วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ในวันพรุ่งนี้ (3 กุมภาพันธ์) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคก้าวไกล จะยื่นลาออกจากการเป็น ส.ส. ซึ่งได้เตรียมตัวไว้ก่อนที่จะเปิดตัว เพื่อที่จะไปทำงานในฐานะว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคอย่างเต็มที่ โดยเห็นว่าไม่ควรมีสถานะด้านหนึ่งยังคงรับเงินเดือนจาก ส.ส. โดยการเดินหน้าหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคก้าวไกลนั้น ขณะนี้วิโรจน์และทีมทยอยหาเสียงและเปิดนโยบายหาเสียงทีละเรื่องอย่างต่อเนื่องจนครบทุกด้าน
ชัยธวัชกล่าวว่า สำหรับผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับพรรคก้าวไกล และที่ร่วมกันแสดงออกถึงแรงสนับสนุนที่มีต่อพรรค ซึ่งจะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลได้รับคะแนนทุกหน่วยการเลือกตั้ง แม้จะได้รับเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 2 แต่ก็เป็นคะแนนที่น่าพึงพอใจ ที่จะส่งผลให้พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ได้
ชัยธวัชกล่าวอีกด้วยว่า สำหรับสิ่งที่จะสามารถเอาชนะใจประชาชน กทม. ได้นั้นมีอยู่ 2 เรื่อง คือ
- ตัวผู้ว่าฯ กทม. จะต้องมีวิธีคิดและวิธีการทำงานที่ตรงใจกับคน กทม. ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อมั่นว่าวิโรจน์และทีมงานจะได้รับความไว้วางใจ
- แนวนโยบายที่จะนำเสนอกับประชาชนก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่พรรคก้าวไกลได้วางไว้หมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถปรับกระแสและคะแนนเสียงให้ตีตื้น ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้อย่างไร ชัยธวัชมองว่าช่วงเวลากว่า 3 เดือนที่เหลืออยู่ก่อนการเลือกตั้งเป็นช่วงเวลาที่จะต้องทำงานหนักในการนำเสนอให้ประชาชนสามารถสัมผัสต่อนโยบายของพรรคก้าวไกลได้โดยตรง ซึ่งรวมถึงวิธีการทำงานและวิธีคิด ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลเริ่มต้นทั้งการเปิดตัวและหาเสียงช้ากว่าผู้อื่น แต่เชื่อว่าผู้ลงคะแนนเสียงใน กทม. นั้นมีความคิดความชอบต่างกันหลายแบบ แต่เชื่อว่าวิโรจน์จะสามารถเข้าถึงประชาชนได้มากที่สุดในช่วง 3 เดือนนี้
