หลังสามารถค้นหาและกู้ภัย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีได้สำเร็จหลังติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเป็นเวลา 17 วัน ยังคงมีประเด็นเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ตามมาอีก ล่าสุดพบว่าในจำนวน 3 คนไม่ได้มีสัญชาติไทย ทำให้กระแสการเรียกร้องสัญชาติให้กับพวกเขาถูกตั้งคำถามถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
ล่าสุด ร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงประเด็นการพิจารณาสัญชาติไทยให้กับน้องๆ หมูป่า 3 คนที่ไม่มีสัญชาติไทยว่า
ขณะนี้ทางอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กำลังตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ อยู่ โดยของโค้ชเอกมีอยู่ 2 แนวทางคือ การยื่นขอตามมาตรา 23 และมาตรา 7 ทวิ แม้ว่าโค้ชเอกจะไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะในกรณีของมาตรา 23 ต้องไปดูหลักฐานการเกิด
ทั้งนี้ทราบว่าโค้ชเอกเกิดที่อำเภอแม่สาย ส่วนหลักฐานอื่นๆ ต้องตรวจสอบทั้งของของบิดามารดา รวมถึงเอกสารการเกิดของทั้ง 3 คนว่าเกิดในประเทศไทยหรือไม่ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบิดาของโค้ชเอกเป็นชนกลุ่มน้อยไทลื้อ แต่จะเกิดในประเทศไทยหรือไม่นั้น ต้องย้อนไปตรวจสอบทะเบียนประวัติการเกิดของบิดาโค้ชเอกว่าเกิดในประเทศไทยหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบพยานบุคคลแวดล้อมที่เกี่ยวข้องว่าอยู่ในเงื่อนไขหรือไม่
เชื่อว่าหลังจากที่ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงและกลับบ้านได้แล้ว ผู้ปกครองของหมูป่าทั้ง 3 คนก็จะมาดำเนินการยื่นหลักฐานต่างๆ
พร้อมยืนยันว่าการพิจารณาการให้สัญชาติของโค้ชเอกและน้องหมูป่าอีก 2 คนไม่ได้ดำเนินการหลังจากเกิดกรณีติดถ้ำหลวง แต่ครอบครัวได้ยื่นขอสัญชาติไทยมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ได้นำเอกสารมาตรวจสอบพิจารณาอีกครั้ง
นายอาทิตย์ยังกล่าวด้วยว่าจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดเบื้องต้น คาดว่าโค้ชเอกและน้องหมูป่าอีก 2 คนมีโอกาสจะได้รับสัญชาติไทย เพราะคุณสมบัติหลายอย่างเข้าข่ายระเบียบการขอสัญชาติของกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด
แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายอำเภอแม่สาย เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบอำนาจให้นายอำเภอไปแล้วตามระเบียบของกระทรวง
อย่างไรก็ตาม ในระเบียบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559 ได้ขยายสิทธิการขอสัญชาติให้กับคนทุกกลุ่มแล้วเพื่อให้ครอบคลุมกับทุกกลุ่มที่จะได้สัญชาติไทย แต่การพิจารณาทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานข้อเท็จจริงของแต่ละบุคคลว่าจะเข้าเงื่อนไขข้อใดบ้าง ซึ่งการจะให้บัตรประชาชนกับบุคคลที่ขอสัญชาติไทยหรือไม่นั้น หากมีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะเป็นอำนาจของนายอำเภอ แต่หากมีอายุเกิน 18 ปีจะเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด
ส่วนที่มีการเปรียบเทียบกรณีของ นายหม่อง ทองดี ที่ปัจจุบันยังไม่ได้รับสัญชาติไทย แม้จะยื่นเรื่องขอมานานแล้ว จากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าบิดาและมารดาของนายหม่องเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ทั้งนี้ต้องไปย้อนดูว่านายหม่องใช้ช่องทางและเงื่อนไขใดในการยื่นคำร้องขอสัญชาติไทย ซึ่งต่างจากหมูป่า 3 คนที่เป็นลูกของชนกลุ่มน้อย ดังนั้นการพิจารณาสิทธิ์ขอสัญชาติไทยจึงมีข้อจำกัดแตกต่างกัน