เราเชื่อว่าหลายคนอาจเคยเห็นผลงานของศิลปินหญิงคนนี้ผ่านตามาบ้าง อย่างเช่น บนแพ็กเกจสินค้า เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ชา รองเท้าผ้าใบ ไปจนถึงน้ำจิ้มไก่ ทว่าหลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าจริงๆ แล้วตัวตนของศิลปินหญิงคนนี้เป็นอย่างไร
เพราะฉะนั้นเพื่อทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น เราเลยจะชวนเพื่อนๆ ไปเดินเล่นชมนิทรรศการใหม่ ‘Yesterday I was, Tomorrow I will be’ ที่จะพาทุกคนไปสำรวจเส้นทางตลอดเวลา 20 ปีของศิลปินหญิง Pomme Chan เจ้าของทุกชิ้นงานในพื้นที่จัดแสดงที่กำลังรอให้ทุกคนไปสัมผัสด้วยตา
ภายในนิทรรศการจะนำผลงานที่ Pomme Chan สร้างสรรค์ขึ้นในแต่ละช่วงเวลาชีวิตมาจัดแสดง เริ่มตั้งแต่ชิ้นแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นในฐานะศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นงานจิตรกรรม ประติมากรรม ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ หรือของแต่งบ้านต่างๆ
อย่างที่เราได้บอกไปตอนแรกว่าเธอเป็นผู้ออกแบบภาพประกอบสินค้า ซึ่งหากนับรวมแล้วจะมีมากถึงพันชิ้น และบางส่วนก็นำมาจัดแสดงให้ดูเช่นกัน โดยวันนี้เราหยิบบางส่วนมาให้ชมเป็นน้ำจิ้ม เพราะอยากให้ทุกคนไปดูด้วยตาตัวเองมากกว่า
เมื่อเดินเข้าไปในงาน สิ่งแรกที่จะเห็นได้ชัดและโดดเด่นก็คือ ‘Tiger’ ชื่อผลงานประติมากรรมรูปเสือสีพาสเทลที่มีสตอรีจาก Pomme Chan ว่า คนอื่นอาจมองเห็นเธอเหมือนเสือที่ดูน่าเกรงขามและไม่ยอมใคร แต่เธอกลับมองตัวเองว่าเป็นเสือใจดี อยู่ร่วมกับคนอื่นได้มากกว่า และเป็นเสือที่กำลังจะกระโดดออกจากความกลัวของตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นผลงานนี้จึงเปรียบเป็นตัวแทนของตัวตนที่แท้จริงของศิลปิน
ผลงานทั้งสองชิ้นนี้ ‘A Chair’ และ ‘Be Kind Mirror’ ถ่ายทอดเรื่องราวของอารมณ์ความรู้สึกเมื่อเธอต้องการพื้นที่ปลอดภัยและการโอบกอดตัวเอง
หัวใจของงานนี้อยู่ที่ห้อง ‘Happy People Studio’ เป็นชื่อบริษัทของศิลปินที่เธอทำงานร่วมกับทีมงานที่อยู่คนละเจเนอเรชัน เปิดเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนและเรียนรู้กัน เพื่อที่คนต่างรุ่นจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
โดยภายในห้องจะเป็นรูปวาดสรรพสัตว์ต่างๆ ที่เธอและทีมได้สร้างสรรค์ออกมา และเป็นผลงานของจริงที่แปะทับซ้อนกันไปเรื่อยๆ จนเต็มกำแพง กลายเป็นผลงานของทุกคนจาก Happy People Studio ที่ Pomme Chan บอกว่า หากขาดทีมของเธอไป นิทรรศการนี้จะไม่ประสบความสำเร็จและเป็นอย่างที่คิดไม่ได้แน่นอน
ไฮไลต์จากวันเปิดงาน Pomme Chan ได้สร้างสรรค์ผลงานให้ชมกันแบบสดๆ เป็นการปิดท้าย ในชื่อผลงานว่า ‘Forty-one’ ซึ่งมาจากอายุของเธอเอง ศิลปินเล่าอย่างติดตลกว่าเพราะสายตายาวแล้วเลยต้องมีแว่น และด้วยความที่เธอเป็นคนชอบลองทำอะไรใหม่ๆ จึงอยากเลือกพรีเซนต์ผลงานด้วยการพ่นสีสเปรย์ดู ซึ่งที่ผ่านมาเธอลองทำเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็ได้ออกมาเป็นผลงานนี้ที่เลือกมาเป็นชิ้นงานฟินาเล่ของวันเปิดนิทรรศการ
นอกเหนือจากที่เรานำมาเล่าให้ฟัง ยังมีส่วนอื่นๆ ที่อยากชวนให้ทุกคนไปสัมผัสตัวตนของ Pomme Chan ด้วยตัวเองอีกหลายส่วน เพราะนิทรรศการนี้จะทำให้เพื่อนๆ ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เปิดกว้างขึ้นกลับไปด้วยแน่นอน
และงานนี้อาจเป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะผันตัวไปเป็นนักธุรกิจอย่างเต็มตัวด้วย เราจึงไม่อยากให้ทุกคนพลาดงานนี้เลย
