×

‘บาส-ปอป้อ’ คว้ารองแชมป์ออล อิงแลนด์ 2020 หลังพ่ายคู่อินโดนีเซีย 1-2 เกม

16.03.2020
  • LOADING...
YONEX All England Open

การแข่งขันแบดมินตันสะสมคะแนนโลก HSBC BWF World Tour ระดับซูเปอร์ 1,000 รายการที่เก่าแก่สุดในโลก YONEX All England Open 2020 ซึ่งเป็นศึกออล อิงแลนด์ครั้งที่ 110 ชิงเงินรางวัลรวม 1,100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 34,100,000 บาท ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา รอบชิงชนะเลิศ ประเภทคู่ผสม บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 3 ของโลก และคู่มือ 3 ของรายการ พบ ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดวา อ็อคตาเวียนติ คู่มือ 5 ของโลก และคู่มือ 5 ของรายการจากอินโดนีเซีย

 

ผลปรากฏว่า เกมแรกคู่อินโดนีเซียแซงในช่วงท้ายเอาชนะไปก่อน 21-15 แต่เกมสอง คู่ของเดชาพลกับทรัพย์สิรีแก้เกมมาดี เอาชนะไป 21-17 ไล่ขึ้นมาเป็น 1-1 เกม ต้องมาลุ้นในเกมสุดท้าย ซึ่งคู่ไทยพยายามสู้เต็มที่ แต่ต้าน ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดวา อ็อคตาเวียนติ ไม่ไหว พ่ายไปอีก 8-21 สรุปคู่ของไทยแพ้ไป 1-2 เกม สกอร์ 15-21, 21-17, 8-21 ได้เพียงรองแชมป์ และถือเป็นครั้งที่ 8 ที่นักแบดมินตันไทยได้เพียงรองแชมป์ แต่คู่ บาส-ปอป้อ ก็ยังได้เงินรางวัลปลอบใจ 38,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,193,500 บาท ส่วนคู่อินโดนีเซียรับเงินรางวัล 81,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,523,400 บาท

 

หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “รู้สึกเสียดายที่บาส-ปอป้อไม่สามารถจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการแบดมินตันโลกได้ แต่ก็ขอชื่นชมว่าทั้งคู่ได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แม้ทำได้เพียงรองแชมป์ แต่พวกเขาก็แสดงถึงพัฒนาการ ทักษะฝีมือที่ตอนนี้ถือเป็นแถวหน้าของโลกในประเภทคู่ผสม และเชื่อว่าจะพัฒนาต่อไปได้อีกแน่นอน หลังจากนี้คงต้องโฟกัสไปที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจากฟอร์มที่ดีเช่นนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยมีลุ้นคว้าเหรียญรางวัลแบดมินตันในโอลิมปิกเกมส์หนนี้ได้แน่นอน”

 

นอกจากนี้คุณหญิงปัทมายังกล่าวถึงการที่สหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ยุติ 12 รายการแข่งขันสะสมคะแนนโลกที่ให้การรับรองตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ถึง 12 เมษายน ว่า BWF กับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ต่างติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งส่วนตัวในฐานะ IOC เมมเบอร์ ของประเทศไทย ก็ทราบเรื่องราว และจะนำมาแจ้งให้กับผู้เกี่ยวข้อง และชาวไทยได้รับทราบต่อไป เพื่อให้คณะนักกีฬาไทยเตรียมแผนรับมือต่อไป แม้จะยอมรับว่ากระทบกับความต้องการเก็บคะแนนคัดเลือกไปแข่งขันรอบสุดท้ายก็ตาม แต่สุขภาพของนักกีฬาและประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเชื่อมั่นว่าหากเราร่วมมือกันจะก้าวผ่านวิกฤตการณ์นี้ไปได้แน่นอน ซึ่งในส่วนของนักแบดมินตันไทยที่กลับมา ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบตามที่รัฐบาลกำหนด คือต้องกักตัวเองเพื่อดูอาการ 14 วัน” 

 

ภาพ: Badminton Photo

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising