ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวการตายของพะยูนมาเรียมว่า การดูแลมาเรียมเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ต้องใช้ทักษะทางวิชาการ ความอดทน รวมถึงเจ้าหน้าที่และพี่น้องเกาะลิบงได้ดูแลมาเรียมด้วยความรักเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เมื่ออนุบาลและปล่อยกลับทะเลก็ไปเจอพะยูนรุ่นใหญ่คุกคาม เมื่อกลับมาก็อยู่ในอาการที่ไม่ปกติ อาการรวมถึงสภาพร่างกายค่อนข้างมีปัญหา
เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ (17 ส.ค.) มาเรียมได้จากไปด้วยอาการช็อก เมื่อผ่าพิสูจน์พบว่า มีเศษพลาสติกเล็กๆ ขวางทางเดินลำไส้ ทำให้มีอาการอื่นตามมา บวกกับมีสภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและมีหนอง หลังจากมีอาการช็อกอีกครั้งก็จากไป ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพี่น้องชาวเกาะลิบง
วราวุธกล่าวอีกว่า การตายของมาเรียมจะเป็นตัวจุดกระแสให้คนไทยและคนในโลกนี้ ได้ตื่นตัวว่าจะไม่ทิ้งขยะทะเล จะกำจัดขยะเหล่านี้ให้หมดไป นี่คือสิ่งง่ายๆ แต่พอไม่ทำ เราเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น คำถามวันนี้เราต้องถามว่า พี่น้องคนไทย คนในโลกนี้ พร้อมแล้วหรือยังที่จะทำอะไรให้แผ่นดินนี้ โลกนี้ เพื่อให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น จะทำอย่างไรไม่ให้เหตุการณ์อย่างมาเรียมเกิดขึ้นอีก
“เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต สิ่งที่ผมให้คำมั่นได้คือ ตราบใดที่ยังเป็น รมต. อยู่ เราจะทำทุกอย่าง ทุกมาตรการในการที่จะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ไม่ใช่เเค่กรณีน้องมาเรียม แต่เรายังมีสัตว์นานาชนิดที่ประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน มาเรียมเป็นเพียงตัวแทนสัตว์ทั้งหลายในการที่จะทำให้คนสำนึก ตระหนัก ต่อคำว่าขยะ ว่ามีอันตรายแค่ไหน ตัวมาเรียมไม่อยู่ จากนี้ไปชื่อมาเรียมจะเป็นสัญลักษณ์ในการทำโครงการต่างๆ เป็น #มาเรียมแอ็กชัน รวมทั้งจะให้นำร่างของมาเรียมมาสตัฟฟ์ไว้เพื่อศึกษาต่อไป”
วราวุธเปิดเผยอีกว่า ตนไม่อยากให้คนไทยมาเปิดดูสัตว์หายากผ่านหนังสือเล่มหนึ่งในอนาคต และต่อไปจะมีการดำเนินการแผนพะยูนแห่งชาติ การอนุรักษ์พะยูนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับวิถีชีวิตของพี่น้องชาวประมงด้วย
ด้าน รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ อธิบายการผ่าพิสูจน์ว่า พบพลาสติกในลำไส้เล็ก อัดอยู่บริเวณลำไส้เล็กส่วนปลายกับลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ไม่ได้อัดเยอะแน่นมาก แต่เนื่องจากชิ้นเล็กจนกระทั่งแพ็กเป็นก้อนใหญ่ มาเรียมมีหนองในปอด ทำให้เกิดสภาพขาดน้ำอย่างหนัก ทำให้สิ่งที่อยู่ในลำไส้เกิดการอัดกันเป็นก้อนจนแห้ง พบว่า มีแก๊สในลำไส้มาก ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ช็อก และหัวใจวายในที่สุด
ในทางนิติวิทยาศาสตร์สัตวแพทย์ รอยช้ำที่ท้องเกิดจากการถูกชนจากพะยูนตัวผู้หวงถิ่น ทำให้เกิดอาการเครียด การกินพลาสติกเข้าไป ก็ผสมกับอาการที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว เป็นการกินพลาสติกที่เสื่อมสภาพเข้าไป ขนาด 8-10 เซนติเมตร ซึ่งเป็นพลาสติกที่อาจเกาะอยู่บนหญ้าทะเล แล้วเปื่อยส่วนหนึ่ง เมื่อมาเรียมกินหญ้า ก็คงจะมีหลุดเข้าไป ซึ่งแยกยากเหมือนกัน
ภาพ: สติงเกอร์
