เวียดนามเตรียมลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% เป็น 8% ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภค และกิจกรรมทางธุรกิจ หลังจากเศรษฐกิจเผชิญกับภาวะชะลอตัว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภาเวียดนามได้ผ่านร่างกฎหมายลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์และบริการบางประเภทจะไม่รวมอยู่ในร่างกฎหมายนี้ รวมถึงโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ การประกันภัย ผลิตภัณฑ์โลหะ และปิโตรเลียมกลั่น
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน Le Minh Khai รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ ได้ลงนามในข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ที่เสนอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมด
โดยในระหว่างการหารือในสภา ก่อนหน้านี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติบางคนสนับสนุนให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่มกับทุกรายการ เนื่องจากหลายภาคส่วนยังประสบปัญหาหลังการระบาดใหญ่ ขณะที่บางคนก็แนะให้ลด VAT มากถึง 5% ไปจนถึงปี 2024 แต่ในท้ายที่สุด สภาก็ตกลงที่จะลด VAT อัตรา 2% สำหรับช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ขณะที่กระทรวงการคลังเวียดนามประเมินว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อรายได้จากภาษีของรัฐบาลลง 24 ล้านล้านดอง (หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท) ในปี 2023
Ho Duc Phoc รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “รัฐบาลเพียงต้องการเพิ่มอำนาจการใช้จ่ายของประชาชนในระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วยการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม”
ก่อนหน้านี้ เวียดนามเคยลดภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราวจาก 10% เป็น 8% ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-ธันวาคมปี 2022 ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า นับเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโรคระบาด
การปรับลด VAT ครั้งใหม่มีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของเวียดนามชะลอตัว โดย GDP ที่แท้จริงของเวียดนามในปี 2022 เติบโตถึง 8.02% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ไตรมาสแรกของปีนี้ GDP เวียดนามชะลอตัวลงเหลือ 3.32% จากปีก่อนหน้า
Le Dang Doanh นักเศรษฐศาสตร์เวียดนาม ตั้งข้อสังเกตว่า การลดภาษีมูลค่าเพิ่มในปีที่แล้วของเวียดนาม สามารถช่วยกระตุ้นยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการเพิ่มขึ้น 19.8% ขณะที่รายได้ของรัฐบาลจากภาษีมูลค่าเพิ่มก็เพิ่มขึ้น 10% ในปีเดียวกัน
Le Dang Doanh ยังกล่าวกับ Nikkei Asia ว่าในปีนี้ อุตสาหกรรมหลักจำนวนมากของเวียดนาม ได้แก่ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และอสังหาริมทรัพย์ ประสบปัญหาหลายประการ เนื่องจากการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว ดังนั้น การลดภาษีมูลค่าเพิ่มจึงคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจสำหรับภาคส่วนเหล่านี้และจูงใจผู้บริโภคได้
อ้างอิง:
