×

วราวุธ ศิลปอาชา ยามต้องถือธงนำ ชาติไทยพัฒนา กับวันเวลาที่ต้องพิสูจน์ตัวตน

23.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • ตั้งแต่เล็กจนโต วราวุธมองเห็นสถานการณ์การเมืองว่า ความไม่แน่นอนคือความแน่นอนที่สุด การตัดสินใจทางการเมืองต้องเข้าใจว่ากระแสสังคมเป็นอย่างไร แต่บางครั้งไม่สามารถใช้กระแสสังคมได้
  • ที่ผ่านมาสังคมเคยเรียกร้องให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลตอนเกิดวิกฤตการเมือง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะร่วมจมไปกับพรรครัฐบาล ดังนั้นคำว่า ปลาไหล เป็นเพียงวาทกรรมสาดกันไปสาดกันมาเท่านั้น
  • การถูกเรียกว่า ลูกท็อป ลูกบรรหาร คือสิ่งที่ตนภูมิใจ เป็นตำแหน่งที่ไม่มีใครแต่งตั้ง ไม่มีใครปลดออกได้ เพราะเงาของนายบรรหารที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ใหญ่ที่สุดแล้วในทางการเมือง ไม่มีทางที่ตนจะมีเงาใหญ่กว่านี้ได้

อาจเรียกว่าเขาเป็นนักการเมืองรุ่นกลางเก่ากลางใหม่ เพราะผ่านสนามการเลือกตั้ง ส.ส. มาแล้ว 3 สมัย สำหรับ ท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา

 

ถ้าไม่พูดถึงเรื่องการเมือง เขาเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่กับลูกกับครอบครัว ทายาททั้งสามที่เขาปั้น ซึ่งเขาบอกว่าอนาคตคือคนที่จะสานงานต่อเพื่อทำประโยชน์ให้กับแผ่นดินไทย เหมือนที่เขาเคยได้เรียนรู้จากพ่อ ผ่านความรู้ที่เขาร่ำเรียนมาจากอังกฤษและอเมริกา เพื่อที่ประเทศไทยในอีก 20-30 ปีจากนี้ เด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาจะได้มีสังคมที่ดีกว่าวันนี้

 

กีฬาคือสิ่งที่เขาชอบ เพราะท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง นอกจากการปั่นจักรยานแล้ว สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี คืออีกหนึ่งความท้าทายที่วราวุธจับ เมื่อถามว่าบอลไทยจะไปบอลโลกเมื่อไร วราวุธตอบเราว่า การปั้นเด็กรุ่นใหม่ต้องใช้เวลาอีก 10 ปี  ดังนั้นประมาณ 20 กว่าปีน่าจะได้เห็น แต่ในปัจจุบันไปไม่ถึงบอลโลกแน่ เด็กโตขึ้นมาการจะเป็นนักกีฬาที่พร้อมทั้งกายและใจ 3-4 ขวบต้องกินนม ต้องนอนให้พอ กินอาหารถูกต้อง แนวคิดถูก พ่อแม่สนับสนุน ดังนั้นเจเนอเรชันปัจจุบันใช้ไม่ได้ ต้องเป็นเจเนอเรชันใหม่

 

ส่วนลูกสาวเป็นนักกีฬาสเกตน้ำแข็งทีมชาติ เขาเชื่อว่ากีฬาสอนชีวิตให้กับเด็กๆ ให้รู้ถึงการผิดหวังหลังจากพยายามฝึกซ้อมเต็มที่ การเจออุปสรรคทำให้เรียนรู้ที่จะแก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว

ดังนั้นนิยามของปลาไหลคืออะไร บางครั้งผมก็ยังตอบไม่ได้ เป็นการพูดเอาสะใจ สาดกันไปสาดกันมา

 

ทุกวันนี้ได้ใช้เวลากับครอบครัวและกีฬามากมายที่ทำ ถ้าสมมติว่า คสช. ปลดล็อก ก้าวต่อไปของ ท็อป วราวุธ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาคืออะไร เพราะคุณก็มีโอกาสขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค

แล้วแต่ที่ประชุมพรรค ผมพูดอยู่เสมอว่า พรรคชาติไทยพัฒนาต่อยอดจากพรรคชาติไทยที่โดนยุบ นายบรรหารก่อสร้างพรรคชาติไทยขึ้นมา จนถึงวันนี้ผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรคชาติไทยพัฒนา บ้านหลังนี้พ่อผมสร้างขึ้นมา ดังนั้นจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือเป็นลูกพรรค บ้านหลังนี้ก็คือบ้านของผม จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ผมได้ทำงานให้กับบ้านหลังนี้ พอใจแล้ว ผมต้องการเห็นบ้านหลังนี้แข็งแรง เป็นสถาบันทางการเมือง เป็นที่พึ่งของคนได้

 

คำถามจากทางบ้านถามว่า ‘คุณท็อปสนับสนุนนายกคนนอกหรือไม่’

เรื่องคนนอกคนในมาวันนี้ไม่อยากจะพูด ถ้าย้อนหลังกลับไป 5-6 ปีที่แล้ว กระแสสังคมก็เรียกร้องนายกคนนอก นายก ม.7 ขอพระราชทานลงมา วันนั้นต้องการนายกคนนอก วันนี้บอกว่าต้องการนายกคนใน ย้อนกลับไปอีกหลายปี สมัยท่านอานันท์ ปันยารชุน สมัยท่านสมบุญ ระหงษ์ ตอนนั้นก็จะเอาคนนอก เดี๋ยวนอกเดี๋ยวใน อย่างวันนี้ผมบอกสนับสนุนนายกคนใน เดี๋ยววันหนึ่งกระแสสังคมเปลี่ยน ไม่เอานายกคนใน จะเอานายกคนนอกอีก แปลว่าจุดยืนผม แนวคิดผมต้องเปลี่ยนไปตามกระแสสังคมหรือเปล่า วันนี้สังคมบอกว่าต้องการนายกจากการเลือกตั้ง แต่ 5 ปีที่แล้วบอกต้องการนายกพระราชทาน อะไรคือสิ่งที่การันตีกับผมว่าอีก 6 ปี 10 ปีจากนี้จะไม่กลับมาอีก ฉะนั้นการเมืองไทย คนที่ไม่ได้อยู่ในการเมืองจะไม่รู้หรอกว่าถึงเวลาจริงๆ ที่จะต้องตั้งรัฐบาลหรือทำงานขึ้นมาจริงๆ มันมีความละเอียดอ่อนมากมาย วันนี้มาบอกว่าจะเอาในเอานอก พอถึงเวลาคนที่บอกจะเอาคนใน พอถึงเวลาอาจไปโหวตเอาคนนอกก็ได้ ฉะนั้นสถานการณ์การเมืองตั้งแต่เล็กจนโตที่ผมเห็นมาถึงทุกวันนี้คือ ความไม่แน่นอน คือความแน่นอนที่สุด การตัดสินใจทางการเมืองต้องเข้าใจว่ากระแสสังคมเป็นอย่างไร แต่บางครั้งไม่สามารถใช้กระแสสังคมได้

เงาของคนชื่อบรรหาร ศิลปอาชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ใหญ่จนที่ว่าใครที่จะมาทำให้เงาใหญ่กว่านั้น คือผมต้องใหญ่กว่านายบรรหารคนถึงจะเลิกเรียกว่าลูกท็อป ทีนี้นายบรรหารเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว มันจะมีอะไรใหญ่กว่านายกรัฐมนตรีอีก

 

แล้วถ้ามีสารเทียบเชิญคุณไปเป็นที่ปรึกษาบ้าง คุณจะว่าอย่างไร

ไม่ไปหรอกครับ นาทีนี้ยังมีภารกิจที่ผมต้องทำหลายอย่าง

 

จะสานต่องานของคุณพ่ออย่างไร เพราะคุณพูดอยู่เสมอว่าจะไม่ยอมมาเจ๊งที่รุ่นลูก

ผมตั้งปณิธานไว้เลย เพราะท่านบรรหาร ศิลปอาชา ตลอดชั่วชีวิตของท่านทุ่มเทให้กับสิ่งที่ท่านรัก หวงแหนที่สุดคือจังหวัดสุพรรณบุรี สิ่งต่อมาที่ท่านแน่วแน่คือ ท่านต้องการทำงานให้กับแผ่นดินในขณะนั้น ท่านทำงานสนองเบื้องพระยุคลบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผมเองคงไม่สามารถจะคิดไปถึงตรงนั้น แต่สิ่งที่ผมตั้งใจคิดเป็นเป้าหมายก็คือ ผมอยากทำงานให้กับจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

 

ผมถามแทนคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนสุพรรณบุรี สุพรรณบุรียังต้องการอะไรอีกหรือ

เมื่ออาทิตย์ก่อน ผมได้ไปอำเภอหนองหญ้าไซ ตำบลทัพหลวง ตรงนั้นมีแต่ดินแดงๆ ดังนั้นสุพรรณบุรีไม่ได้ต่างอะไรกับอีกหลายจังหวัด เรามี 10 อำเภอ มีพี่น้องอีก 8 แสน 9 แสนคนที่เราต้องแก้ปัญหาให้เขาในขณะที่ผมเป็นผู้แทนสุพรรณบุรี ก็ต้องสุพรรณเฟิร์ส

 

สมมติวันหนึ่งเป็นรัฐมนตรี คุณจะเป็นรัฐมนตรีแบบไหน

ความรับผิดชอบ การทำงานก็ต้องเปลี่ยนไป สำคัญที่สุดคือความรู้ในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด วันนี้คุณมีหน้าที่ทำอะไรคุณทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด วันนี้คุณยังไม่มีหน้าที่ ก็ต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเอง

 

 

ที่ผ่านมาพรรคชาติไทยเป็นพรรคร่วมหลายรัฐบาล สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นพร้อมจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่

การเลือกตั้งแต่ละครั้งผมพูดอยู่เสมอ จะมาตัดสินว่าพรรคนั้นจะอยู่กับพรรคนี้ ในกระบวนการเมืองไม่เคยเกิดขึ้น ท้ายที่สุดแล้วขึ้นกับตัวเลขและพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่งจะจัดตั้งรัฐบาลต้องมีคะแนนเสียงเท่าไร สอง ที่สำคัญคือนโยบายที่เราใช้หาเสียงช่วงเลือกตั้ง พรรคที่เขาเชิญเราไปร่วมเอานโยบายของเราไปด้วยได้ไหม ถ้าคุณบอกไม่เอาก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะถ้าเราเอานโยบายดูแลประชาชนที่เราสัญญาไม่ได้ การเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมก็ไม่ต่างกันเลย

 

ดังนั้นเป็นฝ่ายค้านได้

ใช่ คือพรรคชาติไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรคนบอกว่าจ้องแต่จะเป็นรัฐบาล แล้วบอกว่าเป็นปลาไหลด้วย คำว่าปลาไหลเป็นวาทกรรมการเมืองสมัยเก่า คนที่เสียประโยชน์จะพูดให้สะใจ แต่คำว่าปลาไหลมันไปใช้กับอะไร สมัยที่นายบรรหารเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยอยู่ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ สมัยที่เกิดวิกฤตการเมือง สังคมเรียกร้องให้พรรคชาติไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เราก็บอกเราทำไม่ได้ เราทิ้งเรือตอนล่มไม่ได้ เราก็ไม่ออก หรือต่อมาเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน เราก็อยู่กับพรรคพลังประชาชนจนจมไปพร้อมกับเรือโดนยุบพรรค ดังนั้นนิยามของปลาไหลคืออะไร บางครั้งผมก็ยังตอบไม่ได้ เป็นการพูดเอาสะใจ สาดกันไปสาดกันมา

 

คำว่าปลาไหลยังติดอยู่ในใจไหม

ไม่หรอก เพราะไม่ได้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว อยากจะพูดก็พูดไป

 

 

แล้วกับคำว่าลูกท็อปล่ะ คุณมองอย่างไร

ไม่หรอกครับ ใครจะพูดอะไรผมบังคับไม่ได้ แต่ผมเลือกที่จะฟังได้ แต่คำว่าลูกท็อปที่สื่อยังใช้ ผมไม่สามารถจะหนีได้ เพราะเงาของคนชื่อบรรหาร ศิลปอาชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ใหญ่จนที่ว่าใครที่จะมาทำให้เงาใหญ่กว่านั้น คือผมต้องใหญ่กว่านายบรรหารคนถึงจะเลิกเรียกว่าลูกท็อป ทีนี้นายบรรหารเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว มันจะมีอะไรใหญ่กว่านายกรัฐมนตรีอีก ทางการเมืองมันไม่มีแล้ว ดังนั้นทำไมต้องวิ่งหนี ก็ลูกบรรหารจริงๆ เรียนตรงๆ ว่าเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตด้วย ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ประธานสโมสร เป็นอดีต ส.ส. ตำแหน่งเหล่านั้นเปรียบเสมือนหัวโขน แต่ตำแหน่งที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตและไม่มีใครปลดผมได้ก็คือตำแหน่งลูกนายบรรหาร ไม่ว่าอย่างไรผ่านไปอีกสิบปีร้อยปี ผมก็เป็นลูกนายบรรหาร

 

เมื่อกี้พูดถึงตำแหน่งรัฐมนตรี ถ้าได้เป็นรัฐมนตรีหนึ่งกระทรวง จะเลือกกระทรวงอะไร

จริงๆ ตำแหน่งรัฐมนตรีผมไม่ได้ให้ความสำคัญนะ

 

แต่ถ้าเป็นรัฐมนตรี คุณจะแก้ไขปัญหาตรงจุดได้นะ

ปัญหา ผมอยากแก้หลายอย่าง เรื่องการศึกษา เรื่องปากท้องชาวบ้าน การสื่อสาร การคมนาคม หรือแม้แต่กระทรวงไอที ปัจจุบันเรามี AI ที่กระทบกับคนมากมาย เราจะดูแลเขาอย่างไร หรือกระทั่ง LGBT ที่อยู่ในกรอบที่จำกัดของสังคมสมัยนี้ คือหลายกระทรวงผมอยากทำ ดังนั้นสิ่งที่ผมจะบอกคือ การทำงาน ถึงเวลาหน้าที่จะเป็นตัวกำหนด เพียงแต่บางครั้งคนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการ เป็นเสนาบดีของกระทรวงนั้นอาจไม่ได้รู้เรื่องนั้นดีที่สุด แต่สิ่งที่เก่งที่สุดคือการตัดสินใจ การที่จะมีทีม ยกตัวอย่างวันนี้ผมเป็นประธานสโมสรฟุตบอล ด้วยข้อมูลที่ผมมี ด้วยทีมงานที่มี เราสามารถตัดสินใจให้องค์กรเดินไปข้างหน้าได้ วันนี้อันดับสูงสุดที่สโมสรได้คืออันดับ 3 ของไทยพรีเมียร์ลีก

ผมบอกว่าในการเมืองไทย พรรคชาติไทยพัฒนาจะหาคนอย่างนายบรรหาร จะหาคนที่ฉันคิดเองทำเองหมด เป็นหลงจู๊ วันนี้หมดไปแล้ว ผมเองไม่สามารถทำได้อย่างที่นายบรรหารทำ ดังนั้นวันนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีทั้งคนหนุ่มรุ่นใหม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ทำงานด้วยกัน การทำงานวันนี้เราไม่ได้นั่งโต๊ะสี่เหลี่ยม มีหัวโต๊ะ พรรคชาติไทยพัฒนาวันนี้นั่งเป็นโต๊ะกลม

 

ปัญหาไหนในสังคมไทยที่จะเลือกมาแก้ก่อนเรื่องแรก และจะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าในอุดมคติได้

ปัญหาในประเทศไทยมันเหมือนกับหนังซีรีส์ แต่ละซีซันมีเนื้อเรื่องที่จะผูกไปซีซันหน้า แต่ละตอนคือปัญหาเฉพาะหน้าของแต่ละยุค เรื่องทุจริต เรื่องน้ำท่วมน้ำขัง แต่มีปัญหาที่ร้อยเรียงและซ่อนอยู่คือปัญหาเรื่องการศึกษา เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้เกิดเพราะคุณภาพของคน การจะทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งจากนี้ได้ต้องพัฒนาคุณภาพคนก่อน สิ่งที่ผมกลัวอีกสิบปีจากนี้ไปคือ เพื่อนบ้านของเราจะเต็มไปด้วยคนมีศักยภาพ ถ้าหากเราจะก้าวข้ามปัญหาเรื่องคอร์รัปชัน ตราบใดที่การนำลูกเข้าโรงเรียนยังต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะอยู่ โตขึ้นมากับจ่ายใต้โต๊ะ เด็กที่โตมาก็จะเห็นว่าการทุจริตเป็นเรื่องปกติ เป็นปัญหาพื้นฐานสำคัญที่สุดของสังคมไทยวันนี้ ซึ่งไม่ได้ใช้เวลา 3 ปี 4 ปีแก้ได้ บางครั้งนักการเมืองมองการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาว่าต้องการแก้ไขให้เสร็จภายใน 2 ปี เพื่อที่เลือกตั้งรอบหน้าจะได้เครดิตกลับเข้ามาใหม่ แต่ปัญหาเรื่องการศึกษาใช้เวลาอย่างต่ำ 10 ถึง 20 ปีในการแก้ไข ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำไม่ว่ารัฐบาล คสช. หรือรัฐบาลหน้า ท่านต้องเสียสละว่าจะไม่มีใครให้เครดิตท่าน ผลงานมันจะไม่เห็นชัดเจน แต่มันจะออกผลอีก 20 ปีข้างหน้า

 

แล้วจะแก้อย่างไร

ต้องทำให้คุณครูมีความสุขกับการสอน พัฒนาที่ครู การศึกษาที่ดีครูต้องมีความสุขก่อน ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ เพื่อทำเอกสารวิทยฐานะ ไม่ใช่ทำงานเพื่อปลดไฟแนนซ์ปลายเดือน จะมีเงินไปผ่อนบ้านผ่อนรถไหม ถ้าไม่มีต้องไปสอนพิเศษ ลดรายจ่าย ลดภาระของครูลง ก็จะทำให้ครูมาคิดเรื่องอื่นได้ ไม่ต้องมาคิดเรื่องวิ่งหาผู้ใหญ่หลังส่งเอกสารวิทยาฐานะ ทำให้ครูมีความสุขกับงานที่สอน แล้วความสุขนั้นจะถ่ายทอดไปสู่นักเรียน

 

 

ก้าวต่อไปของพรรคการเมือง ก้าวต่อไปของสังคมไทยคือคนรุ่นใหม่ คิดเห็นอย่างไร

ท้ายสุดในอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ แต่วันนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผมไม่เชื่อว่าวันนี้นักการเมืองคนรุ่นใหม่อย่างเดียวจะทำให้ประเทศไทยในวันนี้เดินหน้าได้ ผมไม่เชื่อว่านักการเมืองรุ่นไดโนเสาร์อย่างเดียวในวันนี้จะทำให้การเมืองไปข้างหน้าได้ ต้องผสมผสานกัน สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากนายบรรหารคือ ขอให้มีความสมดุลกัน การใช้คนให้ถูก ผู้ใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นคนชี้ทาง มีหลุมอยู่ตรงไหน แนะนำคนรุ่นใหม่ ผมเชื่อในทีมเวิร์ก มีคนเคยถามพรรคชาติไทยพัฒนาในวันที่นายบรรหารไม่อยู่จะเป็นไปอย่างไร

 

ผมบอกว่าในการเมืองไทย พรรคชาติไทยพัฒนาจะหาคนอย่างนายบรรหาร จะหาคนที่ฉันคิดเองทำเองหมด เป็นหลงจู๊ วันนี้หมดไปแล้ว ผมเองไม่สามารถทำได้อย่างที่นายบรรหารทำ ดังนั้นวันนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีทั้งคนหนุ่มรุ่นใหม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ทำงานด้วยกัน การทำงานวันนี้เราไม่ได้นั่งโต๊ะสี่เหลี่ยม มีหัวโต๊ะ พรรคชาติไทยพัฒนาวันนี้นั่งเป็นโต๊ะกลม

 

วันนี้กล้าวิจารณ์ คสช. ไหม

ข้อจำกัดท่านมีหลายอย่าง เหมือนที่ผมเคยพูด คนที่ไม่ได้นั่งอยู่ในเก้าอี้หนึ่งก็ง่ายที่จะพูด ทำไมทำอย่างนั้นไม่ทำอย่างนี้ พื้นฐานของ คสช. ไม่ใช่นักการเมือง ท่านมีมุมมองของท่าน นักการเมืองมีมุมมองอีกอย่าง ท้ายสุดผลออกมาเป็นอย่างไรต้องให้สังคมกำหนด แต่ว่าก็อยากเป็นกำลังใจให้รัฐบาล เพราะท้ายสุดจะเป็นใครก็แล้วแต่ จะเป็น คสช. จะเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ทุกคนมีเป้าหมายที่จะนำเรือลำนี้ที่เป็นประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า

 

ท้ายที่สุด อะไรของประเทศไทยที่อยากจะเปลี่ยน

ผมเคยพูดว่า See, not with your eyes but your heart. อย่ามองด้วยตา แต่มองด้วยหัวใจ Listen, not with your ears but your mind. อย่าฟังด้วยหู ฟังด้วยใจ speak not with your mouth but with your action อย่าพูดเอามัน ใช้การกระทำเป็นตัวตัดสิน เมื่อคุณพูดเราจะฟัง เมื่อคุณทำเราจะเชื่อ เมื่อคุณพูดให้น้อยลงทำให้มากขึ้น เวลาฟังอะไรให้มีสติมากขึ้น อย่าเพิ่งโหนไปตามกระแส มีสติในการบริโภคสื่อ ผมเชื่อว่าสังคมไทยจะมั่นคง ก้าวไปข้างหน้าได้ดีกว่านี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising