะนำเสนอผ่านบริษัทสาขาในสหรัฐฯ ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังของจีนบางส่วนจะไม่เข้าร่วมงานนี้ โดย Huawei Technologies จะส่งตัวแทนเข้าร่วมงาน ขณะที่ Alibaba Group Holding กล่าวว่ากำลังพิจารณาส่งทีมงานไปงาน CES ‘ในอนาคตอันใกล้’
3. ใครบ้างมาจากเอเชีย
“ผู้เข้าร่วมงานจากเอเชียยังคงดุดัน โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน” สตีฟ โคนิก รองประธานฝ่ายวิจัยของ CTA กล่าวกับ Nikkei Asia
เช่นเดียวกับบริษัทในจีน หลายคนมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
Hyundai Mobis ของเกาหลีใต้ ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้ Hyundai Motor จะจัดแสดง PBV ประเภทใหม่หรือยานพาหนะที่สร้างขึ้นตามการใช้งาน และความสนใจของสาธารณชนจะอยู่ที่การประกาศใดๆ จาก Sony ของญี่ปุ่น ซึ่งจะเปิดตัวคอนเซปต์ในงาน CES 2022
Hyundai Heavy Industries ผู้ผลิตเรือรายใหญ่อันดับสองของโลก วางแผนที่จะประกาศกลยุทธ์การลดคาร์บอนทางทะเลในอุตสาหกรรมการต่อเรือ ซึ่งกำลังประสบปัญหาในการลดการปล่อยคาร์บอน
ขณะเดียวกัน LG Electronics ได้ประกาศความร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ Magna สัญชาติแคนาดา เพื่อผสานเทคโนโลยีระบบสาระบันเทิงของบริษัทเข้ากับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงของรถรุ่นใหม่ ทั้งสองบริษัทวางแผนที่จะหารือเกี่ยวกับการจัดหาเทคโนโลยีของตนให้กับผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่งาน CES
4. เทคโนโลยีอาหารและรถยนต์ไฟฟ้า
ภาคส่วนที่คุ้นเคย เช่น รถยนต์ไฟฟ้าระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จะถูกนำเสนออย่างมากในงาน แต่เน้นที่การพัฒนาแอปพลิเคชันของพวกเขา
เช่น ‘การใช้พลังงานไฟฟ้า’ อย่างต่อเนื่องของระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้า ที่สัญญาว่าจะปรับปรุงทุกอย่างตั้งแต่การออกแบบแบตเตอรี่ ไปจนถึงระบบการชาร์จไฟและการออกแบบภายในตัวรถ
การหาวิธีหล่อเลี้ยงประชากรที่เพิ่มขึ้นกลายเป็นประเด็นหลัก ซีอีโอจากบริษัทผลิตรถแทรกเตอร์อย่าง John Deere เป็นหนึ่งในผู้บรรยายหลัก และระบบอัตโนมัติกำลังได้รับการขนานนามว่าเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ ‘ฟาร์มแห่งอนาคต’
การอภิปรายและการนำเสนออื่นๆ จะหารือเกี่ยวกับความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของความยั่งยืน รวมถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในด้านเทคโนโลยี
5. ภูมิรัฐศาสตร์กำลังก้าวไปข้างหน้า
แม้เทคโนโลยีเป็นจุดสนใจหลักของงาน การเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ก็ถูกพูดถึงเช่นเดียวกัน
กลายเป็นสถิติใหม่สำหรับผู้เข้าชมที่เป็น ส.ส. จากสหรัฐฯ รวมถึงวุฒิสมาชิกเนวาดา แจ็คกี้ โรเซน ก็จะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามคนจะหารือเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของเทคโนโลยีกับการประชุมสภาครั้งหน้า
ในบรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสจะมี เจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะพูดคุยเกี่ยวกับแผนการบริหารเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานของ โจ ไบเดน ซึ่งเป็นข้อกังวลเป็นพิเศษ เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้ตลาดพลังงานทั่วโลกเกิดความระส่ำระสาย
เจ้าหน้าที่และนักการเมืองคนอื่นๆ จะพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ตั้งแต่ความปลอดภัยทางไซเบอร์ไปจนถึงอนาคตของระบบ 5G และ TikTok ซึ่งได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากวอชิงตันเกี่ยวกับประเด็นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล
อ้างอิง: