สุดท้ายแล้วคำถามที่ว่า การทำงานจากที่บ้านแบบ ‘Work from Home’ หรือ Remote Working ที่ไม่ต้องเดินทางเข้ามาออฟฟิศภายใต้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลดีมากน้อยแค่ไหนกับตัวงาน หรือทำให้คนทำงานเกิด ‘โปรดักทีฟ’ ได้จริงหรือเปล่า ก็ยังคงเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายยังคงหยิบยกมาถกเถียงกันต่อไป
เพราะแม้จะมีเวลาได้อยู่บ้านมากขึ้น แต่การต้องติดอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมเป็นเวลานานๆ หรือการต้องเข้าประชุมทางไกลผ่านแพลตฟอร์ม Video Conference ต่างๆ ก็ดูจะกลายเป็นสิ่งที่สูบพลังในการทำงานอยู่พอสมควร
เมื่อเร็วๆ นี้ THE STANDARD มีโอกาสได้เข้าร่วมเซกชันการสัมภาษณ์ทางไกลร่วมกับ อลิซาเบธ ลอว์ส ฟูลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและองค์กร WeWork เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สตาร์ทอัพผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ทำงาน ในประเด็นการ Work from Home ซึ่งในมุมมองส่วนตัวของผู้บริหารหญิงรายนี้เชื่อว่า แม้การทำงานจากที่บ้านเป็นทางออกของปัญหาในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก แต่ขณะเดียวกันเธอก็เชื่อเช่นกันว่า วัฒนธรรม WFH จะไม่ใช่โซลูชันการทำงาน ‘ที่ยั่งยืน’ ในระยะยาว
สาเหตุที่อลิซาเบธบอกแบบนั้นก็เพราะเธอเชื่อว่า การทำงานร่วมกันแบบออฟไลน์ Face-to-face เจอตัวกันแบบเป็นๆ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ผลักดัน สร้างสรรค์นวัตกรรมของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะช่วยให้คนในองค์กรมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน สามารถแชร์ไอเดีย ความคิดเห็นต่างๆ ได้ดี
และถึงแม้การทำงานที่บ้านดูเหมือนจะช่วยให้เรามี ‘เวลา’ เหลือมากพอในการจัดการสิ่งต่างๆ รอบตัว แต่สำหรับองค์กรที่มีขนาดใหญ่ มีจำนวนพนักงานเยอะ บางครั้งการ WFH อาจจะทำให้วิธีการปฏิบัติงานของพวกเขาไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในแง่การดำเนินการต่างๆ ซึ่งจะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ
“สำหรับ WeWork เราเชื่อว่า WFH จะไม่ใช่โซลูชันที่ยั่งยืนในระยะยาว เพราะนวัตกรรม ความสร้างสรรค์ และความแข็งแกร่งขององค์กรล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันในที่ทำงาน (ออฟไลน์) ซึ่งหากขาดซึ่งสิ่งเหล่านี้ไปก็จะส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานของตัวธุรกิจ การมีส่วนรวมของพนักงาน และความแข็งแกร่งขององค์กรในระยะยาวได้”
สำหรับทางออกที่เอลิซาเบธในฐานะหัวเรือใหญ่ของ WeWork เชื่อว่าจะกลายเป็นวิธีที่ตอบโจทย์การทำงานที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในโลกยุคหลังโควิด-19 คือการนำเสนอแนวคิดแบบ ‘Hybrid Workspace’ ที่เปิดรับให้องค์กรหรือบุคลากรในทีมสามารถเข้ามาทำงานในที่ทำงานได้เมื่อไรก็ได้ตามที่ต้องการ (ไม่ฟิกซ์ตายตัวว่าต้องทำงานที่บ้านถาวร หรือทำงานที่ออฟฟิศอย่างเดียวเท่านั้น)
“เราพบว่าบริษัทหลายๆ แห่งทั่วโลกกำลังจะพาตัวเองเคลื่อนมาสู่วัฒนธรรมที่มีความเป็นไฮบริดในเชิงสถานที่ทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะในไทยที่มีบริษัทจำนวนมากสอบถามเข้ามายังเราถึงความเป็นไปได้ในการออกแบบโมเดลสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ที่จะตอบโจทย์ และมีความเหมาะสมกับพนักงานของพวกเขาที่ต้องการความหยืดหยุ่น ทั้งยังรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัทนั้นๆ” อลิซาเบธบอกเรา
จากผลการสำรวจของ WeWork ในปี 2020 พบว่า 90% ของกลุ่มตัวอย่างพนักงานที่ทำแบบสอบถามระบุว่า พวกเขาอยากกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศของตัวเองอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งในจำนวนนี้ 20% ระบุว่า เขาอยากกลับเข้ามาที่ออฟฟิศ สำนักงานของตัวเองทุกวัน
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างยังบอกอีกด้วยว่า ตั้งแต่ต้อง WFH ประสิทธิภาพในการต้องระดมความคิด Brainstorm ของพวกเขา ก็ลดลงเฉลี่ยราว 11% ส่วนพนักงานที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมเป็นส่วนใหญ่ มีอัตราการลดลงของการระดมความคิด ประชุมร่วมกันมากกว่าที่ราว 13-15% เลยทีเดียว
เมื่อเร็วๆ นี้ ในงานเสวนาเวที World Economic Forum เจส สตาเลย์ (Jes Staley) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Barclays และแมรี เออร์โดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร J.P. Morgan Asset & Wealth Management ก็สะท้อนความเห็นในทิศทางเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่เชื่อว่า การทำงานที่บ้านในสถานการณ์โควิด-19 เป็นวิธีการที่ดี แต่แน่นอนว่ามันจะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เนื่องจาก WFH จำเป็นจะต้องอาศัยพลัง และแรงใจที่ค่อนข้างมากเป็นพิเศษ แถมเราก็ยังไม่ได้รับแรงขับเคลื่อนจากการพบเจอผู้คนรอบๆ ตัวอีกด้วย
ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว สตาเลย์เชื่อไม่ต่างจาก WeWork ว่า วิธีการที่ดีที่สุดคือการทำงานแบบ Flexible ที่พนักงานสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองว่า จะเดินทางเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศหรือทำงานอยู่ที่บ้าน
สำหรับ WeWork เตรียมจะเปิดตัวแพ็กเกจใหม่ในการให้บริการเช่าพื้นที่ทำงานในประเทศไทยด้วยกัน 2 โมเดล คือ
1. WeWork All Access – ให้บริการสมาชิกให้สามารถเข้าถึงที่ทำงานของ WeWork ได้ทุกที่ทั่วโลกแบบไม่จำกัด (แต่ต้องจองล่วงหน้าก่อน)
2. WeWork On Demand – ให้บริการสำหรับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก WeWork ด้วยออปชันการเลือกใช้บริการแบบรายชั่วโมงหรือรายวัน
ปัจจุบัน WeWork ให้บริการในประเทศไทยใน 4 สาขา ประกอบด้วย Spring Tower, T1 Building, The Parq และ Asia Centre
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
