×

‘วันชัย สอนศิริ’ ผู้ริเริ่ม-วางกลไก ส.ว. โหวตเลือกนายกฯ กับ 3 คำทำนายให้ ‘ประวิตร-ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง’

โดย THE STANDARD TEAM
09.02.2023
  • LOADING...
วันชัย สอนศิริ

หนึ่งในกติกาการเมืองที่เป็นเสมือน ‘ประตูปิดตาย’ ประเทศไทย คือการเปิดช่องให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากการแต่งตั้ง 250 คน มีสิทธิในการโหวตเลือก ‘นายกรัฐมนตรี’ 

 

กลไกเช่นนี้ทำให้การสืบทอดอำนาจ ‘3 ป.-คสช.’ เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ และด้วยกลไกเดียวกันนี้เองที่บีบแคบให้นายกรัฐมนตรีคนถัดไปหลังการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 มีแนวโน้มเหลือเพียง 2 ชื่อ 

 

8 ธันวาคม 2561 มีการจัดงานสังสรรค์ประจำปีของ ‘เด็กวัดทุกรุ่น’ ที่เคยสังกัด ‘วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร’ ย่านสัมพันธวงศ์ วงสังสรรค์ซึ่งสมาชิกในวงล้วนเติบโตเป็นข้าราชการ, ทหาร, ตำรวจ, ผู้หลักผู้ใหญ่, พ่อค้า, นักธุรกิจ

 

หนึ่งในสมาชิกของวงสังสรรค์ค่ำคืนนั้น คือ ส.ว. และทนาย วันชัย สอนศิริ

 

วันชัย สอนศิริ

 

จาก ‘วันชัย’ ถึง ‘สามเณรวันชัย’

 

ในวัยเด็กเขาเข้าบวชเรียนที่วัดไตรมิตรฯ จนได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 17-18 ปี หลังสอบเทียบ ม.ศ.5 ได้สำเร็จ สามเณรวันชัยตัดสินใจสึกจากพระอาราม ก่อนคว้าปริญญานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้สำเร็จ 

 

วันชัยยังถือเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดไตรมิตรฯ ศูนย์กลางของถนนหลายสายทั้งในแวดวงการเมือง การทหาร ธุรกิจ

 

ชีวิตผ่านตำแหน่งหลากหลาย ทั้งเป็นทนายความ, เลขาธิการสภาทนายความฯ, สมาชิกสภาเขต กทม., พิธีกรรายการโทรทัศน์, ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี, อาจารย์พิเศษ และ ส.ว. สรรหาในปี 2554

 

หลังการรัฐประหารปี 2557 เขาเข้าสู่วงอำนาจในตำแหน่งสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ก่อนมีพระบรมราชโองการเมื่อ 14 พฤษภาคม 2562 แต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา

 

ในงานสังสรรค์ค่ำคืนนั้นเขาจับไมค์ประกาศด้วยความภูมิใจว่า “ผมเป็นเด็กวัดไตรมิตรฯ เป็นคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเริ่มต้นคำถามพ่วงและมีคนโหวตเห็นด้วย 15 ล้านเสียง ปรบมือหน่อยครับ” 

 

 

วางกลไกให้ ส.ว. มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี

 

ในวงสังสรรค์ค่ำคืนนั้นวันชัยเล่าว่า “ปกติ ส.ว. มันไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไร ไม่มีสิทธิไปโหวตใครเป็นนายกรัฐมนตรี ผมเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญโดยเสนอในสมัยที่ผมเป็น สปท. (สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ) ให้ ส.ว. 250 คนนี้มีสิทธิร่วมในการโหวตคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเป็นคำถามพ่วง พวกเราจำได้หรือเปล่า คำถามพ่วงนี้ก็โหวตทั่วประเทศได้ 15 ล้านเสียง”

 

คำถามพ่วงดังกล่าวได้รับข้อวิจารณ์ก่อนหน้าวันลงประชามติ เมื่อ 7 สิงหาคม 2559 ว่าแยบยล ซ่อนกล และมีเป้าหมายชัดเจนอยู่ที่การสืบทอดอำนาจ คสช. 

 

หลังวงอำนาจ  3 ป. เริ่มบริหารประเทศในปี 2562 นำไปสู่การรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ปิดสวิตช์ ส.ว. ยกเลิกมาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 

 

ความพยายามกว่า 6 ครั้งในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นอันตกไปทุกครั้ง ไม่มีร่างแก้ไขใดได้รับเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. ถึงอย่างน้อย 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะได้รับความเห็นชอบ 

 

เมื่อถูกโจมตีว่าเป็นกติกาที่สร้างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ ส.ว. วันชัย อธิบายเจตนารมณ์ของกติกานี้แตกต่างออกไป

 

“เหตุผลสำคัญของผมที่เสนอให้ ส.ว. 250 คน เลือกนายกรัฐมนตรีได้ เพราะต้องการให้ทั้ง 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งก็คือ คสช. มีอำนาจแต่งตั้ง ส.ว. 250 คนเข้ามา รวมทั้ง ผบ.เหล่าทัพที่อยู่ใน ส.ว. 250 คนนั้นโดยตำแหน่งด้วย กับฝ่ายที่มาจากประชาชนคือ ส.ส. 500 คน มีการประนีประนอมรอมชอมอำนาจกัน มีอะไรคุยกันในรัฐสภา เพื่อป้องกันรัฐประหารในช่วงเปลี่ยนผ่านภายใน 5 ปีนี้” (เว็บไซต์ thebuddh.com)

 

 

3 คำทำนาย คำอ่านทางการเมือง ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 

 

แฟนเพจเฟซบุ๊กของ ส.ว. วันชัย ไม่เพียงเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้เห็นความคิด การประเมินการเมืองของตัวเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนความคิดอ่าน ความปรารถนาของ ส.ว. ฝ่าย คสช. 

 

มี 3 คำทำนายก่อนการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 ที่เขาได้ประเมินไว้ 

 

  1. จะเป็นรัฐบาลได้ ต้องสร้างสมดุลทางการเมืองได้ ไม่ให้สวิงไปข้างใดข้างหนึ่ง 

 

“มาตรา 272 เขาต้องการให้ฝ่ายรัฐประหารกับฝ่ายเลือกตั้งประนอมอำนาจซึ่งกันและกันในระยะเปลี่ยนผ่าน ถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกันไม่ให้สวิงไปข้างใดข้างหนึ่งมากนัก

 

“สมมติว่าเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง และรวมกับพรรคอื่นๆ ได้ถึง 350 เสียง ก็ยังเป็นรัฐบาลไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าคนจะเป็นนายกฯ ได้ต้องมีเสียงถึง 376 เสียง แต่ถ้าหากพลังประชารัฐโดย พล.อ. ประวิตร มี 150 เสียง รวมกับ ส.ว. 250 เสียง เป็น 400 เสียง ก็ตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็อยู่ต่อไปไม่ได้ ส่วนเพื่อไทยสามารถที่จะอยู่ได้ แต่ไม่สามารถที่จะเข้าเป็นรัฐบาลได้”

 

 

  1. อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ยังมีเวลาบ่มเพาะอีกยาวไกล แบ่งรัฐประหารให้ครอบครัวอื่นบ้าง

 

“อย่าลืมว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ของเล่นที่ใครจะเอาไปเล่นกันได้ง่ายๆ และไม่ใช่ตำแหน่งประธานหรือผู้จัดการบริษัทที่ใครจะมอบให้แก่ใครอย่างไรก็ได้ หรือจะมอบให้แก่พี่ น้อง ลูก เมีย เมื่อไรก็ได้ อุ๊งอิ๊งยังมีเวลาบ่มเพาะอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบชิงสุกก่อนห่าม…

 

“ถ้าจะมีปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นมาอีก ก็แบ่งให้คนในครอบครัวอื่นเขาโดนเสียบ้าง อย่าเหมาเอาแต่ครอบครัวของเราเลย”

 

 

  1. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือผู้จัดการตั้งรัฐบาล ผู้ประสานสิบทิศ

 

“พลังประชารัฐโดย พล.อ. ประวิตร คงจะเป็นผู้จัดการตั้งรัฐบาลและเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งแน่นอน และจะดึงพรรคไหนมาร่วมเป็นรัฐบาลก็คอยดูหลังจากการเลือกตั้งก็แล้วกัน 

 

“ใครจะเป็นผู้ประสานสิบทิศ…ดูแล้วมีแต่ พล.อ. ประวิตร เท่านั้นเพราะ 1. ท่านเข้าได้กับทุกฝ่าย ทุกพรรคการเมือง 2. เป็นที่ยอมรับของ ส.ส. ในกลุ่มอำนาจเดิมและกลุ่มอำนาจใหม่ อาจเว้นก้าวไกล 3. ท่านมีเสียงทั้ง ส.ส. และ ส.ว. สนับสนุน 4. ท่านมีความพร้อมทุกด้าน ใจถึงพึ่งได้ คำไหนคำนั้น นักเลงทางการเมือง 5. เคยเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลมาแล้ว…”

 

ดังประมวล 3 ฉากทัศน์ เป็นข้อสรุปได้ว่า “พล.อ. ประวิตร พลังประชารัฐจะเป็นผู้ประสานทั้งภูมิใจไทย เพื่อไทย ร่วมกันเป็นรัฐบาล นอกนั้นรวมทั้งก้าวไกลด้วยก็อาจเป็นฝ่ายค้าน สมการการเมืองจะลงตัวในลักษณะนี้ในช่วงปีครึ่งถึง 2 ปี ทักษิณยังไม่ได้กลับบ้าน อุ๊งอิ๊งก็ไม่ได้เป็นนายกฯ”

 

นี่คือคือทำนาย คำอ่านทางการเมืองของ ส.ว. วันชัย ผู้ที่ประเมินการเมือง ทั้งผ่านกลไกที่เขาได้ริเริ่มไว้ สถานการณ์การเมืองของจริงที่อยู่ตรงหน้า พร้อมทั้งผสมคำทำนายทายทักตามฉบับสำนักวัดไตรมิตรฯ ที่เขาได้เคยร่ำเรียน 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising