×

5 เหตุผลที่ควรเปลี่ยนมาใช้ iPhone 14 Pro จะดีไหม? มาหาคำตอบไปด้วยกัน

16.11.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • ในขณะที่ iPhone 14 ยังคงใช้ชิป A15 Bionic เหมือน iPhone 13 Pro แต่สำหรับ iPhone 14 Pro ได้รับการอัปเกรดให้เป็น A16 Bionic ที่ช่วยให้เครื่องทำงานได้แรงและเร็วยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าแรงที่สุดในบรรดา iPhone ด้วยกัน
  • Dynamic Island มีประโยชน์จริงๆ ในแง่การใช้งาน เริ่มจากการเป็นหน้าจอแสดงผล Notification บอก Incoming, AirPods connected call Face ID, Low battery และ Charging ฯลฯ

สำหรับคนที่เป็นสาวก iPhone และใช้มาตั้งแต่เจเนอเรชันแรกๆ จนถึงรุ่น 13 เมื่อมีเจเนอเรชันใหม่ออกมา ก็มักเกิดคำถามขึ้นเสมอว่าเราจะลงทุนกับรุ่นใหม่ดีไหม ถึงเวลาถอยใหม่แล้วหรือยัง ครั้งนี้เราเลยจะมาสรุปให้ฟังว่าในฐานะคนที่ใช้ iPhone 13 Pro มาก่อน เมื่อได้มาทดลองใช้จริงรุ่น 14 Pro เป็นเวลานานหลายเดือนนั้น เราจับความพิเศษอะไรของ iPhone รุ่นนี้ได้บ้าง ก่อนลิสต์ออกมาเป็นเหตุผล 5 ประการที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ 

 

1. ชิป A16 Bionic แรงสุดแล้วตอนนี้

ในขณะที่ iPhone 14 ยังคงใช้ชิป A15 Bionic เหมือน iPhone 13 Pro แต่สำหรับ iPhone 14 Pro ได้รับการอัปเกรดให้เป็น A16 Bionic ที่ช่วยให้เครื่องทำงานได้แรงและเร็วยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าแรงที่สุดในบรรดา iPhone ด้วยกัน ซึ่งส่งผลให้ iPhone 14 Pro มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า iPhone 14 พูดง่ายๆ ว่าตกรุ่นช้ากว่า แม้จะออกมาปีเดียวกัน แต่จากการใช้งานจริงเราพบว่า ความเร็วและความแรงนั้นดีกว่าเดิมเล็กน้อย (เพราะลำพัง A15 Bionic ก็จัดว่าแรงมากๆ อยู่แล้ว) ไม่ได้ถึงขั้นสัมผัสได้ถึงความปรู๊ดปร๊าดชัดเจนขนาดนั้น   

 

2. Dynamic Island ที่ใช้งานได้จริง 

ฟีเจอร์นี้เป็นสิ่งที่เราชอบเป็นพิเศษ เพราะไม่ได้เป็นแค่ลูกเล่นใหม่ที่มาปรากฏตัวครั้งแรกใน iPhone 14 Pro แต่ Dynamic Island มีประโยชน์จริงๆ ในแง่การใช้งาน เริ่มจากการเป็นหน้าจอแสดงผล Notification บอก Incoming, AirPods connected call Face ID, Low battery และ Charging ฯลฯ รวมถึงการบอกสถานะการทำงานของแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เปิดใช้งานอยู่ เช่น Ongoing call, Music/Now playing, Maps directions, Timer เป็นต้น รวมถึงยังใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง Apple watch หรือ AirPods ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนใช้เห็นถึงความต่างระหว่างรุ่น 13 Pro กับ 14 Pro

 

 

3. Always-On Display ถ้าไม่ชอบก็เกลียดเลย 

นี่ก็ฟังก์ชันใหม่ที่มีเฉพาะ iPhone 14 Pro ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เราสามารถเห็นหน้าจอได้ตลอดเวลา เพื่อเช็กข้อมูลเริ่มต้นอย่างการแจ้งเตือน วัน และเวลา ได้โดยไม่ต้องแท็ปหน้าจอให้เปิดขึ้นเหมือนรุ่นก่อนๆ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีเฉพาะเครื่อง Android เท่านั้น เมื่อ Apple ใส่เข้ามาบ้าง ก็ได้ออกแบบให้หน้าจอสามารถปรับหรี่แสงให้ไม่สว่างจนเกินไป ฟีเจอร์นี้ต้องบอกตามตรงว่าถ้าไม่รักก็เกลียดเลย เพราะหลายคนรำคาญกับการเห็นหน้าจอที่เปิดตลอดเวลา (แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิด) และรู้สึกถึงความไม่เป็นส่วนตัว ที่คนอื่นๆ สามารถมองเห็นหน้าจอของเราได้ แต่ก็ต้องบอกว่าคนส่วนใหญ่ชื่นชอบฟีเจอร์นี้เพราะความสะดวกสบายนั่นเอง 

 

4. กล้องใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี 

นับป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ Apple ใช้กล้องที่มีความละเอียด 12MP ใน iPhone 6s แต่สำหรับตัว iPhone 14 Pro ได้มีการอัปเกรดความละเอียดของกล้องหลักให้กระโดดไปถึง 48MP และเป็นเซ็นเซอร์ Quad-Pixel ที่ช่วยให้เราถ่ายภาพในที่แสงน้อยๆ ได้ดียิ่งขึ้น 

 

หลังจากที่ลองใช้จริง พบว่าคุณภาพกล้อง iPhone 14 Pro นั้นดีกว่าตัว iPhone 13 Pro ทั้งการถ่ายในที่แสดงปกติและแสงน้อย กล้องหน้าเซลฟีก็ดีกว่าเช่นกัน น่าจะถูกใจคนที่ชอบถ่ายภาพ โดยเฉพาะช่างภาพมืออาชีพที่สามารถใช้โหมด ProRAW ส่วน Action Mode ก็ช่วยให้การถ่ายวิดีโอด้วย iPhone นั้นนิ่งและสมูธยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้จับกิจกรรมที่มีความเคลื่อนไหวสูง เช่น กีฬา วิ่ง การเต้น ฯลฯ

 

 

เมื่อเทียบด้านข้างของ iPhone 13 Pro ฝั่งซ้าย และ iPhone 14 Pro ที่อยู่ทางขวาจะเห็นว่าตัวเลนส์ของกล้องมีขนาดใหญ่กว่าอย่างชัดเจน

 

ด้านซ้ายเป็น iPhone 13 Pro ด้านขวา iPhone 14 Pro จะเห็นว่าภาพและแสงของรุ่นใหม่สด สว่าง และคมชัดกว่า 

 

 

5. เพิ่มระบบความปลอดภัยด้วย Crash Detection   

อีกหนึ่งของใหม่ที่มีในตระกูล 14 ทุกรุ่น แต่เราคงไม่อยากใช้เท่าไรนัก นั่นคือระบบแจ้งเตือนเมื่อมีอุบัติเหตุทางรถยนต์เกิดขึ้นขณะที่เราอยู่บนรถ โดยที่ iPhone จะติดต่อไปยังเบอร์ฉุกเฉินที่เราตั้งเอาไว้โดยอัตโนมัติ ซึ่งตอนนี้ยังจับได้แต่อุบัติเหตุทางรถยนต์ ยังไม่สามารถตรวจจับอุบัติเหตุบนยานพาหนะอื่นๆ อย่าง มอเตอร์ไซค์ เรือ หรือจักรยาน แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าฟีเจอร์นี้อาจได้รับการพัฒนา แต่ต้องบอกว่าฟีเจอร์นี้เราไม่ได้ทดสอบจริง เพียงแต่รู้ว่าถ้ามีไว้ก็อุ่นใจดี 

 

สรุปคุ้มค่าไหม?

หากพูดถึงความคุ้มค่าสำหรับคนที่ชอบการถ่ายภาพ และอยากได้กล้อง iPhone ที่ดีที่สุดในรุ่น Pro ต้องบอกว่า iPhone 14 Pro ตอบโจทย์ เพราะกล้องดีกว่าตัวเก่าแน่นอน แถมด้วยสิ่งใหม่เอี่ยมอย่าง Dynamic Island, Always-On Display และ Crash Detection ที่เหล่าสาวก iPhone ไม่เคยลองใช้มาก่อน ก็ย่อมยิ่งทำให้รุ่นนี้คุ้มค่าเข้าไปใหญ่ในแง่ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้งานสินค้า Apple 

 

แต่หากคุณเป็นคนที่ใช้งานทั่วไปไว้รับสาย โทรเข้า-ออก ถ่ายภาพ เล่นโซเชียล ไม่ได้มีความต้องการอะไรที่มากมายเป็นพิเศษ การเปลี่ยนจาก 13 Pro มาเป็น 14 Pro อาจไม่จำเป็นเท่าไรนัก แต่ถ้าใช้รุ่นที่ต่ำลงไปกว่านั้น การได้มาจับ iPhone 14 Pro ในราคาเริ่มต้นที่ 41,900 บาท จะเห็นถึงความต่างแน่นอน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising