ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนามอัลบัยต์สเตเดียม เป็นการพบกันของทีมชาติอังกฤษ แชมป์กลุ่ม B ในชุดเสื้อเสื้อขาว พบกับเซเนกัล รองแชมป์กลุ่ม A เสื้อเขียว
เกมนี้อังกฤษมาในระบบ 4-3-3 โดย จอร์แดน พิกฟอร์ด เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน เป็น ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี แม็กไกวร์ และ ลุค ชอว์ กองกลาง 3 คน มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดีแคลน ไรซ์, จูด เบลลิงแฮม หน้า 3 ประสานเป็น บูกาโย ซากา, ฟิล โฟเดน และ แฮร์รี เคน
ขณะที่เซเนกัลมาในระบบ 4-2-3-1 โดยมี เอดูอาร์ เมนดี เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คน มี ยุสซุฟ ซาบาลี, คาลิดู คูลิบาลี, อับดู ดิยัลโล, อิสมาอิล จาค็อบส์ กลางรับ 2 คน เป็น ปาเต ซิสส์, น็อมปาลิส เมนดี กลางรุก 3 คน ใช้ อิลิมาน เอนดิอาย, เครแปง ดิอัตตา, อิสไมลา ซาร์ โดยใช้ บูลาย ดิยา เป็นกองหน้าตัวเป้า
ในช่วงแรกทั้งสองทีมไม่ค่อยมีลุ้นมากนัก จนนาทีที่ 23 เซเนกัลเกือบมาได้ประตูขึ้นนำจากการผ่านเข้ากลางของ เครแปง ดีอัตตา ไปเข้าทาง บูลาย ดิยา ได้ยิง บอลไปติด จอห์น สโตนส์ เข้าทาง อิสไมลา ซาร์ ซ้ำจ่อๆ ต่อบอลออกหลังไป โดยหลังจากจบจังหวะดังกล่าวมีการเช็ก VAR จังหวะแฮนด์บอลของ จอห์น สโตนส์ ที่บล็อกบอลในจังหวะแรกด้วย แต่ผลปรากฏว่า เป็น Ball-to-Hand ทำให้ไม่เป็นจุดโทษ
นาทีที่ 32 เป็นโอกาสทองของเซเนกัลอีกครั้ง หลัง อิสไมลา ซาร์ แทงบอลให้ บูลาย ดิยา หลุดไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนได้ยิงหน้ากรอบ 6 หลา แต่บอลยังไปติดเซฟ จอร์แดน พิกฟอร์ด ที่ใช้ท่อนแขนเซฟไว้ได้
นาทีที่ 39 กลายเป็นอังกฤษขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ จูด เบลลิงแฮม พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนหักเข้ากลางให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงผ่านเซฟของ เอดูอาร์ เมนดี เข้าไป
นาทีที่ 41 อังกฤษเกือบมาได้ประตูที่ 2 เมื่อ บูกาโย ชากา ขึ้นมาทางขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนหักให้ แฮร์รี เคน ได้จบบริเวณกลางประตู แต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
ท้ายครึ่งแรกนาที 45+3 อังกฤษหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะโต้กลับ เมื่อ จูด เบลลิงแฮม จ่ายบอลให้ ฟิล โฟเดน ทางซ้าย ก่อนที่โฟเดนจะจ่ายข้ามฟากให้ แฮร์รี เคน หลุดไปยิงในเขตโทษ บอลผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี เข้าไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาทีที่ 50 เซเนกัลได้ลุ้นก่อน เมื่อ คาลิดู คูลิบาลี ขึ้นเกมมาทางฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้าใน บอลผ่านไปหน้าเขตโทษถึง ปาเป ซาร์ ได้ลองยิง แต่บอลหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 54 เป็นโอกาสของอังกฤษบ้าง เมื่อ แฮร์รี เคน ไหลบอลให้ บูกาโย ซากา พาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนลองยิง แต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 56 อังกฤษได้ลุ้นอีกครั้งจากการยิงไกลของ แฮร์รี เคน บอลตรงตัว เอดูอาร์ เมนดี พยายามตะปบบอล แต่บอลกระฉอก ทว่าก็ไม่มีนักเตะอังกฤษตามมาซ้ำ ทำให้เมนดีตามไปเก็บบอลได้ทัน
อย่างไรก็ตาม ในนาทีต่อมาอังกฤษมาได้ประตูที่ 3 เมื่อ ฟิล โฟเดน พาบอลขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนผ่านบอลเข้ากลางให้ บูกาโย ซากา ตวัดบอลผ่านตัว เอดูอาร์ เมนดี เข้าไปให้สิงโตคำรามทิ้งห่าง 3-0
นาทีที่ 73 เซเนกัลมาได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษของ ปาเป ซาร์ บอลโค้งอ้อมกำแพง แต่ก็ได้แค่เข้าข้างหน้าต่างเท่านั้น
นาทีที่ 84 อิสมาอิล จาค็อบส์ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ อิสไมลา ซาร์ จะได้โหม่ง แต่บอลก็ข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 90 เซเนกัลมาได้ลุ้นอีกครั้งจากการขึ้นเกมทางฝั่งขวา ก่อนที่บอลจะมาหน้ากรอบเขตโทษถึง ปาเป ซาร์ ได้ยิง แต่บอลก็เหินข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 90+1 อังกฤษได้ลุ้นประตูที่ 4 เมื่อ ลุค ชอว์ ขึ้นเกมมาทางกราบซ้าย ก่อนเปิดบอลไปถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ยิง แต่บอลก็เข้าข้างตาข่ายเท่านั้น
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมอังกฤษถล่มเอาชนะเซเนกัล 3-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับฝรั่งเศสต่อไป