×

ประวัติศาสตร์การ์ดวาเลนไทน์ มนุษย์เราเคยพร่ำรัก เขียนกลอน และติดหนวดลงไปบนการ์ด

10.02.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins read
  • ถึงแม้การ์ดวาเลนไทน์ใบแรกจะไม่สามารถเรียกว่า ‘การ์ด’ ได้เต็มปากเต็มคำนัก เพราะว่ามันเป็นเพียงจดหมายฉบับหนึ่งที่อ้างอิงคำว่า ‘วาเลนไทน์’ ขึ้นมาใช้ในจดหมาย ซึ่งถูกเขียนโดย ชาร์ลส์ ดยุกแห่งออร์เลอ็อง ชาวฝรั่งเศส เมื่อปี 1415
  • ‘การ์ดทำมือ’ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แพร่หลายในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะการ์ดทำมือที่เป็นเหมือน ‘การ์ดซ่อนกล’ กับการออกแบบการ์ดที่ซับซ้อน โดยสามารถซ่อนของขวัญไว้ด้านในการ์ดได้ด้วย
  • Vinegar Card ไม่ใช่การ์ดที่ชุบน้ำส้มสายชูแต่อย่างใด แต่มันคือรูปแบบของการ์ดวาเลนไทน์ที่ส่งเพื่อเยาะเย้ย ดูแคลน หรือส่งให้กับคนที่เกลียดในช่วงปี 1840

หนึ่งในสิ่งสำคัญของวันวาเลนไทน์คงหนีไม่พ้นการเลือกสรรของขวัญชิ้นพิเศษให้กับคนที่คุณรัก บ้างก็นึกถึงดอกกุหลาบหลากสีที่แต่ละสีก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป หรือถ้าจะให้เพลย์เซฟสักหน่อยก็คงเป็นช็อกโกแลตแพ็กเกจสวยสักกล่องก็น่าประทับใจแล้ว

 

แต่อีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับเทศกาลแห่งความรักมาตลอดก็คือ ‘การ์ดวาเลนไทน์’ ที่ระบุถ้อยความน่ารักๆ หรือบทกลอนซึ้งๆ ไว้แทนความในใจของผู้ส่งถึงผู้รับ แต่กว่าที่การ์ดวาเลนไทน์จะเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนสำคัญในการเป็นสื่อกลางความรักอย่างทุกวันนี้ มันต่างถูกพัฒนารูปแบบและการออกแบบมาตลอดระยะเวลากว่า 600 ปี และ THE STANDARD ขอพาคุณย้อนกลับไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของการ์ดวาเลนไทน์ เพราะคุณอาจไม่เคยรู้ว่า ‘ความรัก’ สามารถกระตุ้นให้มนุษย์ออกแบบวิธีการสื่อสารผ่านกระดาษได้หลากหลายรูปแบบ

 

จดหมายสุดคลาสสิกที่นำคำว่า ‘วาเลนไทน์’ มาใช้เป็นครั้งแรกๆ

Photo: Me Bond Book

 

การ์ดวาเลนไทน์ใบแรก

ถึงแม้การ์ดวาเลนไทน์ใบแรกจะไม่สามารถเรียกว่า ‘การ์ด’ ได้เต็มปากเต็มคำนัก เพราะมันเป็นเพียงจดหมายฉบับหนึ่งที่อ้างอิงคำว่า ‘วาเลนไทน์’ ขึ้นมาใช้ในจดหมายฉบับนั้น ซึ่งมันถูกเขียนโดย ชาร์ลส์ ดยุกแห่งออร์เลอ็อง ชาวฝรั่งเศส เมื่อปี 1415 ซึ่งเขาเขียนขณะถูกคุมขังอยู่ในทาวเวอร์ออฟลอนดอนระหว่างช่วงสงครามอัศวินอาแฌงคูร์ต (Battle of Agincourt) ซึ่งเขียนถึงภรรยาของเขาโดยใช้คำว่า ‘Valentine’ เขียนลงไปในบทกลอน อย่างเช่นในบางส่วนบางตอนของจดหมายที่ว่า “Je suis desja d’amour tanné, Ma tres doulce Valentinée” ซึ่งแปลได้ว่า “ตอนนี้ผมกำลังเป็นบ้าเพราะความรัก ยอดรักผู้แสนอ่อนโยนของผม” แต่ท้ายที่สุดจดหมายฉบับนี้ก็ไปไม่ถึงภรรยาของเขา เพราะเธอเสียชีวิตไปเสียก่อน และในปัจจุบัน จดหมายฉบับดังกล่าวถูกเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งสหราชอาณาจักร

 

การ์ดซ่อนกล การ์ดวาเลนไทน์ทำมือในยุควิกตอเรียนเมื่อราวปี 1790

Photo: The Postal Museum

 

การ์ดซ่อนกล: หัวใจที่ซับซ้อน

ในยุคที่เทคโนโลยีการพิมพ์ยังไม่แพร่หลาย ‘การ์ดทำมือ’ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แพร่หลายในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยเฉพาะการ์ดทำมือที่เป็นเหมือน ‘การ์ดซ่อนกล’ กับการออกแบบการ์ดที่ซับซ้อนโดยสามารถซ่อนของขวัญไว้ด้านในการ์ดได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันหลงเหลือการ์ดเช่นนี้อยู่ไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่ในยุคนั้นผู้ส่งนิยมใส่บทกวีงามๆ รูปภาพที่จะทำให้ผู้รับรู้สึกประทับใจเมื่อคลี่การ์ดออกมา นอกจากนั้นในยุคเดียวกันนี้ยังมีการดีไซน์การ์ดด้วยการวาดมือ เช่น การวาดคิวปิด ดอกกุหลาบ หรือสิ่งที่สื่อถึงความรักอื่นๆ อีกด้วย

 

ตัวอย่างการ์ดวาเลนไทน์ที่เป็นภาพวาด

 

การ์ดวาเลนไทน์ใบแรกที่ถูก ‘ปรินต์’ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว

Photo: The Postal Museum

 

จากการ์ดวาดมือ สู่อุตสาหกรรมการ์ดวาเลนไทน์

อุตสาหกรรมการ์ดวาเลนไทน์เกิดขึ้นอย่างจริงจัง นั่นด้วยสาเหตุจากการเกิดบริการ Penny Post ในประเทศอังกฤษ กับการส่งจดหมายอะไรก็ได้ในราคา 1 เพนนี จึงทำให้การส่งการ์ดวาเลนไทน์เริ่มแพร่หลายไปยังคนทุกชนชั้น และการ์ดวาเลนไทน์ใบแรกที่ถูกปรินต์ออกมาขายอย่างเป็นเรื่องเป็นราวนั้นเป็นผลงานการออกแบบของ จอห์น แฟร์เบิร์น ซึ่งผลิตออกมาในปี 1797 มันเป็นการออกแบบที่ละเอียดอ่อนสวยงาม มีการวาดภาพของกามเทพ นกพิราบ และดอกไม้อยู่ร่วมกัน และการ์ดใบนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการออกแบบการ์ดวาเลนไทน์รูปแบบอื่นๆ ในภายหลัง บ้างก็มีการจ้างออกแบบการ์ดโดยใช้ไหมพรมถักประดิดประดอยอยู่บนการ์ด หรือแม้แต่ปักลายลูกไม้ลงบนกระดาษ ซึ่งการ์ดบางชนิดกินเวลาหลายเดือนในการผลิต

 

Your Love My Happiness หนึ่งในการ์ดวาเลนไทน์ที่ผลิตออกมาในปี 1870

 

การ์ดวาเลนไทน์ในช่วงปี 1900 ที่มีหนวดของชายหนุ่มติดอยู่

Photo: York Castle Museum

 

โปรดประทับหนวดลงไปบนการ์ด

ไม่รู้ว่าเป็นกฎข้อบังคับเหมือนการติดแสตมป์ลงไปบนโปสการ์ดหรือเปล่า เพราะครั้งหนึ่งโลกของเราเคยมีการ์ดวาเลนไทน์หน้าตาพิลึกที่มีพื้นที่เว้นให้ชายหนุ่มได้นำหนวดเคราของตัวเองติดลงไปบนการ์ด -ใครจะเป็นผู้โชคดีที่ได้รับกัน? การ์ดวาเลนไทน์สัญชาติอังกฤษอายุ 100 ปีบวกใบนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1900 โดยผู้ออกแบบการ์ดใบนี้คือ แองกัส โทมัส เราไม่ทราบเหตุผลแน่ชัดว่าทำไมเขาจึงออกแบบให้การ์ดนี้สามารถปะติดหนวดบุรุษลงไปได้ แต่ เฟย์ ไพรเออร์ ภัณฑารักษ์ผู้เคยนำการ์ดแปลกๆ นี้ออกมาจัดแสดงใน York Castle Museum ประเทศอังกฤษ ให้ความเห็นไว้ว่า “คนยุคนั้นมักมีความคิดแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องความรัก พวกเขารักความแปลก ชอบความประหลาด และไม่ค่อยเอามันออกมาอวดในที่สาธารณะเท่าไร มันคงจะโรแมนติกดีที่ได้รับการ์ดที่มีหนวดของผู้ชายที่เรารักติดอยู่ แต่ไม่ได้จะดูถูกนะคะ เพราะถ้ามีคนส่งมาให้ตอนนี้ ฉันคงปฏิเสธ” ก่อนอื่นช่วยยืนยันอีกทีได้ไหมว่านั่นคือหนวดจริงๆ?

 

การ์ดวิเนการ์ที่มีภาพการ์ตูนหน้าตาอัปลักษณ์และบทกลอนชวนหัว

Photo: The Postal Museum

 

การ์ดวิเนการ์: เมื่อวาเลนไทน์ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก

ไม่ใช่การ์ดที่ชุบน้ำส้มสายชูแต่อย่างใด แต่ Vinegar Card ก็มีความฉุนเปรี้ยวอยู่นัยหนึ่ง การ์ดวิเนการ์เป็นประเภทของการ์ดวาเลนไทน์ชวนขันที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1840-1940 กับการตีความให้การ์ดวาเลนไทน์เป็นการสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้รับ บ้างก็ส่งให้กันเพื่อนเพื่อเยาะเย้ย ดูแคลน หรือส่งให้กับคนที่เกลียด และมันฮิตมากๆ ในยุคนั้น โดยการ์ดวิเนการ์ดังกล่าวจะมีภาพการ์ตูนหน้าตาอัปลักษณ์ มีถ้อยความอันน่ารังเกียจอยู่บนนั้น ซึ่งการ์ดแต่ละใบที่ถูกส่งนั้นก็จะเลือกภาพตามนิสัยผู้รับ หรือภาพที่ล้อเลียนลักษณะรูปร่างของผู้รับ และเพื่อสร้างความบาดหมางทางความรู้สึกที่มากขึ้น ผู้รับปลายทางจะต้องชำระเงินค่ารับการ์ดนี้เองด้วย ตลกร้ายเสียไม่มี!

 

แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันไม่ใช่เป็นเพียงแค่การส่งกันเล่นๆ ขำๆ เพราะในบริบทของสังคมยุคนั้น ผู้หญิงมักจะได้รับการ์ดเหล่านี้จากเหล่าชายหนุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิสตรี เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นการ์ดวิเนการ์นี้ออกแบบตัวละครผู้หญิงหน้าตาบิดเบี้ยวหรือล้อเลียน ‘ความไม่สวยงาม’ เสียส่วนใหญ่ จนกระทั่งมันเลิกฮิตไปในราวปี 1970

 

จากการ์ดใบเล็กๆ ที่เป็นเหมือนพยานความรู้สึกของคนสองคนสู่ไอเท็มชิ้นสำคัญในทุกๆ วาเลนไทน์ คงจะดีไม่น้อยถ้าหากปีนี้คุณอาจจะลองออกแบบการ์ดสวยๆ ด้วยตัวเองสักใบไว้ให้คนที่คุณรักก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์!

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising