หลังจากโลดแล่นอยู่ในวงการมวยปล้ำตั้งแต่ปี 1984 จนถึงวันนี้เป็นเวลารวมมากกว่า 30 ปี ที่ชายจากเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่าง ‘มาร์ก คาลาเวย์’ หรือที่แฟนมวยปล้ำรู้จักกันในนามของ ‘ดิ อันเดอร์เทเกอร์’ ได้ประกาศอำลาสังเวียนผ่านซีรีส์ในชื่อรายการ ‘Last Ride’ ในตอนสุดท้ายของซีรีส์ ที่ออนแอร์ผ่านช่องทาง WWE Network
โดย ดิ อันเดอร์เทเกอร์ หรือเจ้าของฉายา ‘เดอะ เดดแมน’ ปัจจุบันอายุ 55 ปี ปรากฏตัวในแมตช์การปล้ำสุดท้ายอย่างเป็นทางการในศึก WrestleMania ครั้งที่ 36 เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการดวลกับนักมวยปล้ำมากความสามารถของวงการอย่าง ‘เอเจ สไตส์’ ในแมตช์การปล้ำ ‘Boneyard’ หรือการฝังคู่ต่อสู้ลงหลุมฝังศพที่เตรียมไว้ และเป็นการปล้ำนอกสถานที่
ซึ่งท้ายที่สุดเป็น เดอะ เดดแมน ที่เซอร์ไพรส์แฟนมวยปล้ำด้วยการกลับมาในลุคของ ‘American Badass’ สามารถเอาชนะไปได้ พร้อมการขี่รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเคล้าเพลงประกอบอย่าง ‘Now That We’re Dead’ ของวงเมทัลลิกา ปิดโชว์ไปอย่างประทับใจแฟนมวยปล้ำ
อย่างไรก็ตาม ในรายการ ‘Last Ride’ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ พูดถึงแมตช์ดังกล่าว พร้อมนัยสำคัญที่สื่อถึงการอำลาสังเวียนว่า “นั่นคือตอนจบที่สมบูรณ์แบบแล้ว, ตอนนี้ผมเชื่อว่าผมอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่งในแมตช์การปล้ำ Boneyard ซึ่งมันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดในอาชีพของผม
“คุณได้อยู่ที่นี่ แล้วขึ้นไปบนมอเตอร์ไซค์ของคุณแล้วขี่มันออกไป ตอนนั้นมันมีความคิดและอารมณ์อีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการถามกับตัวเองว่า คุณมีความสุขกับสิ่งนั้นหรือไม่
“มันเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลัง คุณไม่จำเป็นต้องได้รับสิ่งเหล่านั้นเสมอไป ถ้าหากคุณมีตอนจบที่สมบูรณ์แบบมากๆ สำหรับเส้นทางอาชีพนี้”
อย่างไรก็ตาม การอำลาสังเวียนครั้งนี้ของดิ อันเดอร์เทเกอร์ ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับแฟนมวยปล้ำว่า ครั้งนี้จะเป็นการเลิกปล้ำแบบจริงจังหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยทำการถอดหมวก ถอดถุงมือ แล้ววางไว้บนเวทีหลังจบแมตช์การปล้ำที่แพ้ให้กับโรมัน เรนส์ ในศึก WrestleMania ครั้งที่ 33 ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้นทำให้หลายคนเข้าใจว่าเจ้าตัวได้เลิกปล้ำไปแล้ว แต่ทว่าดิ อันเดอร์เทเกอร์ก็ยังคืนชีพกลับมาปรากฏตัวขึ้นปล้ำจนถึงปีนี้
“ถ้า วินซ์ แม็กแมน (เจ้าของค่ายมวยปล้ำ WWE) พูดถึงผมอีก แล้วผมจะกลับมาหรือไม่นั้น ผมเดาว่าเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะบอกได้
“แต่ ณ จุดนี้ในอาชีพของผม ผมไม่มีความรู้สึกที่จะกลับมาขึ้นเวทีอีก เมื่อถึงจุดหนึ่งคาวบอยกำลังจะจากไปจริงๆ แล้ว
“มันไม่มีอะไรเหลือให้ผมต้องพิชิตหรือบรรลุเป้าหมายอีกแล้ว วงการนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และถึงเวลาของนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมา นี่คือเวลาที่เหมาะสมของผม”
ทั้งนี้ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ ก้าวเข้าสู่วงการมวยปล้ำตั้งแต่ปี 1984 และปรากฏตัวเข้าสู่สังกัด WWF (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น WWE) ปี 1990 ในฐานะสมาชิกทีมของ เท็ด ดิบิอาซี ในศึก Survivor Series ตั้งแต่นั้นมา เดอะ เดดแมนคือหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ครองใจแฟนมวยปล้ำมากที่สุดคนหนึ่งไม้แพ้เพื่อนร่วมรุ่นในช่วงเวลานั้นอย่างเดอะ ร็อก (ดเวย์น จอห์นสัน), สโตน โคลด์ (สตีฟ ออสติน) และทริปเปิลเอช
ด้วยกิมมิกที่เปี่ยมไปด้วยพลังลึกลับ ชวนน่าติดตาม รวมถึงทักษะการปล้ำที่มักจะทำได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่ออยู่บนเวที ทำให้ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ ประสบความสำเร็จในเส้นทางวงการมวยปล้ำมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 7 สมัย อีกทั้งยังเป็นเจ้าของสถิติไร้พ่ายในศึกที่ยิ่งใหญ่ระดับเมกะของวงการมวยปล้ำอย่าง WrestleMania ด้วยสถิติ 21-0 (ชนะ 21 แพ้ 0) ก่อนที่จะเสียสถิติให้กับอสูรร้ายของวงการคือ บร็อก เลสเนอร์ ใน WrestleMania ครั้งที่ 30 ในปี 2014
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
