ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกาเห็นชอบคำสั่งต่อต้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ศาลสูงสุดระงับคำสั่งศาลมลรัฐที่ตัดสินในสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ยกเว้นคำสั่งดังกล่าวต่อผู้ลี้ภัยที่มีข้อผูกมัดตามสัญญาขององค์กรย้ายถิ่นฐานใหม่ต่างๆ ระหว่างที่ศาลทำการพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งดังกล่าวต่อไป
คำสั่งแบนการเดินทางครอบคลุมคนบางกลุ่มจากประเทศอิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย และเยเมน โดยประมาณการว่าคำสั่งศาลสูงสุดจะส่งผลกระทบต่อผู้ลี้ภัยประมาณ 24,000 คน
นับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ประเด็นข้อกังวลของขอบเขตคำสั่งแบนการเดินทางถูกพิจารณาในชั้นศาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังศาลสูงสุดตัดสินให้ใช้คำสั่งบริหารเพื่อห้ามการเดินทางคนจาก 6 ประเทศดังกล่าวได้ โดยให้เว้นไว้เพียงกลุ่มที่มีความสัมพันธ์อย่าง ‘สุจริต’ ต่อสหรัฐอเมริกา
สตีฟ วลาเดก (Steve Vladeck) ศาสตราจารย์นิติศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยเท็กซัส มองถึงกรณีนี้ว่า “ถึงแม้เราอาจจับแนวคำสั่งศาลได้ว่าเน้นการพิจารณาตามกฎหมายและหลักฐาน มันควรถูกมองในฐานะกระบวนการอย่างพอประมาณที่สุดเพื่อรักษาเสถียรภาพขอบเขตรวมของคำสั่งแบนการเดินทางในช่วง 4 สัปดาห์ต่อจากนี้เป็นต้นไป”
คาดการณ์ว่าศาลสูงสุดจะยกประเด็นความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งห้ามเดินทางนี้ขึ้นพิจารณาในวันที่ 10 ตุลาคม
ขณะที่ Amnesty International เรียกคำสั่งศาลสูงสุดนี้ว่า ‘หายนะต่อประชาชนผู้อ่อนแอที่ต้องการความปลอดภัยให้แก่ตัวเองและครอบครัว’
“คำสั่งแบนนี้เป็นสิ่งโหดร้าย และไม่ควรยินยอมรับอำนาจของคำสั่งนี้แม้แต่น้อย” นอว์รีน ชาห์ (Naureen Shah) ผู้อำนวยการโครงการความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน Amnesty International ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าว
Photo: ANDREW CABALLERO-REYNOLDS/AFP
อ้างอิง: