รถบัสโรงเรียน หรือ ‘รถรับส่งนักเรียน’ ควรเป็นยานพาหนะที่มีมาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและความพร้อมอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังต้องมีระดับความปลอดภัยที่สูงมาก เนื่องจากเกี่ยวพันกับชีวิตและความปลอดภัยของเด็กนักเรียนทุกคนภายในรถตลอดการเดินทาง
‘สหรัฐอเมริกา’ เป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานของ รถบัสโรงเรียน เป็นอย่างมาก โดยในแต่ละวัน รถบัสโรงเรียน ทั่วสหรัฐฯ ราว 5 แสนคันจะรับส่งนักเรียนมากกว่า 25 ล้านคนไป-กลับจากโรงเรียนและจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน เช่น การแข่งขันกีฬา การแข่งขันวิชาการ หรือทัศนศึกษา
คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ระบุว่า รถบัสโรงเรียนเป็น ‘ยานพาหนะที่ปลอดภัยที่สุด’ บนท้องถนน และเป็นหนึ่งในวิธีการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุดจากหลากหลายวิธี โดยเด็กนักเรียนที่เดินทางด้วยรถบัสโรงเรียนจะมีความปลอดภัยในการเดินทางมากกว่าเมื่อเทียบกับยานพาหนะอื่นๆ
ขณะที่สำนักงานบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ชี้ว่า เด็กนักเรียนที่โดยสารรถบัสโรงเรียนมีแนวโน้มที่จะเดินทางถึงโรงเรียนได้อย่างปลอดภัยสูงถึง 70 เท่า
ภาพ: Inside Creative House / Shutterstock
ส่องมาตรฐาน ‘รถบัสโรงเรียนสหรัฐฯ’
รถบัสโรงเรียนในสหรัฐฯ มักจะทา ‘สีเหลือง’ (National School Bus Yellow) ทั่วทั้งคันรถ เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ง่ายในทุกสภาพอากาศ และควรติดป้าย ‘รถโรงเรียน’ (School Bus) บริเวณมุมสูงของตัวรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อีกทั้งยังต้องมี ‘แขนหยุดรถ’ (Bus Stop Arm) รวมถึงสัญญาณไฟกะพริบต่างๆ บริเวณด้านข้างตัวรถ เพื่อให้เด็กที่กำลังขึ้น-ลงรถมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ส่วนภายในรถบัสโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นโครงเบาะที่นั่ง พนักพิงที่สูง รวมถึงระยะห่างของแต่ละแถวที่นั่ง ล้วนได้รับการออกแบบตามแนวคิด ‘Compartmentalization’ ที่จะทำให้เกิดการดูดซับแรงหรือพลังงาน เพื่อให้ผู้โดยสารภายในรถได้รับการปกป้องอย่างเต็มประสิทธิภาพหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุบนท้องถนน
โดยหลายรัฐของสหรัฐฯ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดา, นิวยอร์ก และรัฐเท็กซัส ต่างออกกฎหมายใหม่ ให้มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยบนรถบัสโรงเรียนอย่างจริงจัง ขณะที่ในอีกกว่า 25 รัฐทั่วประเทศอนุญาตให้รถบัสโรงเรียนสามารถติดตั้งกล้องจับภาพทั้งภายนอกและภายในรถ เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารอีกด้วย
ภาพ: Flocu / Shutterstock
นอกจากนี้รถบัสโรงเรียนสหรัฐฯ จะมี ‘ทางออกฉุกเฉิน’ (Emergency Exit) ซึ่งมักจะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถบัสโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นประตูฉุกเฉินด้านข้าง ด้านบนหลังคา รวมถึงประตูฉุกเฉินด้านหลัง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมากหากประตูด้านหน้าถูกปิดกั้นหรือมีเหตุขัดข้อง ทั้งนี้ จำนวนทางออกฉุกเฉินมักขึ้นอยู่กับขนาดรถบัสหรือจำนวนที่นั่งภายในรถ
สหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับทางออกฉุกเฉินเหล่านี้ โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่และมักมาพร้อมกับระบบที่เด็กนักเรียนสามารถเปิดประตูเหล่านี้ได้โดยง่ายจากภายในตัวรถ เพื่อให้เด็กๆ สามารถทยอยอพยพออกจากตัวรถบัสโรงเรียนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉิน หากมีความพยายามที่จะเปิดประตูฉุกเฉินในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่หรือไม่ได้เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น รถบัสโรงเรียนสมัยใหม่จะมีระบบแจ้งเตือนไปยังคนขับรถ
นอกจากอุปกรณ์และส่วนประกอบต่างๆ ที่จะส่งผลต่อคุณภาพและระดับความปลอดภัยของผู้โดยสารรถบัสโรงเรียนแล้ว คนขับรถบัสเองก็ต้องได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยที่แต่ละรัฐมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติในการออกใบอนุญาตภายในรัฐของตนเอง
ภาพ: Inside Creative House / Shutterstock
บทเรียนที่ไทยควรเรียนรู้
ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียน ซึ่งมักจะเป็นยานพาหนะที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้รับส่งเด็กนักเรียนโดยเฉพาะ เช่น รถตู้ รถสองแถวขนาดใหญ่ หรือรถกระบะต่อเติมหลังคาและเบาะนั่ง ซึ่งอาจไม่มีอุปกรณ์หรือส่วนประกอบที่จะส่งเสริมความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารมากเพียงพอเมื่อเทียบกับรถบัสโรงเรียน
บ่อยครั้งที่ยานพาหนะเหล่านี้ขาดการตรวจสภาพและความพร้อมในการใช้งาน รถบางคันมีอายุการใช้งานมานานมากและมีสภาพทรุดโทรม ยังไม่นับรวมปัญหาการบรรทุกผู้โดยสารเกินอัตรา ซึ่งล้วนแล้วแต่เพิ่มความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอันตรายบนท้องถนนได้มากยิ่งขึ้น
ภาครัฐอาจจำเป็นต้องกำหนดมาตรการที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับรถรับส่งนักเรียนและผู้ขับขี่รถรับส่งนักเรียน รวมถึงอาจสนับสนุนการใช้รถบัสโรงเรียนมากยิ่งขึ้น โดยสหรัฐฯ มีการบังคับใช้กฎหมายจราจรที่เข้มงวด อีกทั้งระบบรถบัสโรงเรียนในสหรัฐฯ ก็มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบจากทั้งระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละรัฐ ซึ่งจะต้องมีการตรวจเช็กคุณภาพรถและอบรมวินัยจราจร รวมถึงให้ความรู้แก่ผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนหรือผู้โดยสาร โดยเน้นย้ำถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ
ขณะที่หน่วยงานเอกชนรวมถึงสถานศึกษาต่างๆ ก็อาจจะต้องให้ความรู้และความเข้าใจแก่เด็กนักเรียนในระดับชั้นต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากยานพาหนะ
ภาพ: Prostock-studio / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://www.trackschoolbus.com/school-bus-rules-and-regulations/usa/
- https://www.ncsl.org/transportation/school-bus-safety
- https://www.law.cornell.edu/cfr/text/49/571.217
- https://www.ntsb.gov/Advocacy/SafetyIssues/Pages/School-Bus-Safety.aspx
- https://www.nhtsa.gov/sites/nhtsa.gov/files/00158.pdf
- https://www.nysbca.com/fastfacts
- https://www.bbc.com/news/articles/c0jwqzzw986o