ไม่เพียงแต่อาหารการกินของมนุษย์เท่านั้น ที่ส่งผลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะจากการวิจัยใหม่ล่าสุดได้ศึกษาอาหารสุนัขและแมวตามประเภทอาหารเปียกและแห้ง ว่าชนิดไหนส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ากัน
โดยการศึกษาได้ดูจากคุณค่าทางโภชนาการ และลักษณะสิ่งแวดล้อมของอาหารประเภทต่างๆ ผ่านการสำรวจทั้งหมด 938 รายการ แบ่งเป็นสำหรับสุนัข 618 รายการ และแมว 320 รายการ มีทั้งอาหารเปียก อาหารแห้ง และอาหารทำเอง เพื่อประเมินคุณค่าสารอาหารหลัก และคุณค่าที่เป็นแหล่งพลังงาน
การศึกษานี้ได้ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมประจำปีของประเภทอาหารสัตว์ รวมถึงการปล่อยมลพิษ การใช้น้ำ และที่ดิน
จากการศึกษาพบว่า โดยภาพรวมแล้วอาหารสัตว์ประเภท ‘แห้ง’ จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าอาหารเปียก นอกจากนี้อาหารแห้งยังให้พลังงานมากที่สุดต่อกรัม แต่นี่ไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดว่าอาหารแห้งจะให้สารอาหารที่มากกว่า ในขณะที่อาหารเปียกจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่ข้อดีของมันคือ มีโปรตีนในระดับที่สูงกว่า
การวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า อาหารวีแกนสำหรับสุนัขอาจเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นอันตรายน้อยที่สุดหากจัดเก็บอย่างถูกต้อง อีกหนึ่งทางเลือกคือการเลือกอาหารแห้งที่ให้คุณค่าทางโภชนาการแก่สัตว์เลี้ยง
แต่แน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างมีความต้องการทางโภชนาการที่ต่างกันไป ซึ่งสำหรับสัตว์ที่มีอาหารยืดหยุ่น การเปลี่ยนอาหารเปียกเป็นอาหารแห้งอาจเป็นวิธีง่ายๆ ในการใส่ใจสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้การศึกษาในครั้งนี้อาจเป็นแรงจูงใจให้กับเหล่าผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ในการพยายามสร้างโซลูชันที่ยั่งยืนมากขึ้น สำหรับการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง โดยการหาแหล่งโปรตีนทางเลือกมากขึ้น
อ้างอิง: