เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในข่าวใหญ่ของแวดวงฮอลลีวูดคือเมื่อเว็บไซต์ Variety ได้รายงานว่าค่าตัวของพระเอก Robert Pattinson สำหรับการเล่น The Batman ภาคใหม่ มีการคาดการณ์อยู่ที่เพียง 3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก็สร้างความฮือฮาเพราะถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยมากหากเปรียบเทียบกับดาราระดับเอลิสต์คนอื่นที่มาสวมบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดัง
ต่อมาทางเว็บไซต์ Variety ก็ทำบทความวิเคราะห์ค่าตัวของเหล่าบรรดาดาราแม่เหล็กสำหรับผลงานล่าสุด ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะจะเห็นได้ว่า 9 ใน 10 ของนักแสดงในลิสต์ Top 10 ต่างมีผลงานภาพยนตร์ที่จะฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆ หรือควบคู่ไปกับฉายในโรงภาพยนตร์พร้อมกัน ยกเว้นแต่ Sandra Bullock กับภาพยนตร์เรื่อง The Lost City of Z ที่จะฉายแค่ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญของการเซ็นสัญญาเล่นภาพยนตร์กับค่ายสตริมมิงก็คือทางนักแสดงก็ไม่สามารถขอส่วนแบ่งจากกำไรภาพยนตร์ เพราะไม่ได้มีการขายตั๋วหนัง หรือถ้าฉายในโรงก็ถือว่าจำกัดมากๆ พวกเขาเลยต้องต่อรองขอค่าตัวที่สูงขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
แต่ในขณะเดียวกัน นักแสดงที่เลือกเล่นในหนังที่จะฉายในโรงภาพยนตร์เท่านั้นก็สามารถต่อรองในสัญญาเรื่องจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่จะได้จากกำไรที่ได้จากการขายตั๋ว โดยบางคนอย่าง Robert Pattison อาจเลือกเสี่ยงขอค่าตัวน้อยมากๆ แต่ขอส่วนแบ่งจากกำไรภาพยนตร์ The Batman หลายเปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ Sandra Bullock ก็อาจเลือกเซฟตัวเองไว้ก่อนด้วยการขอค่าตัวที่สูงตามมาตรฐานของเธอ และมีส่วนแบ่งจากกำไรบ้าง แต่เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ถือว่าน้อยมากๆ
ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ
อ้างอิง: