วันนี้ (13 มกราคม) หน่วยงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในภูมิภาคต่างๆ ของโลกยืนยัน พบผู้ป่วยโควิด-19 กลายพันธ์ุแบบที่ตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร B.1.1.7 หรือ VOC 202012/01 อย่างน้อยใน 50 ประเทศทั่วโลกแล้วขณะนี้ รวมถึงฮ่องกงและไต้หวัน โดยผู้เชี่ยวชาญเผย มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อกลายพันธ์ุมีอาการรุนแรงขึ้น หรือมีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นแต่อย่างใด
ขณะที่อีกสายพันธ์ุที่กำลังระบาดอย่างหนักเช่นเดียวกันคือ โควิด-19 กลายพันธุ์ B.1.351 หรือ 20C/N501Y.V2 ที่ตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และแพร่ระบาดอยู่ในอย่างน้อย 20 ประเทศทั่วโลก โดยหลายประเทศจึงยกระดับมาตรการรับมือโควิด-19 อีกครั้ง พร้อมเริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว
โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในขณะนี้ถึง 22,825,766 ราย ตามมาด้วย อินเดีย 10,479,179 ราย บราซิล 8,195,637 ราย รัสเซีย 3,412,390 ราย และสหราชอาณาจักร 3,173,274 ราย ติดเชื้อสะสม 91,527,619 รายทั่วโลก รักษาหาย 65,806,194 ราย หรือคิดเป็นราว 72% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 1,959,485 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 2.2%
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- ดู ‘1 ปี ภาพรวมประชาคมโลก หลังวิกฤตโควิด-19 ระบาด’
- ชมคลิป: ‘1 ปีหลังโควิด-19 ระบาด อู่ฮั่นเป็นอย่างไร’
- ดู ‘ความคืบหน้าวัคซีนต้านโควิด-19 และประเทศที่อนุมัติการฉีดวัคซีนแล้ว’
- ดู ‘โควิด-19 กลายพันธ์ุ กับประเทศที่ตรวจพบ’
- ดู ‘สำรวจประเทศ ‘ล็อกดาวน์’ รับมือโควิด-19 ระลอกล่าสุด’
- ดู ‘แต่ละประเทศฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชนไปเท่าไรแล้ว’
- ดู ‘8 ประเทศสุดท้ายที่ยังไม่พบผู้ติดโควิด-19 รายแรกอย่างเป็นทางการ’
ภาพ: Tolga Akmen / AFP
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: