×

จับตาดู 5 เขื่อนใหญ่ระดับน้ำ 80-100% ของความจุ งดเพาะปลูกหลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปี

โดย THE STANDARD TEAM
02.09.2018
  • LOADING...

สำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ปฏิบัติหน้าที่ ผอ. ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤตเผยว่า วันนี้ (2 ก.ย.) มีฝนตกหนัก ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักแบ่งเป็น

 

1. ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย, พะเยา, น่าน, แม่ฮ่องสอน, ตาก

 

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดหนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม

 

3. ภาคตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์

 

4. ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, จันทบุรี, ตราด

สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน อัตราการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 820 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 30-50 เซนติเมตร ซึ่งศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้ประสานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาปรับแผนลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์ เพื่อป้องกันผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำให้เกิดน้อยที่สุด รวมทั้งแจ้งจังหวัดและประชาชนให้ทราบแผนการระบายน้ำล่วงหน้า โดยขณะนี้พบว่ามีน้ำสูงกว่าตลิ่งที่อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้มีหนังสือแจ้ง 22 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อขอความร่วมมือชาวนาไม่ทำการเพาะปลูกข้าวต่อเนื่องหลังการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้วเนื่องจากเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก

 

ขณะที่สถานการณ์แม่น้ำโขงแนวโน้มน้ำสูงขึ้น โดยมีน้ำสูงกว่าตลิ่งที่ จังหวัดหนองคาย, นครพนม, มุกดาหาร และอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี และต้องเฝ้าระวังบริเวณจังหวัดบึงกาฬ

ขณะนี้เขื่อนที่ต้องเฝ้าระวังซึ่งมีความจุ 80-100% ได้แก่ เขื่อนขนาดใหญ่ 5 แห่ง เขื่อนวชิราลงกรณ (94%), เขื่อนศรีนครินทร์ (91%), เขื่อนรัชชประภา (86%) และเขื่อนขุนด่านปราการชล (86%)

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising