×

World Cup Memo Day 29: การพบกันของสองราชา และช่วงเวลาของการตัดสิน

18.12.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MIN READ
  • ฟุตบอลโลกคือรางวัลแห่งชีวิตที่เมสซีเฝ้าฝันถึงมาตลอด เคยใกล้ที่สุดในระดับสายตาที่ได้แค่ชำเลืองมองแล้วจากไป เพราะไม่มีสิทธิ์จะได้ครอบครองมันเมื่อเยอรมนีเป็นผู้ชนะในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014
  • ในวัย 23 ปี เอ็มบัปเปมีโอกาสจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ซึ่งตั้งแต่การแข่งครั้งแรกในปี 1930 มีนักฟุตบอลเพียง 20 คนเท่านั้นที่เคยทำได้

ไม่ใครก็ใคร มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เอื้อมมือไปสัมผัสกับโทรฟี่สีทองใบนั้น

 

หนึ่งคือผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชาลูกหนังของโลกสมัยใหม่ แต่แม้จะพิชิตความสำเร็จมาแล้วมากมายก็ไม่เคยได้สัมผัสกับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกแม้สักครั้ง และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ยังเกิดความสงสัยในคำถามว่า ลิโอเนล เมสซี คือนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหรือยัง

 

อย่าว่าแต่การเปรียบเทียบกับ ‘O Rei’ เปเล ราชาลูกหนังโลกในยุคอดีต และยังคงได้รับการยกย่องในฐานะราชาลูกหนังตลอดกาล จากการเป็นคนแรกและคนเดียวที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 3 สมัย เงาใหญ่ที่เมสซียังก้าวออกมาไม่พ้นคือเงาของ ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดนา เทพเจ้าลูกหนังอาร์เจนไตน์ที่นำทีมเบียงคิเชเลสเต ผงาดคว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ในฟุตบอลโลก 1986 ที่สนามอัซเตกา ประเทศเม็กซิโก

 

ฟุตบอลโลกคือรางวัลแห่งชีวิตที่เมสซีเฝ้าฝันถึงมาตลอด เคยใกล้ที่สุดในระดับสายตาที่ได้แค่ชำเลืองมองแล้วจากไป เพราะไม่มีสิทธิ์จะได้ครอบครองมันเมื่อเยอรมนีเป็นผู้ชนะในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2014

 

ขณะที่อีกคนหนึ่งอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป มีโอกาสได้สัมผัสมันมาแล้วตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อนกับชัยชนะของทัพ ‘เลส์ เบลอส์’ ภายใต้การนำของ ดิดิเยร์ เดชองป์ส อดีตกัปตันทีมผู้ชูโทรฟี่สีทองใบนี้เป็นคนแรกใน ‘Coupe de Monde 98’ บนแผ่นดินเกิดของตัวเอง

 

ในวัย 23 ปี เอ็มบัปเปมีโอกาสจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ซึ่งตั้งแต่การแข่งครั้งแรกในปี 1930 มีนักฟุตบอลเพียง 20 คนเท่านั้นที่เคยทำได้

 

จริงอยู่ที่องค์ประกอบทีมที่แข็งแกร่งของฝรั่งเศสมีส่วนเกื้อหนุน แต่ 9 ประตูในฟุตบอลโลก 2 สมัย และผลงานหลายนัดที่เป็นคนตัดสินผลการแข่งขันให้กับทีมเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาคือของจริง และในฟุตบอลโลกครั้งนี้เราได้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ดาวรุ่งคนหนึ่ง แต่เป็นคนที่สามารถเป็นผู้นำของทีมได้

 

โลกอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาแล้วอย่างไม่เป็นทางการ รอแค่การประกาศตนเท่านั้น

 

ดังนั้นแม้จะมีความพยายามในการบอกว่านัดชิงชนะเลิศนั้นไม่ได้เป็นการพบกันระหว่างเมสซีและเอ็มบัปเป แต่เป็นการพบกันระหว่างอาร์เจนตินาและฝรั่งเศสที่อยากได้แชมป์โลกสมัยที่ 3 ทั้งคู่ แต่ในการพบกันของทั้งสองซึ่งความจริงแล้วเป็นพี่น้องร่วมทีมสโมสรเดียวกันอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง อย่างไรเสียก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากสายตา และหลบซ่อนจากความรู้สึกของผู้คนได้

 

เพียงแต่คนที่จะได้รับกำลังใจมากกว่าหน่อยคือเมสซี ที่ได้รับความเห็นใจในฐานะราชาผู้ไร้มงกุฎ กับโอกาสครั้งสุดท้ายในชีวิตที่มีโอกาสจะกลายเป็นเรื่องราวโรแมนติกในเกมลูกหนังที่สุดเรื่องหนึ่ง

 

ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ไม่ใช่เฉพาะแค่ชาวอาร์เจนตินา หรือชาวบังกลาเทศ ชนชาติเอเชียใต้ที่มีความผูกพันลึกซึ้งทางจิตวิญญาณกับอาร์เจนตินามาตั้งแต่ครั้งที่มาราโดนาพาทีมฟ้าขาวคว้าแชมป์โลกเมื่อ 36 ปีที่แล้วเท่านั้นที่ภาวนา และอธิษฐานเพื่อให้วันนี้เป็นวันของเมสซี

 

คนในโลกลูกหนังอีกมากมายก็อยากเห็นเขาได้สมหวังเสียที หลังมองเห็นความพยายามแม้ในบั้นปลายของชีวิต

 

เมสซีในฟุตบอลโลกครั้งนี้แม้จะไม่สดและห้าวหาญเหมือนมาราโดนาในปี 1986 เพราะวัยของเขาล่วงมาถึงช่วงสุดท้าย ในขณะที่มาราโดนาในฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก เพิ่งอายุ 26 ปี แต่ก็เป็นผู้ที่ประคองและทำทุกอย่างเพื่อพาทีมมาถึงจุดนี้

 

และเมสซีในวันนี้ก็ไม่เหมือนกับตัวเองเมื่อ 8 ปีที่แล้วเช่นกัน เพราะครั้งนั้นเขาดูยังไม่พร้อมสำหรับการแบกรับความหวังแต่เพียงผู้เดียว โดยที่เพื่อนร่วมทีมแทบไม่ช่วยอะไรได้นัก

 

ครั้งนี้เขาอยู่ในฐานะศูนย์กลางเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือมีทีมที่พร้อมต่อสู้และทำทุกอย่างเพื่อเขาและชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งเราเห็นได้จากการเล่นของ โรดริโก เด ปอล, ฮูเลียน อัลวาเรซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ผู้เป็นทายาทของ โคโล แม็ค อัลลิสเตอร์ สหายร่วมคว้าแชมป์ 1986 กับมาราโดนา), เอ็นโซ เฟร์นันเดซ และ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ผู้เป็นดังตัวนำโชคของเมสซี

 

อาร์เจนตินาในเวลานี้จึงอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เหมือนคำขวัญของเหล่าทหารเสือฝรั่งเศสในนิยายอมตะ ‘Les Trois Mousquetaires’ หรือ ‘สามทหารเสือ’ อันโด่งดัง

 

Tous pour un, un pour tous – จากหมู่สู่เหล่า รวมเราเป็นหนึ่ง

 

กระนั้นเอ็มบัปเปและทีมของเขาก็มิใช่คู่ต่อสู้ที่พิชิตได้ง่าย ในทางตรงกันข้ามหากเรานำผังผู้เล่นมาวัดกันตัวต่อตัวแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝรั่งเศสชุดนี้แข็งแกร่งกว่าในแทบทุกจุดของสนาม

 

เลส์ เบลอส์ ไม่ได้มีแค่เอ็มบัปเป แต่ยังมี โอลิวิเยร์ ชิรูด์, อองตวน กรีซมันน์ และ อุสมาน เดมเบเล ซึ่ง 3 ใน 4 คนนี้เมสซีรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเล่นร่วมกันมาในระดับสโมสรไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน

 

โดยเฉพาะกรีซมันน์ ที่ค้นพบตัวเองในร่างใหม่กับบทบาทใหม่ ในฐานะตัวทำเกมจากแดนกลาง เป็นนักเตะที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเขามีความสำคัญต่อฝรั่งเศสมากกว่าเอ็มบัปเป ที่ไม่ได้มีอิทธิพลต่อรูปเกมมากเท่าด้วยซ้ำไป

 

ไหนจะมีเหล่าผู้แข็งแกร่งอย่าง โอเรเลียง ชูอาเมนี, อาเดรียง ราบิโอต์, ราฟาเอล วาราน, อิบราฮิมา โกนาเต ไปจนถึง เตโอ แอร์กน็องเดซ แบ็กซ้ายที่กลายเป็นดาวเด่นอีกคนในฟุตบอลโลกหนนี้

 

ด้วยตัวผู้เล่นและฟอร์มการเล่นแล้วอาจจะดียิ่งกว่าการได้แชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน และไม่ได้ด้อยไปกว่าชุดในตำนานที่มี ซีเนดีน ซีดาน, เธียร์รี อองรี, ปาทริก วิเอรา, โลรองต์ บลองก์, บิเซนเต ลิซาราซู, ลิลิยอง ตูราม หรือ ฟาเบียง บาร์กเตซ เลยด้วยซ้ำไป

 

หลายคนจึงยกให้ฝรั่งเศสเป็นทีมที่เป็นเต็งเหนือกว่าอาร์เจนตินา

 

แต่ฟุตบอลนั้นทุกสิ่งเกิดขึ้นได้เสมอ และไม่ว่าเกมในวันนี้จะจบลงอย่างไรก็ตาม มันจะได้รับการจดจำในฐานะเกมในตำนาน แม้จะไม่ในฐานะนัดชิงชนะเลิศที่มีความโรแมนติกมากที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี

 

การพบกันของสองราชาต่างดินแดน

 

ระหว่างเวทมนตร์ของเมสซี หรือพลังเหนือธรรมชาติของเอ็มบัปเป 

 

มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้ครองบัลลังก์

 


 

บันทึกเพิ่มเติม

 

  • เมสซีจะกลายเป็นนักฟุตบอลที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากนัดที่สุด (26) แซงหน้า โลธาร์ มัทเธอุส
  • เอ็มบัปเป และกรีซมันน์ มีโอกาสจะเป็นนักฟุตบอลคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศได้ 2 สมัย และจะเป็นคนที่ 2 ต่อจาก วาวา (บราซิล 1958 และ 1962) ที่ยิงประตูในนัดชิงชนะเลิศได้ 2 สมัยติดต่อกัน
  • อาร์เจนตินาถือเคล็ดด้วยการให้ เอมี มาร์ติเนซ ซึ่งเคยแถลงข่าวก่อนนัดชิงโคปา อเมริกา และฟินาลิสซิมา (วัดแชมป์ระหว่างทวีปอเมริกาใต้กับยุโรป) แล้วได้แชมป์ทั้งสองครั้งเป็นผู้ออกมาแถลงข่าวก่อนเกมนัดนี้

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising