อเลฮานโดร คราวิโอโต ประธานกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกัน (SAGE) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุระหว่างการแถลงข่าวทางออนไลน์ว่าผู้ที่รับการฉีดวัคซีนของ Pfizer และ BioNTech นั้นควรได้รับวัคซีน 2 โดสในระยะเวลาห่างกัน 21-28 วัน
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม SAGE ก็มีแนวทางสำหรับประเทศที่อยู่ในสถานการณ์พิเศษที่มีข้อจำกัดในการจัดหาวัคซีนของ Pfizer โดยสามารถเว้นระยะห่างระหว่างโดสเพิ่มขึ้นได้เป็น 6 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนโดสแรกให้ได้มากที่สุด
“ผมคิดว่าเราต้องเปิดกว้างอยู่บ้างสำหรับการตัดสินใจประเภทนี้ ซึ่งประเทศต่างๆ ต้องทำตามสถานการณ์ทางระบาดวิทยาของพวกเขาเอง” คราวิโอโตระบุ
ส่วน โยอาคิม ฮอมบาค ผู้บริหารของ SAGE ระบุว่าการเว้นระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีน 2 โดสเป็นสิ่งยอมรับได้สำหรับประเทศที่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำหลักได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่คณะที่ปรึกษาของรัฐบาลสหราชอาณาจักรมีการยืดหยุ่นให้ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 หลังโดสแรกได้ถึง 12 สัปดาห์ ซึ่งเป็นผลจากการพิจารณาสถานการณ์ภายในประเทศนั้น ฮอมบาคระบุว่ายังมีข้อมูลเชิงประจักษ์น้อยมากที่สนับสนุนคำแนะนำแบบนี้
“เรารับทราบว่าหลายประเทศอาจเห็นความจำเป็นที่จะต้องยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของการบริหารวัคซีนโดสที่ 2 แต่มันสำคัญที่จะสังเกตว่ายังมีข้อมูลเชิงประจักษ์จากการทดลองอยู่น้อยมากที่สนับสนุนคำแนะนำประเภทนี้” ฮอมบาคกล่าว
คราวิโอโตยังระบุด้วยว่า SAGE ไม่แนะนำให้จัดลำดับความสำคัญในการให้วัคซีน Pfizer กับบรรดานักเดินทางระหว่างประเทศก่อน เนื่องจากปริมาณการผลิตที่จำกัดในขณะนี้ ยกเว้นในกรณีที่เป็นนักเดินทางในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว
ด้าน เคท โอ-ไบรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก ระบุว่ามีการอภิปรายอย่างจริงจังในกลุ่ม SAGE เกี่ยวกับการต้องเลือกระหว่างการปฏิบัติตามมาตรฐานการให้วัคซีนตามที่มีการทดลองทางคลินิกอย่างเคร่งครัด หรือการยอมให้มีการใช้งานวัคซีนในโดสแรกอย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการที่บางคนจะได้รับวัคซีนโดสที่ 2 ล่าช้าออกไป
เธอยังกล่าวถึงความล่าช้าในกระบวนการฉีดวัคซีน โดยบอกว่าไม่มีใครคาดว่าสิ่งนี้จะง่าย “แต่เราก็เริ่มเห็นว่าอุปสรรคอยู่ที่ไหน และจุดไหนที่ต้องปรับบ้าง” เธอระบุ
นอกจากนี้ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่าเขาผิดหวังอย่างยิ่งที่ทางการจีนยังไม่อนุมัติในขั้นสุดท้ายเพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าประเทศเพื่อไปสืบสวนต้นตอของการระบาดของโควิด-19 แม้ว่าสมาชิกของทีมที่เข้าไปทำภารกิจดังกล่าวจำนวน 2 คนได้เริ่มออกเดินทางแล้วก็ตาม
กีบรีเยซุสระบุว่าเขาได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการจีนแล้วเพื่อสร้างความชัดเจนว่าภารกิจนี้มีความสำคัญสำหรับองค์การอนามัยโลกและทีมสืบสวนนานาชาติ และเขาได้รับคำยืนยันว่าจีนจะเร่งกระบวนการภายในให้เร็วที่สุดเพื่อให้มีการนำทีมเข้าไปในจีน โดยสำนักข่าว AFP รายงานว่าทางการจีนยังไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
