‘เผ่าภูมิ’ คอนเฟิร์ม พิชัย รมว.คลัง นำทีมไทยแลนด์ ถกภาษี USTR คืนนี้ ชี้ไม่อยากให้มองแค่ตัวเลขที่ออกมา เพราะไทยจำเป็นต้องดูแลผู้ประกอบการส่วนอื่นๆ ในประเทศด้วย พร้อมส่งสัญญาณไม่เปิดตลาดแบบ Total Access อย่างชัดเจน
วันนี้ (17 กรกฎาคม) เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า จะมีการเจรจาภาษีกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) สหรัฐฯ ในช่วงเย็นหรือคืนวันนี้จริง แต่ยังไม่มั่นใจเรื่องกำหนดเวลานัดหมายที่ชัดเจนเวลา
ทั้งนี้ การเจรจาภาษีจะต้องพิจารณาใน 2 มิติ คือ 1. ผลกระทบในฝั่งผู้ส่งออก แม้ภาคการส่งออกจะมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในมูลค่ามหาศาล และ 2. อีกส่วนที่มีความสำคัญ หากประเทศไทยยอมเปิดตลาดสินค้าให้สหรัฐฯ มากจนเกินไปก็อาจจะมีสินค้าเข้ามาแข่งขันในประเทศ จนมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทย และส่งผลกระทบให้มีผู้เดือดร้อนมากขึ้น ซึ่งไทยจำเป็นต้องรักษาสินค้ายุทธศาสตร์ของประเทศไว้
ดังนั้น ไทยจำเป็นต้องพิจารณาสมดุลระหว่างผู้ส่งออก และผู้ประกอบการในภาคอื่นๆ ของประเทศให้ดี ไม่ว่าจะเป็น ภาคเกษตร ปศุสัตว์ หรือ SME ผู้ผลิตรายย่อยต่างๆ
“เพราะฉะนั้นโจทย์สำคัญ คือการบาลานซ์ ผู้ที่ชนะอาจไม่ใช่ผู้ที่เรตภาษีต่ำที่สุด แต่เป็นผู้ที่สามารถรักษาสมดุลไว้ได้มากที่สุด ถามว่าไทยจะทำแบบเวียดนามได้ไหมก็ตอบว่าทำได้ เราสามารถยื่นข้อเสนอแบบ Total Access ได้เลย เพื่อให้เรตต่ำที่สุด แต่ถามว่าคุ้มหรือไม่ ทีมเจรจาคงต้องมาชั่งดูความสมดุล ในฐานะรัฐบาลต้องดูแลคนทั้งประเทศให้เหมาะสมที่สุด” เผ่าภูมิกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าประเทศไทยจะไม่มียื่นข้อเสนอ Total Access เช่นเดียวกับที่เวียดนามกับอินโดนีเซียยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ใช่หรือไม่ เพื่อรักษาผู้ประกอบการในประเทศ
เผ่าภูมิ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นแบบนั้น โดยย้ำเหตุผลเรื่องความสมดุล
พร้อมทั้งระบุว่า “ขอให้อย่ายึดติดกับตัวเลขอัตราภาษีที่ลดลงมาที่ 20% ที่เวียดนามได้รับ เนื่องจากเวียดนามยังมีอีกอัตราภาษีที่ 40% ที่สหรัฐฯ นำมาใช้”
เผ่าภูมิยังระบุต่อว่า เวียดนามได้ตัวเลขภาษี 20% สำหรับสินค้าในประเทศ และ 40% สำหรับสินค้าส่งผ่าน (Transshipment) ที่มี Regional Value content ไม่ถึงเกณฑ์ ซึ่งหากสหรัฐฯ ใช้เกณฑ์ดังกล่าวมาเจรจากับไทย ก็มีแนวโน้มว่าไทยจะได้ข้อเสนอที่ดีกว่า เพราะไทยมีการผลิตในประเทศที่มากกว่า จากรากฐานอุตสาหกรรมที่มีมายาวนานกว่า