Virgin Galactic บริษัทเทคโนโลยีอวกาศที่ตั้งเป้าให้บริการเที่ยวอวกาศเชิงพาณิชย์ และก่อตั้งโดย เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน นักธุรกิจชาวอังกฤษ วัย 69 ปี ได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หลังดำเนินการควบรวมกิจการกับบริษัท Social Capital Hedosophia เสร็จสิ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ของ Virgin Galactic จะส่งผลให้พวกเขากลายเป็นบริษัทที่ตั้งเป้าให้บริการท่องเที่ยวอวกาศเชิงพาณิชย์แห่งแรกที่มีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยจะใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า ‘SPCE’
ก่อนหน้านี้กระบวนการควบรวมกิจการและการซื้อหุ้นใน Virgin Galactic โดย Social Capital Hedosophia ได้ถูกประกาศออกมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมในมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้พวกเขาเข้าถือหุ้นในสัดส่วนกว่า 49% ของบริษัท ขณะที่ เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน ยังคงถือครองหุ้นในสัดส่วน 51% โดยมูลค่าบริษัท ณ ปัจจุบันอยู่ที่ราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จอร์จ ไวต์ไซด์ส ซีอีโอบริษัท Virgin Galactic กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “วันนี้ Virgin Galactic ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้งด้วยการเป็นบริษัทที่ให้บริการเที่ยวอวกาศเชิงพาณิชย์แห่งแรกและแห่งเดียวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งใครๆ ก็สามารถมีโอกาสลงทุนในบริษัททัวร์อวกาศเชิงพาณิชย์แห่งนี้ที่จะปฏิวัติตลาดให้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Virgin Galactic เพิ่งเปิดเผยว่า Boeing บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานจากสหรัฐฯ ได้เข้ามาลงทุนในบริษัทของพวกเขาด้วยเม็ดเงินราว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์
Virgin Galactic เริ่มต้นกิจการครั้งแรกในปี 2004 หรือเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ด้วยการพัฒนายานอวกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีภารกิจสูงสุดในการให้บริการพาผู้คนออกไปท่องเที่ยวและสำรวจอวกาศเชิงพาณิชย์ให้สำเร็จภายในปี 2020 ซึ่งตั๋วหนึ่งใบจะสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.5 ล้านบาทต่อคน โดยตอนนี้มีผู้ที่ลงทะเบียนแสดงความประสงค์เข้าร่วมทัวร์มากถึง 603 คนแล้ว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: