ยะลาเร่งตรวจเชิงรุกในพื้นที่อำเภอเมือง ตั้งเป้าวันละ 300-500 คน นำผู้ติดเชื้อเข้าระบบการรักษาให้เร็วที่สุด

วันนี้ (25 ตุลาคม) ภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมกับเครือข่ายบริการอำเภอเมืองยะลา เทศบาลนครยะลา ในการจัดบริการตรวจหาเชื้อโควิดเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK จากรถชีวนิรภัยพระราชทาน ที่สนับสนุนโดยสำนักงานควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เพื่อแยกผู้ติดเชื้อและเข้าสู่ระบบการดูแลรักษาให้เร็วเพื่อ ควบคุมการระบาดของโรคและลดการเสียชีวิต

ภิรมย์ ระบุว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานรถตรวจเชื้อโควิด เพื่อตรวจหาเชื้อในพื้นที่จังหวัดยะลาจำนวน 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-29 ตุลาคม 2564 ตั้งเป้าวันละ 300-500 คน เพื่อเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเร่งตรวจหาเชื้อในพื้นที่ ค้นหาผู้ติดเชื้อให้เร็วที่สุดเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา

ทั้งนี้ผลจากมาตรการเชิงรุกของทางจังหวัดยะลา ที่มีการประสานความร่วมมือ บูรณาการเชิงรุกในทุกภาคส่วน เร่งตรวจหาเชื้อ พร้อมทั้งเร่งฉีดวัคซีน ควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวเลขการติดเชื้อในวันนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 340 ราย ติดเชื้อสะสม 38,577 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการเชิงรุกในการทำงาน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลง

ด้าน นพ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์การระบาดของจังหวัดยะลาที่มีผู้ติดเชื้อสูงต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการตรวจค้นหาเชิงรุกเพื่อที่จะได้พบผู้ติดเชื้อโดยเร็วแยกกักเร็วและเข้าสู่ระบบการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็ว ลดผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิต

ซึ่งขั้นตอนหลังจากการตรวจ ถ้าหากผู้ที่มีผลลบและยังไม่เคยฉีดวัคซีนก็จะได้รับการวัคซีนเข็มหนึ่งให้เลยและกลับบ้านได้ หากบุคคลนั้นมีพฤติกรรมเสี่ยงถึงแม้จะมีผลลบให้กลับบ้าน แนะนำให้ป้องกันตัวเองสูงสุดและต้องนัดมาตรวจอีกครั้งหนึ่ง ส่วนผู้ที่พบผลบวก แยกไปอีกจุดและให้รับประทานยาฟาวิพิราเวียร์เลย พร้อมให้ยากลับไปทานต่อครบ 5 วัน เจ้าหน้าที่จะประสานแจ้ง ศูนย์ปราโมทย์โรงพยาบาลยะลา เพื่อจัดให้ผู้ติดเชื้อได้เข้าสู่ระบบการดูแลรักษาที่ศูนย์แยกกักชุมชน (CI)

สำหรับรถตรวจเชื้อพระราชทาน จะยังคงให้บริการแก่ประชาชนในเขตของอำเภอเมืองยะลาต่อไปอีกจนถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งประชาชนสามารถไปใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.

โดยมีตารางให้บริการดังนี้