ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ ที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจการลงทุนในตลาดบอนด์ที่มีขนาด 24 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนจาก Duration หรืออายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าปัจจุบันของกระแสดอกเบี้ยรับที่จะได้ในอนาคตที่ปรับตัวดีขึ้น
การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วและแรงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในปีนี้ผลักดันให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ ทศวรรษ แต่ผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐในขณะนี้ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเทียบกับในช่วงก่อนที่ตลาดจะทรุดตัวลงจากผลพวงจากเงินเฟ้อ
ผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นทำให้ความเสี่ยงของ Duration ลดต่ำลง ซึ่งหมายความว่าการขายในช่วงนับจากนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับบรรดาผู้จัดการเงินน้อยลง หลังจากที่พวกเขาต้องเผชิญการขาดทุนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
คริสเตียน มุลเลอร์-กลิสแมนน์ หัวหน้ากลยุทธ์ด้านการกระจายความเสี่ยงสินทรัพย์ Goldman Sachs กล่าวว่า พันธบัตรกำลังมีความเสี่ยงลดลง เช่นเดียวกับความผันผวนโดยรวมของพันธบัตรที่มีแนวโน้มลดลงจาก Duration ที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะมันทำให้พันธบัตรน่าลงทุนมากขึ้น
ไอรา เจอร์ซีย์ นักกลยุทธ์ของ Bloomberg ระบุว่า ผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 2 ปียังต้องปรับเพิ่มขึ้นอีก 2.33% กว่าจะชดเชยการขาดทุนในช่วงที่ผ่านมาได้ อย่างไรก็ดี มาตรวัด Duration ของ Bloomberg US Treasury Index ได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 7.4 มาอยู่ที่ 6.1 ซึ่งเป็นระดับดีสุดนับจากปี 2019 ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ลดลงแม้ว่าจะยังไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีที่สุดก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซีอีโอ JPMorgan เตือน เศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 6-9 เดือน
- หุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปิดบวกถึง 800 จุด จากที่ร่วงหนักกว่า 500 จุด หลังการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย.
- สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ที่ 8.2% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งทันที!
อ้างอิง: