เว็บไซต์ข่าวสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า Berkshire Hathaway บริษัทด้านการลงทุนชั้นนำสัญชาติอเมริกัน ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ออกรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 กรกฎาคม) ระบุว่า ทางบริษัทตัดสินใจขายหุ้นจำนวน 33.9 ล้านหุ้นของ Bank of America โดยคิดเป็นมูลค่า 1,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับเป็นการขายหุ้น Bank of America ของ Berkshire Hathaway ครั้งแรกในรอบ 4 ปีครึ่ง และเป็นช่วงเวลาที่ภาคธนาคารมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง
รายงานระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2019 ที่ Berkshire Hathaway ในโอมาฮา เนบราสกา ลดสัดส่วนการถือหุ้นลง ถึงกระนั้น Bank of America ยังคงเป็นหุ้นที่มีสัดส่วนใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Berkshire ที่ 10.8% รองจาก Apple โดยถือหุ้นอยู่ที่ 999 ล้านหุ้น ซึ่งมีมูลค่าตลาดเกือบ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ในปี 2019 บัฟเฟตต์ตัดสินใจลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน Bank of America เพื่อแลกกับหุ้นบุริมสิทธิและสิทธิ์ในการซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงถึงความมั่นใจในธนาคารหลังวิกฤตการเงินปี 2008 โดยการอัดฉีดเงินสดนี้ช่วยขจัดความกังขาว่าธนาคารดังกล่าวมีเงินทุนเพียงพอหรือไม่ และราคาหุ้นของ Bank of America พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ Berkshire มีกำไรจากการถือครองหุ้นนี้อย่างมาก ซึ่งบัฟเฟตต์ใช้สิทธิ์เหล่านั้น รวมถึงซื้อหุ้นเพิ่มเติมเพื่อผลักดันให้ Bank of America กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในพอร์ตของ Berkshire Hathaway
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการลงทุนระยะยาว บัฟเฟตต์ยังแสดงความมั่นใจในการบริหารงานของ Brian Moynihan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bank of America คนปัจจุบัน
หลายฝ่ายมองว่า Berkshire ยังมีโอกาสทำกำไรได้บางส่วน เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หุ้นของ Bank of America เพิ่มขึ้น 27.4% ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022
นอกจากปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของ Bank of America แล้ว Berkshire ยังปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของ Apple ลง 13% ด้วยเหตุผลด้านภาษีเป็นหลัก
อ้างอิง: