×

ประธานเป้ยิง 2! ฝรั่งเศสทุบโปแลนด์ 3-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นชาติที่ 3 ในฟุตบอลโลก 2022

โดย THE STANDARD TEAM
05.12.2022
  • LOADING...
ฝรั่งเศสทุบโปแลนด์ 3-1

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามอัลธูมามาสเตเดียม เป็นการพบกันของทีมชาติฝรั่งเศส แชมป์กลุ่ม D ในชุดเสื้อน้ำเงิน พบกับโปแลนด์ รองแชมป์กลุ่ม C เสื้อขาว

 

เกมนี้ฝรั่งเศสมาในระบบ 4-2-3-1 โดยที่ อูโก โญริส เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน มี ชูลส์ กุนเด, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, เตโอ เอร์นานเดซ กลางรับ 2 คน ใช้ โอเรลีแย็ง ชูอาเมนี กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ตัวรุก 3 คน มี อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้าตัวเป้าใช้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์

 

ขณะที่โปแลนด์มาในระบบ 4-1-4-1 โดยที่ วอจเซียค เซสนีย์ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง มี บาร์ตอส เบเรซินสกี, ยาคุบ คีวิออร์, คามิล กลิค และ แมตตี แคช โดยใช้ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียก ยืนหน้าแนวรับ ส่วนกลาง 4 คน มี เปอร์เซมิสลาฟ ฟรานคอฟสกี, เซบาสเตียน ซีแมนสกี, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี และ ยาคุบ คามินสกี โดยที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี เป็นกองหน้าตัวเป้า

 

เริ่มเกมได้ 4 นาที ฝรั่งเศสได้ลุ้นก่อนจากจังหวะเตะมุมของ อองตวน กรีซซ์มันน์ บอลมาถึง ราฟาเอล วาราน ได้โหม่ง แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไป

 

นาทีที่ 10 ฝรั่งเศสได้ลุ้นจากการเปิดบอลของ คีเลียน เอ็มบัปเป บอลข้ามมาถึง อุสมาน เดมเบเล ได้ยิง แต่บอลติดบล็อกออกหลังไป

 

นาทีที่ 12 ฝรั่งเศสได้โอกาสลุ้นต่อเนื่องจาก โอเรลีแย็ง ชูอาเมนี ลองยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่ วอจเซียค เชสนีย์ ปัดบอลออกหลังไปได้

 

นาทีที่ 16 จังหวะลุ้นยังเป็นของ อุสมาน เดมเบเล เลี้ยงบอลตัดเข้ากลางประตู ก่อนได้ลองสับไก แต่บอลยังไปติดเซฟ วอจเซียค เชสนีย์ อีกครั้ง

 

นาทีที่ 21 โปแลนด์มีโอกาสยิงครั้งแรกของเกมจากการยิงไกลของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี แต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

 

นาทีที่ 22 ฝรั่งเศสมาได้โอกาสยิงบ้างจากการยิงไกลของ ชูลส์ กุนเด นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ยังไม่ดีพอจะผ่านมือของ วอจเซียค เชสนีย์ ไปได้

 

นาทีที่ 28 โอกาสยังเป็นของฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง เมื่อ อุสมาน เดมเบเล ผ่านบอลเข้ากลางให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้ชาร์จที่เสาไกล แต่บอลก็ยังออกหลังไป

 

นาทีที่ 33 โปแลนด์ทำเกมขึ้นมาก่อนบอลมาถึง แมตตี แคช กึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าประตู แต่น่าเสียดายที่ไม่มีคนโดนบอล

 

นาทีที่ 35 ฝรั่งเศสทำเกมขึ้นมาก่อนที่ คีเลียน เอ็มบัปเป จะได้ลองยิงนอกกรอบเขตโทษ บอลติดเซฟของ วอจเซียค เชสนีย์ ออกหลังไป

 

นาทีที่ 38 โปแลนด์น่าขึ้นนำอย่างยิ่งเมื่อได้ยิง 3 จังหวะติดๆ โดย 2 จังหวะแรกเป็นโอกาสของ ปิโอเตอร์ ซีลินสกี ได้ยิง แต่ก็ไปติดเซฟ อูโก โญริส กับ ติดบล็อกของ เตโอ เอร์นานเดซ ก่อนที่ ยาคุบ คามินสกี จะได้ซ้ำดาบ 3 บอลก็ยังไปโดน ราฟาเอล วาราน เคลียร์ออกจากปากประตูไปได้

 

นาทีที่ 44 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ รับบอลหลุดเดี่ยวในกรอบเขตโทษจาก คีเลียน เอ็มบัปเป ก่อนยิงผ่านมือ วอจเซียค เชสนีย์ เข้าไปให้ฝรั่งเศสออกนำ 1-0 โดยที่ประตูนี้ยังเป็นประตูที่ 52 ของชิรูด์ในนามทีมชาติ ทำลายสถิติยิงประตูมากที่สุดให้ฝรั่งเศสแซงหน้า เธียร์รี อองรี ด้วย

 

นาทีที่ 45+1 โปแลนด์เกือบได้ประตูตีเสมอจากการยิงของ ยาคุบ คามินสกี ที่ได้ยิงในกรอบเขตโทษ บอลแฉลบหลุดกรอบประตูแบบชนหน้าต่างให้แฟนๆ ได้เสียวกัน

 

นาทีต่อมาจากจังหวะต่อเนื่องในลูกเตะมุม อูโก โญริส มาทำแฟนฝรั่งเศสใจหายทั้งสนามหลังรับบอลพลาด แต่ก็ตามมาตะครุบไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรก ฝรั่งเศสนำก่อน 1-0

 

ครึ่งหลังนาทีที่ 48 อองตวน กรีซมันน์ ได้โอกาสลุ้นจากจังหวะฟรีคิกแบบกึ่งยิงกึ่งผ่าน แต่ วอจเซียค เชสนีย์ ยังชกบอลออกมาได้

 

นาทีที่ 57 ฝรั่งเศสได้โอกาสลุ้นจากการยิงนอกกรอบของ คีเลียน เอ็มบัปเป บอลไปแฉลบ คามิล กลิค เปลี่ยนทางเฉี่ยวเสาออกหลังไป

 

นาทีที่ 58 ฝรั่งเศสส่งเข้าก้นตาข่ายได้อีกครั้งจากการตีลังกายิงของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ แต่มีการจับฟาวล์ไปก่อนหน้านั้น หลัง คีเลียน เอ็มบัปเป ไปหนุน วอจเซียค เชสนีย์ จังหวะพยายามออกมาตัดบอล

 

นาทีที่ 66 ฝรั่งเศสได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ ชูลส์ กุนเด ผ่านบอลเข้าเขตโทษให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยิงด้วยข้างเท้าด้านนอกหน้าปากประตู แต่บอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

 

นาทีที่ 72 โปแลนด์ได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกเมื่อ ปิโอเตอร์ ซีลินสกี เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ คามิล กลิค จะได้โหม่ง แต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไป

 

นาทีที่ 74 ฝรั่งเศสมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะโต้กลับ เมื่อ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ พาบอลมาจากกลางสนามไหลให้ อุสมาน เดมเบเล ทางฝั่งขวา ก่อนผ่านบอลขวางสนามมาให้ คีเลียน เอ็มบัปเป ที่ยืนโล่งๆ ทางฝั่งซ้าย แต่งบอล 1 จังหวะ ก่อนยิงเสยคานทางเสาแรกเข้าไป โดยนี่เป็นประตูที่ 8 ของเอ็มบัปเป ทำลายสถิตินักเตะอายุไม่ถึง 24 ปีที่ทำประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของเปเลลงไปได้ด้วย

 

นาทีที่ 81 ฝรั่งเศสได้โอกาสจบสกอร์อีกครั้งจากการเติมเกมขึ้นมาของ เตโอ เอร์นานเดซ ก่อนได้พลิกตัวยิง แต่บอลก็เหินข้ามคานออกหลังไป

 

นาทีที่ 90+1 ฝรั่งเศสมาได้ประตูย้ำชัยจากจังหวะที่ มาร์คัส ตูราม จ่ายบอลให้ คีเลียน เอ็มบัปเป ยิงเข้าไปอย่างสุดสวย ทำให้ฝรั่งเศสทิ้งห่าง 3-0

 

นาทีที่ 90+6 โปแลนด์มาได้ลูกที่จุดโทษจากจังหวะที่ เดเมียน ซีแมนสกี เปิดบอลไปโดนแขน ดาโยต์ อูปาเมกาโน ในจังหวะแรก ผู้ตัดสินให้เล่นต่อ แต่มีสัญญาณจากห้อง VAR ทำให้ผู้ตัดสินต้องไปดูภาพช้า ก่อนที่จะยืนยันเป็นจุดโทษ จังหวะแรก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยิงไปติดเซฟ อูโก โญริส แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่เนื่องจากโญริสออกมานอกเส้นประตู โดยเมื่อยิงใหม่ก็ยิงเข้าไปไม่พลาด ทำให้โปแลนด์ไล่มา 1-3

 

หลังจากนั้นผู้ตัดสินเป่าจบเกมทันที ทำให้ฝรั่งเศสเอาชนะโปแลนด์ 3-1 เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไปเป็นชาติที่ 3 ได้สำเร็จ

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising