นับเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่เราเชื่อว่าแฟนๆ ของผู้กำกับสายเดือดอย่าง เควนติน ทารันติโน เฝ้ารอคอยและหวังให้เกิดขึ้นอย่างมาก สำหรับภาคต่อของหนังแอ็กชันฆ่าล้างแค้นสุดมันอย่าง Kill Bill ซึ่งจริงๆ มีข่าวลือออกมา บวกกับการที่ผู้กำกับเควนตินได้เคยบอกใบ้เอาไว้หลายปีแล้วว่า เขาอยากจะสานต่อเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกสักครั้ง แล้วหลายคนก็ยิ่งมีความหวังมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อมีรายงานออกมาในเดือนพฤษภาคมว่า เควนตินได้เริ่มต้นพูดคุยกับทาง อูมา เธอร์แมน นางเอกของเรื่อง ถึงความเป็นไปได้และไอเดียในการสร้าง Kill Bill: Volume 3
ล่าสุดทาง วิวิกา เอ ฟอกซ์ ผู้รับบทเป็น เวอร์นิตา กรีน หนึ่งในสมาชิกแก๊งอสรพิษร้ายหรือ The Dead Viper ผู้มีส่วนร่วมในการพยายามฆ่า ‘บี’ หรือ ‘เดอะ ไบร์ด’ (ตัวละครของ อูมา เธอร์แมน) จนบาดเจ็บปางตาย ก็ได้ออกมาเผยว่า เธออยากเห็น เซนดายา โคลแมน นักแสดงสาวดาวรุ่งชาวอเมริกันที่หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาจากบทเอ็มเจในสไปเดอร์แมนฉบับล่าสุด มาแสดงเป็น นิกกิ ลูกสาวของ เวอร์นิตา กรีน ตอนโต เพราะคิดว่าเซนดายามีคาแรกเตอร์ที่เหมาะสม และน่าจะเป็นแคสต์ที่ยอดเยี่ยม
“เมื่อฉันถูกถามว่าต้องการให้ใครมารับบทเป็นลูกสาวฉันน่ะเหรอ แน่นอนว่าไม่ใช่ แอมโบร เชีย เคลลี (คนที่รับบทนิกกิตอนเด็ก) แต่ฉันเลือกเซนดายา! เธอต้องเจ๋งมากแน่ๆ และฉันคิดว่านั่นอาจทำให้โปรเจกต์นี้ได้รับอนุญาตในการสร้าง ฉันรักเซนดายา” เธอกล่าว
จากการให้สัมภาษณ์ของเควนตินกับนิตยสาร Entertainment Weekly ในปี 2004 เขาเผยว่า เรื่องราวใน Kill Bill: Volume 3 จะโฟกัสไปที่ตัวละครนิกกิ หญิงสาวผู้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความแค้นฝังใจ เนื่องจากเธอต้องเห็นแม่ตัวเองถูก เดอะ ไบร์ด ฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาในฉากต่อสู้สั้นๆ แต่ไอคอนิกของ Kill Bill: Volume 1
“ผมมีเรื่องราวที่ต้องการจะเล่าทั้งหมดอยู่ในใจแล้ว โซฟี ฟาเทล (หากยังจำกันได้ เธอมือขวาของ โอเร็น อิชิ ตัวละครที่ถูกฟันแขนขาดในหนังภาคแรก) จะเป็นคนเลี้ยงดูนิกกิด้วยเงินทั้งหมดของบิลล์ให้เติบโตขึ้นและแก้แค้น เดอะ ไบร์ด เพราะสมควรได้รับการแก้แค้นมากพอๆ กับที่ เดอะ ไบร์ด สมควรได้รับการแก้แค้น” เควนตินกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากโปรเจกต์ Kill Bill: Volume 3 เกิดขึ้นจริงๆ ก็จะนับว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 10 ถัดจาก Once Upon a Time… in Hollywood เรื่องที่ 9 ที่เข้าฉายเมื่อกลางปีก่อนของผู้กำกับเควนติน ทารันติโน พอดี และหากใครที่ติดตามก็จะรู้ว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยออกมาประกาศว่าตัวเองจะทำหนังแค่ 10 เรื่องเท่านั้น หลังจากครบ 10 เรื่องแล้วผู้กำกับสายเดือดคนนี้ก็จะเกษียณตัวเองออกจากบทบาทของการเป็นผู้กำกับ ซึ่งหวังว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะเราเชื่อว่ายังมีใครอีกหลายคนที่อยากดูหนังของเขาต่อไปเรื่อยๆ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
