การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังขยายเข้าไปสู่ภาคส่วนต่างๆ มากยิ่งขึ้น รวมถึงภาครัฐ โดยล่าสุดหน่วยงานด้านภาษีของเวียดนามได้เตรียมใช้ AI เพื่อตรวจจับการเลี่ยงภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บรายได้ภาครัฐแล้ว ขณะที่ ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่ากรมสรรพากรของไทยได้ใช้ AI เพื่อตรวจสอบการเลี่ยงภาษีของบริษัทต่างๆ อยู่แล้ว และเตรียมนำ ChatGPT มาใช้ตอบคำถามผู้เสียภาษีด้วย โดยตัวโปรแกรมต้นแบบคาดว่าจะเสร็จภายในปลายเดือนสิงหาคมนี้
วันนี้ (25 กรกฎาคม) Nikkei Asia รายงานว่า ทางการเวียดนามกำลังเตรียมนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพื่อตรวจจับการเลี่ยงภาษี ตัวอย่างเช่น การใช้ซอฟต์แวร์ AI เพื่อตรวจจับบริษัทที่ออกใบกำกับภาษี (Invoice) บ่อยเกินไปในจำนวนเงินที่สูงผิดปกติ หรือด้วยวิธีอื่นๆ ที่บ่งชี้ว่ามีความพยายามที่จะลดจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี
นอกจากนี้เวียดนามยังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีและบริษัทโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Microsoft และ Lazada ได้ชำระภาษีให้กับทางการมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากระบบการกรอกและส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Filing) ที่เพิ่งเปิดตัวไป
โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพลตฟอร์มจากสหรัฐฯ เช่น Netflix และ Google ได้จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลเวียดนามแล้ว 3.9 ล้านล้านดอง (หรือราว 5,687 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 3.4 ล้านล้านดอง ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565
ทั้งนี้ เวียดนามซึ่งเป็นอีกตลาดสำคัญสำหรับ Facebook และ TikTok กำลังเพิ่มการตรวจสอบการชำระภาษีของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างๆ เห็นได้จากการจัดเก็บภาษีในภาคอีคอมเมิร์ซที่มีมูลค่ารวม 7.16 แสนล้านดอง ในปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาษีของเวียดนามเผยว่า รายได้จากภาคส่วนดังกล่าวน่าจะชะลอตัวลงในปีนี้
สรรพากรเผยความคืบหน้าโครงการนำ ChatGPT ตอบคำถามผู้เสียภาษี
ขณะที่ ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่ากรมสรรพากรได้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อตรวจสอบการเลี่ยงภาษีของบริษัทต่างๆ อยู่แล้ว
พร้อมทั้งเปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการนำ ChatGPT มาตอบคำถามผู้เสียภาษี โดยระบุว่า กรมสรรพากรได้พูดคุยกับ Microsoft ไปแล้ว โดยกระบวนการตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทดสอบความเป็นไปได้ (Proof of Concept) และได้ลงไปทำ Sandbox แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อธิบดีกรมสรรพากรเปิดเผยว่า จะมีการหารือร่วมกับ Microsoft เพื่อนำ ChatGPT มาใช้ตอบคำถามผู้เสียภาษี ผ่านการนำข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายภาษีทั้งหมด ได้แก่ คำพิพากษาศาลและแนวคำตอบภาษีที่กำหนดไว้ให้เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ตอบคำถามผู้เสียภาษี ใส่ไว้ในระบบ ChatGPT เพื่อลดการใช้ดุลพินิจและข้อโต้แย้งระหว่างผู้เสียภาษีและเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร
“ภายในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ทาง Microsoft กำหนดว่าจะส่งต้นแบบ (Prototype) กลับมาเพื่อให้กรมสรรพากรพิจารณาว่าต้องปรับแก้อะไรอีกหรือไม่ หรือฉลาดอย่างที่คาดหวังหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลที่ป้อนลงไปเป็นภาษากฎหมาย” ลวรณกล่าว
อ้างอิง: